ทำไมต้องรอผลสอบ
ก่อนอื่น ต้องขอแสดงความยินดีกับกระทรวงพาณิชย์ ที่ร่วมกันผลักดันจนเกิดการลงนาม FTA ประวัติศาสตร์ EFTA 4 ประเทศขึ้นมาได้
ก่อนอื่น ต้องขอแสดงความยินดีกับกระทรวงพาณิชย์ ที่ร่วมกันผลักดันจนเกิดการลงนาม FTA ประวัติศาสตร์ ความตกลงการค้าเสรีไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) 4 ประเทศขึ้นมาได้
พิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ถึงกับระบุว่า ประเทศไทยกลับเข้ามาสู่แผนที่โลกแล้ว หลังจากหายไป 10 ปีที่ไม่มีการเจรจาเขตการค้าเสรี (ความจริงก็ตั้งแต่การรัฐประหาร 2549 หรือกว่า 18 ปีที่ผ่านมาแล้วนั่นแหละ)
4 ประเทศนั้นก็คือ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ลิกเตนสไตน์ และไอซ์แลนด์ ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ไทยกับ EFTA มีมูลค่าการค้าขายระหว่างกันรวม 11,787.37 ล้านเหรียญสหรัฐ (กว่า 4 แสนล้านบาท) คิดเป็น 1.94% ของการค้าไทยกับโลก
ป้ายต่อไปคือ FTA ไทย-ประชาคมยุโรป 27 ประเทศ ซึ่งตั้งเป้าจะลงนามให้เสร็จภายในปีนี้
สัปดาห์ที่แล้ว ผมเขียนบทความเรื่อง “รู้กฎหมาย ไม่รู้เรื่องพลังงาน” กล่าวถึงเรื่องยุ่ง ๆ ในกระทรวงพลังงานยุครื้อ–ลด–ปลด–สร้างของรมว.พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค พร้อมทั้งแสดงความเป็นห่วงว่า คำสั่งระงับการเซ็นสัญญากับผู้ชนะประมูลของรัฐมนตรี อาจทำให้ค่าไฟฟ้างวด 2 (พ.ค.-ส.ค. 68) อาจแพงขึ้น เพราะไม่มีถ่านหินป้อนโรงไฟฟ้า
บัดนี้มีผลคลี่คลายแล้วครับ จากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ของกฟผ.วินิจฉัย ให้ยกอุทธรณ์คำร้องของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ทั้ง 3 ประเด็น ตามรายงานข่าวของน.ส.พ.ข่าวหุ้นธุรกิจ ฉบับวันพุธที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา
ข้ออุทธรณ์ที่ 1 ทีโออาร์ของกฟผ.กำหนดให้ขุดดินที่ระดับ +203 รทก (ระดับน้ำทะเลปานกลาง) แต่ ITD ยื่นเอกสารจะขุดดินลึกลงไปแค่ระดับ +126 รทก. นอกจากนั้นทีโออาร์ยังกำหนดให้ผู้เสนอราคาต้องเสนอรายละเอียด ชนิด ขนาด และจำนวนเครื่องจักรกลทั้งหมด แต่ ITD ไม่เสนอรายละเอียดในเรื่องนี้เลย
มิหนำซ้ำ ยังนำข้อเสนอวางแนวสายพานในพื้นที่สัญญา 9 ซึ่งเป็นพื้นที่ภายใต้อีกสัญญาหนึ่ง (สัญญาประมูลคือ 8/1) ซึ่ง ITD เป็นคู่สัญญากับกฟผ.อยู่
ข้ออุทธรณ์ในประเด็นนี้จึงฟังไม่ขึ้น
ข้ออุทธรณ์ที่ 2 ต้นฉบับกับสำเนา ไม่ตรงกัน กรณีรายงานผลการตรวจสอบสภาพเครื่องโม่ดิน ซึ่งเอกสารต้นฉบับกับสำเนาของ ITD ขัดแย้งกัน ทีโออาร์ให้ยึดถือ “ต้นฉบับ” เป็นสำคัญ ยกอุทธรณ์!
ข้ออุทธรณ์ที่ 3 ITD ไม่ได้เสนอแผนการปรับปรุงสภาพ (Reconditioning) ของสายพานลำเลียงดินและเครื่องโปรยดินเลย ดังนั้นข้ออุทธรณ์ในประเด็นนี้จึงฟังไม่ขึ้น
ผลการวินิจฉัยข้ออุทธรณ์เป็นเช่นนี้! มีทั้งข้อเสนอขุดดินระดับต่ำกว่าทีโออาร์ วางแนวสายพานในพื้นที่อื่นอันไม่เป็นไปตามทีโออาร์ ต้นฉบับก็ดันไม่ตรงกับสำเนา และไม่ได้เสนอแผนปรับปรุงสภาพของสายพานลำเลียงดินและเครื่องโปรยดิน อันเป็นสาระสำคัญตามทีโออาร์กำหนด
จึงสมแล้ว ที่คณะกรรมการประมูลของกฝผ.ปัดตกอิตาเลียนไทยฯ ตั้งแต่รอบคุณสมบัติ และตัดสินให้บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ หรือ SQ ที่คุณสมบัติครบและเสนอราคาประมูลต่ำราคากลาง เป็นผู้ชนะประมูลไป
อันที่จริงการตัดสินประมูล ย่อมมีทั้งผู้ได้และผู้เสีย การยื่นอุทธรณ์ของผู้เสีย ย่อมถือเป็นวิถีทางโดยชอบ และหน่วยงานว่าจ้างก็ต้องจัดตั้งคณะกรรมการอุทธรณ์ขึ้นมาเพื่อพิจารณา แต่เมื่อผลอุทธรณ์ออกมา ทุกฝ่ายก็ต้องให้การยอมรับ หากไม่รับก็ยังมีที่พึ่งอีกทางคือการฟ้องศาล
แต่นี่ แทนที่เรื่องราวจะเดินไปตามระบบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายพีระพันธุ์ กลับส่งคำสั่งไปยังผู้ว่าการกฟผ.ลงวันที่ 19 พ.ย. 67 ให้ระงับดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างงานจ้างเหมาขุด–ขนถ่านไว้จนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเสร็จสิ้น
โดยอ้างหนังสือคัดค้านการประมูลของพล.ท.ดร.เจียรนัย วงศ์สอาด บอร์ดกฟผ.คนเดียวที่คัดค้าน และยังอ้างการยื่นอุทธรณ์ของบมจ. ITD อีกด้วย
อำนาจตามกฎหมายในการออกคำสั่งระงับการประมูลของรัฐมนตรี ยังน่าสงสัย เพราะพ.ร.บ.การจัดตั้งกฟผ.ระบุขอบเขตอำนาจรัฐมนตรีเพียงแค่การกำกับดูแลกฟผ.ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐบาลหรือมติครม.เท่านั้น
รัฐมนตรีไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับการประมูลงานขุดและขนถ่านหินของกฟผ.ด้วย?
นอกจากนั้นในข้อเท็จจริง ก็เป็นที่รู้กันดีว่าพล.ท.ดร.เจียรนัยเคยช่วยงานด้านกฎหมายให้นายพีระพันธุ์ในคดีโฮปเวลล์ และเข้ามาเป็นบอร์ดกฟผ.ภายหลังนายพีระพันธุ์เข้ามารับตำแหน่งเจ้ากระทรวงประมาณ 5 เดือน
ส่วนเส้นทาง ITD มายังนายพีระพันธุ์ มาโดยความสัมพันธ์กับพล.ท.เจียรนัย หรือความสัมพันธ์ใด ยังไม่มีรายงานข่าวยืนยันแน่ชัด
ผลการพิจารณาอุทธรณ์ ซึ่งดำเนินมาตามระบบแบบแผนกฎหมาย ออกมาแล้ว ส่วนผลการสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่รัฐมนตรีแต่งตั้งพล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร และมีข้อเคลือบแคลงเกี่ยวกับอำนาจรัฐมนตรี ยังไม่ออกมา
ปัญหาว่าจะรอผลสอบจนถ่านหินขาดแคลนและจะตอบคำถามอย่างไรดีว่า ทำไมต้องรอผลสอบ
ชาญชัย สงวนวงศ์