‘ใบโพธิ์’ สู้ศึกเวอร์ชวลแบงก์

ไทม์ไลน์สำคัญช่วงกลางปีนี้ จะได้รู้ดำรู้แดงกันเสียทีว่าใครจะได้ใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจธนาคารไร้สาขา หรือเวอร์ชวลแบงก์ (Virtual Bank) ไปครอง


ไทม์ไลน์สำคัญช่วงกลางปีนี้ จะได้รู้ดำรู้แดงกันเสียทีว่าใครจะได้ใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจธนาคารไร้สาขา หรือเวอร์ชวลแบงก์ (Virtual Bank) ไปครอง ซึ่งจะมีแค่ 3 รายเท่านั้น จากผู้ร่วมท้าชิงทั้งหมด 5 รายด้วยกัน โดย 5 รายที่ว่ามีกลุ่มไหนร่วมท้าชิงบ้างนั้น คงพอรู้กันอยู่แล้ว อย่าให้ต้องสาธยายซ้ำเลย…

สิ่งที่น่าสนใจในการมาของเวอร์ชวลแบงก์…แบงก์ดั้งเดิมจะปรับกลยุทธ์รับมืออย่างไร..??

ที่ผ่านมาเริ่มเห็นหลาย ๆ แบงก์ปรับตัวด้วยการมุ่งหารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมากขึ้น พยายามขยายฐานรายได้ค่าธรรมเนียม หรือค่าฟีให้มากขึ้น อย่างแบงก์สีฟ้า ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ชัดเจนว่างบงวดปี 2567 รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 6.8% ในขณะที่แบงก์สีเขียว ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการงวดปี 2567 ก็เพิ่มขึ้น 6.73% เช่นกัน

ซึ่งหนึ่งในแบงก์ใหญ่ที่เริ่มจัดกระบวนทัพรับมือกับการมาของเวอร์ชวลแบงก์ คงเป็นแบงก์สีม่วง ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือแบงก์ใบโพธิ์ ในกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ที่ล่าสุด “กฤษณ์ จันทโนทก” แม่ทัพใหญ่แบงก์ไทยพาณิชย์ ออกมาประกาศว่าโจทย์ใหญ่ในปี 2568 มี 4 เรื่องที่ต้องทำ ซึ่งมีทั้งเชิงรับและเชิงรุก..!!

ถ้าเป็นเชิงรับ…เรื่องแรกจะเน้นบริหารจัดการต้นทุน โดยตั้งโจทย์การแข่งกับเวอร์ชวลแบงก์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นั่นหมายความว่าจะต้องลดต้นทุนให้ใกล้เคียงกับเวอร์ชวลแบงก์ เพราะเวอร์ชวลแบงก์ทั่วโลกที่ประสบความสำเร็จ ต่างมีต้นทุนทางการเงินระดับ 30%

ขณะเดียวกัน จะมุ่งรักษาฐานที่มั่นกลุ่ม SME และรายย่อยให้เกิดการ Soft landing ให้ได้ พร้อมตั้งการ์ดสูงสำหรับลูกค้ากลุ่มใหม่

ส่วนเชิงรุก…จะรุกปั้นพอร์ตธุรกิจ Wealth การบริหารความมั่งคั่งให้ตอบโจทย์ลูกค้าทุกมิติ โดยปีนี้ปักหมุดเน้นเรื่องการวางแผนทางการเงินอย่างครบวงจร แน่นอนว่าต้นทุนของธุรกิจนี้ค่อนข้างต่ำ นั่นหมายถึงมาร์จิ้นก็จะดีกว่ากลุ่มอื่น ก็น่าจะเป็น Star อีกตัวของแบงก์ ซึ่งหากทำได้สำเร็จ จะหนุนให้แบงก์ไทยพาณิชย์ขยับขึ้นเป็นอันดับหนึ่งธุรกิจ Wealth ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

สุดท้ายเป็นเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์การก้าวไปสู่ Core Banking ใหม่ โดยจะเน้นบริการด้านการลงทุนบนแอปฯ SCB Easy มากขึ้น เพื่อช่วยสร้างรายได้ให้กับแบงก์อีกทาง ซึ่งจะทำให้ธนาคารฯ มีรายได้จากแอปฯ SCB Easy เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับหนึ่งในเป้าหมายหลักของธนาคารฯ ที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากช่องทางดิจิทัลเป็น 25% ในปี 2569 ส่วนปี 2568 ตั้งเป้าหมายรายได้จากดิจิทัลที่ 15% เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่อยู่ระดับ 13%

อันนี้เป็นเกมรุกและรับของแบงก์ไทยพาณิชย์ในการสู้ศึกเวอร์ชวลแบงก์ ซึ่งไม่เกี่ยวกับยานแม่ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ที่ไปเกี่ยวก้อยเป็นพันธมิตรกับ “WeBank” ธนาคารดิจิทัลชั้นนำในจีน และ KakaoBank ธนาคารยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ในการยื่นขอใบอนุญาตเวอร์ชวลแบงก์จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นะ…

มันคนละส่วนกัน…โปรดรับทราบตามนี้…

โอเค…การปรับตัวของแบงก์ไทยพาณิชย์ตามกลยุทธ์ข้างต้น ต้องดูว่าหลังเวอร์ชวลแบงก์เกิดขึ้นแล้ว จะมาดิสรัปชันแบงก์ดั้งเดิมจริงหรือไม่..?? ต้องรอวันพิสูจน์

อ้อ…ที่ต้องรออีกอย่างคงเป็นการจ่ายเงินปันผลของ SCB ยานแม่ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่างวดครึ่งหลังปี 2567 จะจ่ายปันผลอีก 7-8 บาท เชียวนะ

ถ้าเป็นดังที่คาด…ผู้ถือหุ้นเตรียมเป๋าตุงได้เลย..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button