DeepSeek เผชิญหน้า Microsoft

หลังปรากฏการณ์แจ้งเกิดของ DeepSeek สตาร์ทอัพ AI สัญชาติจีน สร้างความสั่นสะเทือนวงการยักษ์เทคระดับโลกของสหรัฐฯ


หลังปรากฏการณ์แจ้งเกิดของ DeepSeek สตาร์ทอัพ AI สัญชาติจีน สร้างความสั่นสะเทือนวงการยักษ์เทคระดับโลกของสหรัฐฯ จนทำให้วันเดียวหุ้น NVDIA ยักษ์เทคโลกสัญชาติสหรัฐฯ รูดหนักกว่า 17% มาร์เก็ตแคปหายไปกว่า 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 20 ล้านล้านบาท) ช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ถือเป็นการปรับลดลงวันเดียวครั้งใหญ่สุดเพียงบริษัทแห่งเดียวในประวัติศาสตร์สหรัฐ

ด้วยความสำเร็จของ DeepSeek กลายเป็นตัวบั่นทอนความเชื่อเดิม ๆ ที่ว่างบประมาณที่มากขึ้นและชิปที่มีสมรรถนะระดับสูงสุด ถือเป็นหนทางเดียวที่จะพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) นั่นจึงสร้างความไม่แน่นอนอย่างมากเกี่ยวกับความต้องการและอนาคตของชิปประสิทธิภาพสูงอย่างมีนัยสำคัญ..!!

ล่าสุด Microsoft และ OpenAI กำลังดำเนินการตรวจสอบว่า ข้อมูลที่ส่งออกจากเทคโนโลยีของ OpenAI อาจถูกเก็บสะสมและนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ด้วยฝีมือกลุ่มคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสตาร์ทอัพปัญญาประดิษฐ์ (AI) สัญชาติจีน อย่าง DeepSeek หรือไม่..!?

โดยมีรายงานข่าวว่า นักวิจัยด้านความปลอดภัยของ Microsoft สังเกตเห็นกลุ่มคนที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับ DeepSeek ทำการขโมยข้อมูลจำนวนมากโดยใช้ Application Programming Interface (API) ของ OpenAI ที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถขอใบอนุญาตสำหรับการใช้งาน API ดังกล่าว เพื่อผนวก AI ของ OpenAI เข้ากับแอปพลิเคชันของตนเองได้

เรื่องนี้ Microsoft ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อ OpenAI แล้ว การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายการละเมิดข้อกำหนดในการให้บริการของ OpenAI หรืออาจบ่งชี้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้พยายามฝ่าฝืนและนำข้อจำกัดเกี่ยวกับปริมาณข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้ออกไป

ช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา DeepSeek ได้เปิดตัว AI รุ่นใหม่ ที่มีชื่อว่า DeepSeek-R1 โดยเป็นโมเดล AI แบบ open-source ซึ่งเปิดให้นักพัฒนาจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงโค้ดต้นฉบับ (Source Code) เพื่อใช้ร่วมกันพัฒนาตัวโมเดลได้

ทั้งนี้ AI ดังกล่าวสามารถเลียนแบบการใช้เหตุผลของมนุษย์ได้ และถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตลาด AI ที่ถูกครอบงำโดยบริษัทจากสหรัฐฯ อย่าง OpenAI, Google และ META เป็นต้น

จุดเด่นของโมเดล DeepSeek-R1 สามารถแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ของนักพัฒนาชั้นนำจากสหรัฐฯ ได้อย่างสูสีหรืออาจเหนือกว่าในบางด้าน เช่น เกณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรม งานคณิตศาสตร์ และความรู้ทั่วไป

ที่สำคัญ DeepSeek-R1 มีต้นทุนที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งในปัจจุบัน..!!!

นั่นจึงทำให้ DeepSeek-R1 กลายเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อความได้เปรียบของบริษัทเทคโนโลยีในอุตสาหกรรม AI จากสหรัฐฯ จึงส่งผลให้ราคาหุ้นเทคโนโลยีหลายตัว เช่น Microsoft, NVIDIA, Oracle, Alphabet ปรับลงอย่างหนัก และสูญเสียมูลค่าทางตลาดรวมกันกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณกว่า 34 ล้านล้านบาท)

“เดวิด แซคส์” หัวหน้าฝ่าย AI ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า มีหลักฐานสำคัญที่พิสูจน์ว่า DeepSeek ได้ทำการใช้ข้อมูลที่ส่งออกจาก OpenAI เพื่อใช้พัฒนาเทคโนโลยีของตน โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า Distillation ที่เป็นกระบวนการนำข้อมูลส่งออกจากโมเดล AI อื่น มาฝึกสอนโมเดล AI ของตน เพื่อให้มีความสามารถที่คล้ายคลึงกันนั่นเอง..!!

Back to top button