ยังเชื่อใจไม่ได้?

วานนี้ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,345.77 จุด บวกไป 4.83 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.67 หมื่นล้านบาท จากแรงซื้อกลับหุ้นแบงก์-ค้าปลีก หลังจากระหว่างวัน มี Sentiment ต่างประเทศไม่ค่อยดีเอาเสียเลย ประเด็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของ DeepSeek ซึ่งเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพของจีนที่มีราคาถูกกว่า และประมวลผลได้เร็วกว่า ChatGPT ของ OpenAI จึงเขย่าราคาหุ้น Nvidia ผู้ผลิตชิป AI รายใหญ่ของสหรัฐฯ ร่วงลงหนัก ทำมาร์เก็ตแคปหายไปราว 17 ล้านล้านบาทในวันเดียวเลยจ้าาา

ปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐฯ ให้เกิดความสั่นคลอนอย่างมาก และกระทบมายังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีบ้านเราด้วยเช่นกัน อย่างหุ้น DELTA ดูเหมือนว่าได้รับ Sentiment จากแรงขายหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ เต็ม ๆ อย่างไม่ทันตั้งตัวต่อ กัดให้ราคาหุ้นลงมาปิดที่ระดับ 134.50 บาท ลบไป 3.50 บาท หรือลงไป 2.54% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.18 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองว่าหากคลื่นลมยังไม่สงบก็เป็นลบต่อเพคะ

เช่นเดียวกับรายของ CCET ร่วมหอลงโลงไปด้วยเช่นกัน คงเจอแรงเทขายเพื่อลดความเสี่ยงออกมา ฉุดให้ราคาหุ้นลงมาปิดที่ระดับ 8.20 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 2.96% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.46 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองว่าน้ำเชี่ยวอย่าเพิ่งไปขวาง ปล่อยให้ไหลตามน้ำไปก่อน ผนวกกับหากดูสัญญาณเทคนิคหมดรอบของขาขึ้นไปแล้ว รอมาตั้งรับบริเวณ 6.70 บาท หากไม่หลุดนะคะ

เหมือนในรายของ OSP วานนี้โดนเทขายหนัก ทำให้ราคาหุ้นลงมาปิดที่ระดับ 18.90 บาท ลบไป 1.60 บาท หรือลงไป 7.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 920 ล้านบาท จนทำ “ออลไทม์โลว์” เสียทรงไปเลย จากที่น้องโมไปเมาท์มอยมาก็มีการพุ่งเป้าว่าแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2567 อาจต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์เคยคาดไว้!! มิหนำซ้ำว่าส่วนแบ่งตลาดปีที่ผ่านมาลดลงเหลือ 45.80% งานนี้เลยถูกเทกระจาดจ้า

อย่างไรก็ดีมาเมาท์ในตัวหุ้น COCOCO สักหน่อย!!! ล่าสุดประกาศแผนลงทุนตั้งโรงงานในฟิลิปปินส์มูลค่า 430 ล้านบาท เพื่อรอรับการผลิตกะทิป้อนให้กับลูกค้ากลุ่มเดิม เพื่อช่วยลดต้นทุน และเพิ่มกำลังผลิตเป็น 155,000 ตันต่อปีในอนาคต หวังสนับสนุนต่อการขยายยอดขายในสหรัฐฯ และยุโรป งานนี้ส่งผลให้ราคาหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 10.20 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 3.03% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 367 ล้านบาท เจ้าค่ะ

ปิดท้ายในรายของ MTC มีการเข้ามาเก็บหุ้นอีกครั้ง หนุนให้ราคาหุ้นดีดตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 45.50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 281 ล้านบาท เพื่อลุ้นไปทดสอบแนวต้าน 47.75 บาท ด้วยปัจจัยบวกหลายฝ่ายประเมินกำไรไตรมาส 4/2567 ว่า กำไรสุทธิทะลุ 1.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน สิ่งสำคัญบริษัทมีการพัฒนาการจัดการคุณภาพสินทรัพย์ในเชิงบวกตั้งแต่ไตรมาส 3 มาแล้ว และการตามเก็บหนี้ยังมีแนวโน้มที่ดีต่อในปีนี้อีกด้วยจ้า

โมนิก้า: และทีมงาน