พาราสาวะถี

ถามว่าได้ผลหรือไม่กับมาตรการตัดไฟ 5 จุดที่ กฟภ.ส่งขายให้ฝั่งเมียนมา เพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากการติดตามสถานการณ์แนวชายแดนของผู้สื่อข่าวหลายสำนัก น่าจะเริ่มเห็นผลกระทบ โดยเฉพาะที่จังหวัดเมียวดี และเมืองชเวโก๊กโก่ พื้นที่ติดต่ออำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จากค่ำคืนวันที่ สมช.มีมติให้ตัดไฟ มีการจุดพลุ และเปิดไฟกันอย่างสว่างไสว แต่คืนวันพุธที่มีการตัดไฟเป็นวันแรก พบว่ามีการลดการใช้ไฟฟ้าลง 40% ไม่ปรากฏภาพตึก China view ที่เคยเปิดไฟโชว์ความอลังการ อันถือเป็นแลนด์มาร์กของเมือง

ด้านชายแดนฝั่งตรงข้ามอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เมื่อมองจากมุมสูงของอำเภอแม่สายไปยังเมืองท่าขี้เหล็ก ฝั่งเมียนมาพบว่ามีแสงไฟฟ้าบางตาไม่สว่างไสวเหมือนก่อนถูกตัดไฟฟ้า ขณะที่บรรดาห้าง ร้าน โรงแรมต่าง ๆ ก็พบว่ามีการเปิดใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด ขณะที่เมืองพญาตองซู ฝั่งตรงข้ามอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีตกอยู่ในความมืดมิด โดยที่กองทัพกะเหรี่ยงเพื่อประชาธิปไตย DKBA แถลงการณ์พร้อมร่วมมือกับไทย นี่อาจพออนุมานได้ว่ามาตรการครั้งนี้น่าจะได้ผล

อย่างไรก็ตาม คงต้องรอผลจากการเดินทางไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการของ แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งได้พบปะหารือกับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีนก่อน จะมีมาตรการเชิงรุกเพิ่มเติมหลังจากนี้อีกหรือไม่ คงไม่ใช่แค่การกดดันด้วยการตัดไฟ ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และงดส่งน้ำมันเท่านั้น เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการแก้ปัญหา และเป็นการกำจัดบรรดาจีนเทาที่อาศัยเพื่อนบ้านของไทยเป็นฐานในการสร้างความเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า คงต้องมีการหารือกับประเทศต้นตอของแหล่งอาชญากรรมออนไลน์

บทบาทดังว่าต้องมีจีนเป็นแกนหลัก ด้วยสภาพปัญหาภายในของเมียนมาที่รัฐบาลทหารไม่ได้กุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หลายพื้นที่ยังอยู่ภายใต้การดูแลของชนกลุ่มน้อยที่มีอิทธิพล จึงต้องมีการขีดเส้นและใช้บารมีของจีนในการกดดันเพื่อให้เกิดการตั้งโต๊ะเจรจา หาทางจัดการกับขบวนการจีนเทา หรือเหล่าอาชญากรตัวเอ้ทั้งที่เป็นคนไทย และเหล่าผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ สัญญาณที่ถูกส่งมาจากแดนมังกรนั้นชัดเจนว่า ต้องช่วยกันล้างบางแก๊งเหล่านี้ให้สิ้นซาก

หากทำสำเร็จ เท่ากับว่านี่เป็นหนึ่งในความสำเร็จของรัฐบาลแพทองธารที่สามารถทำตามนโยบายซึ่งได้แถลงต่อรัฐสภาไป ถ้าย้อนไปฟังในการแถลงของนายกฯ หญิงเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 มีการประกาศชัดรัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อป้องกันผลประโยชน์ของประชาชน โดยการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และรับมือกับอาชญากรรมออนไลน์อย่างรวดเร็ว ช่วยเหลือเหยื่อของมิจฉาชีพอย่างทันท่วงที 

สิ่งที่จะดำเนินการคือ การผนึกกำลังกับประเทศเพื่อนบ้าน สร้างกลไกการร่วมรับผิดชอบของบริษัทผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมและธนาคารพาณิชย์ ทั้งหมดนี้ได้เห็นการขับเคลื่อนอย่างเข้มข้นในปัจจุบัน หลังจากการรุกคืบด้วยมาตรการตัดไฟ ที่จะตามมาในเดือนกุมภาพันธ์นี้การประกาศในราชกิจจานุเบกษาของร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่. …) พ.ศ. …หรือ พ.ร.ก.ไซเบอร์

สาระสำคัญคือ ให้ธนาคารรายงานข้อมูลการเงินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพื่อให้การคืนเงินแก่ผู้เสียหายทำได้รวดเร็ว และมีกำหนดโทษผู้ที่ซื้อขายหรือเปิดเผยรายการส่วนบุคคล ทั้งที่ทำเพื่อการค้าหรือเสนอว่าจะให้ รวมถึงให้สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการโทรคมนาคม สื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ​หรือ เอ็กซ์ ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชน หากไม่ระมัดระวังดูแลระบบที่ปลอดภัย สรุปคือให้ธนาคารและผู้ให้บริการด้านการสื่อสารร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายของคนที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั่นเอง

คู่ขนานกันอีกเรื่องกับการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คือการปราบปรามยาเสพติดที่แพทองธารได้เปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” โดยการคุมเข้มพื้นที่ 51 อำเภอชายแดน มีหลักเกณฑ์การประเมินผลงาน ที่จะส่งผลต่อการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งด้วย สุดท้ายทั้งสองเรื่องก็จะหลอมรวมสู่เป้าหมายเดียวกัน ทำให้ชายแดนปลอดภัย ส่งผลต่อการทำมาค้าขายแนวชายแดน และการที่ ทักษิณ ชินวัตร ได้นั่งเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียนด้วย ย่อมใช้ประโยชน์จากตรงนั้น มาช่วยให้การทำงานของรัฐบาลไทยที่จะขอความร่วมมือจากเพื่อนบ้านได้สะดวก และง่ายยิ่งขึ้น

ยังวิเคราะห์ วิจารณ์กันไม่จบต่อผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่ผ่านไป ปมทักษิณสิ้นมนต์ขลัง มองเป็นแค่สีสัน ทำให้ข่าวได้รับความสนใจก็เท่านั้น เอาเข้าจริงที่สรุปบทเรียนกันได้เบื้องต้น ผลที่ออกมามีเพียงบางจังหวัดเท่านั้นที่แนวโน้มการเลือกของประชาชนจะสัมพันธ์กับการเลือก สส. เพราะยังมีตัวแปรหลายประการที่ทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างการเลือกตั้งท้องถิ่นกับการเลือกตั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขของคนที่ออกไปใช้สิทธิ์ ที่มีผลโดยตรงกับการสาดกระสุนแบบหวังผล 

การเมืองแบบล็อกเป้าเช่นนี้ บรรดาหัวคะแนนของแต่ละพรรคการเมือง หรือนักการเมืองท้องถิ่นนั้นถือว่ามีความจัดเจนเป็นอย่างยิ่ง อาจมีข้อถกเถียงว่าแล้วทำไมหลายพื้นที่แชมป์เก่าถึงสอบตก จุดนั้นก็เป็นสิ่งที่ฝ่ายพ่ายแพ้ต้องนำไปหาข้อบกพร่อง กระสุนสู้เต็มที่แล้ว แต่อาจพ่ายต่อกระแส หรือแท้ที่จริงเป็นเพราะผลจากการทำงานที่ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง จนทำให้คนเกิดความเบื่อหน่าย และต้องการเปลี่ยนแปลง

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ใครที่ปรามาสทักษิณว่าไร้น้ำยา ตามไม่ทันบริบทการเมืองที่เปลี่ยนไปจาก 17 ปีที่แล้ว ถือเป็นการประเมินที่ต่ำเกินไป ต้องเชื่อเหมือนอย่างที่เสี่ยหนูว่า จอมยุทธ์ยังไงก็คือจอมยุทธ์ เมื่อมองเห็นกระบวนท่าของคู่ต่อสู้แล้ว ย่อมหาวิธีการที่จะแก้ทางเพื่อกำราบคู่ต่อสู้ให้ได้ ผลจากการเลือก สว.จนมาถึง อบจ. อาจทำให้เห็นว่าพรรคสีน้ำเงินมาเหนือเมฆ อ่านเกมได้ขาดกว่าทุกพรรค ทุกขั้วการเมือง แต่อย่าลืมประสาคนหัวไว เรียนรู้เร็ว เห็นจุดโหว่ เข้าใจข้อผิดพลาด เมื่อรีบทบทวน และปรับกลยุทธ์ ย่อมสามารถที่จะกลับมาเป็นผู้ชนะแบบพลิกฝ่ามือได้

อรชุน