กดดันหนักมากทายท้าวิชามาร

ใบตองแห้ง

 

นายกรัฐมนตรีผู้เก็บปากเก็บคำมาทั้งสัปดาห์ หลังจากสัปดาห์ก่อนระเบิดอารมณ์เมื่อผู้สื่อข่าวซักถาม เพิ่งพูดในรายการคืนวันศุกร์ว่าจะเอาผิดพวกในโซเชียลมีเดียที่พูดไม่มีสาระ ไม่มีหลักฐาน พูดเรื่อยเปื่อย ท่านเป็นถึงนายกฯ เป็นทหาร เป็นอดีต ผบ.ทบ. ไม่ใช่หมูหมากาไก่  จำไว้ด้วย

ฟังแล้วชัดเจนท่านไม่พอใจกระแสวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งกระทบไปถึงรัฐบาลคสช. กระทบถึงตัวท่าน ท่านว่าคนวิจารณ์เจตนาไม่สุจริต ต่อต้าน บิดเบือน ท่านกำลังแก้ปัญหาประเทศ ทุกคนต้องร่วมมือ อย่าแสดงความเห็นต่าง ประชาธิปไตยอย่างเดียวไปไม่ได้ ถ้าประชาชนยังคิดเองไม่เป็น ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย (ซึ่งก็คือคำสั่ง คสช.)

รัฐบาลยังลงโฆษณา “แผนภาพการบริหารราชการแผ่นดิน” ซึ่งสรุปได้ว่า ประเทศไทยอยู่ในทศวรรษแห่งความมืดมน ถ้าไม่เพราะคสช.ยึดอำนาจ วงจรอุบาทว์อาจนำประเทศไปสู่ชาติที่ล้มเหลวทั้งยังโฆษณาวิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ชาติ ที่ คสช.จะวางไว้บังคับให้รัฐบาลจากเลือกตั้งทำอีก 20 ปี

เห็นชัดว่ารัฐบาลคสช.กำลังกดดันหนักมาก หลังจากบริหารประเทศมาเกือบสองปี ซึ่งไม่ง่ายเลย ยิ่งอยู่นาน ยิ่งต้องแบกปัญหาต่างๆ ประดังซับซ้อน ผิดสูตรรัฐประหารยุคใหม่ ที่เข้ามาเป็นพระเอกกวาดล้างจัดระเบียบแล้วรีบไป “มาเร็ว เคลมเร็ว ไปเร็ว” ไม่ใช่ติดหล่มอยู่กับการใช้อำนาจ ซึ่งแม้จะมี ม.44 แต่บางครั้งก็ใช้ได้ผลดี บางครั้งก็เจอคดีนายตำรวจแขวนคอตายปริศนา

คสช.หวังร่างรัฐธรรมนูญเป็นทางลงจากหลังเสือ แต่ กรธ.เปิดร่างแรกออกมาแค่ 2 สัปดาห์ก็ “ลุกเป็นไฟ” ไม่ใช่แค่นักการเมือง ไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่แค่นักวิชาการประชาธิปไตย แต่พวก NGO พันธมิตรเก่า ก็ออกมาเต้น ขณะที่ สนช.สปท.ก็ยำไปคนละทาง

รัฐธรรมนูญไม่ผ่านไม่ได้นะครับ ถ้าแพ้ประชามติ อย่าบอกว่าแพ้ล้านเสียงยังปรับใช้ใหม่ ในความเป็นจริง ถ้าแพ้แม้แต่คะแนนเดียว สถานการณ์การเมืองก็เปลี่ยนไป เสถียรภาพรัฐบาลจะไม่เหมือนเดิม แม้ยังมีทหารทั้งกองทัพ

ปัญหาของ คสช.คือใจหนึ่งก็อยากให้รัฐธรรมนูญผ่าน เพื่อกลับบ้านโดยเร็ว (โดยเฉพาะท่านนายกฯ) เพราะเห็นแล้วว่ายิ่งอยู่นานยิ่งลำบาก (ยิ่งถูกถาม ทหารมีไว้ทำไม) แต่อีกด้านก็ต้องการวางกลไกควบคุมอำนาจที่มั่นใจได้ควบคุมสังคมไม่ให้กลับไปเป็นประชาธิปไตยที่ท่านเห็นเป็น “วงจรอุบาทว์” ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะสวนความต้องการประชาชน สวนเสรีภาพประชาธิปไตยที่พัฒนามาไกล ชาวบ้านเคยเลือกนายกฯ เลือก ส.ว. จะถอยหลังไปเป็นคนนอกเป็นการสรรหาหรือเลือกเฉพาะกลุ่มได้ไง

รัฐบาล คสช.จึงอยู่ในความเครียด กดดัน แล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากใช้อำนาจปิดกั้นการเคลื่อนไหวต่างๆ ตั้งแต่เหนืออีสานจรดใต้ ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวทหารสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของกลุ่มค้านเหมืองแร่ที่อุดร ที่เพชรบูรณ์ เวทีวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญที่อำนาจเจริญ เวทีเสวนาที่ยะลา โดยเฉพาะขบวนล้อการเมืองฟุตบอลประเพณี จุฬา-ธรรมศาสตร์ ซึ่งไม่ได้ผล ซ้ำยังเป็นข่าวไปทั่ว

ความเครียดนี้จะหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่มีทางออก ลงก็ไม่ได้ อยู่ต่อก็ลำบาก ถ้าเดินหน้าสู่ประชามติก็อันตราย ไม่ใช่แค่ผลแพ้ชนะ แต่ 5-6 เดือนข้างหน้าจะเต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวที่คุมไม่ได้ แต่ถ้าล้มร่างรัฐธรรมนูญแบบครั้งบวรศักดิ์ นักข่าวก็จะถามให้ปรี๊ดอีก “เลือกตั้งเมื่อไหร่ๆๆ” ต้องตอบชาวโลกชาวไทย กระแสกดดันก็จะไปอีกอย่าง ไม่ได้เบากว่ากัน

มองไม่เห็นทางออกจริงๆ แต่ใครรักท่าน ใครสำนึกบุญคุณ คสช.ทำให้พ้นวงจรอุบาทว์ ก็ช่วยให้กำลังใจมากๆ หน่อย