หุ้นอาหารอย่างเละ

การที่ดัชนีพยายามเทคตัวหลังจากลงแรง ก่อนประคองตัวตลอดช่วงบ่าย และพุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ 1,282.09จุด บวกไป 20.02 จุด


การที่ดัชนีพยายามเทกตัวหลังจากลงแรง ก่อนประคองตัวตลอดช่วงบ่าย และพุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ 1,282.09 จุด บวกไป 20.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.75 หมื่นล้านบาทนั้น “โมนิก้า” มองเป็นฟอร์มดีสุดเท่าที่จะทำได้ในเวลานี้ เพราะเมื่อเหลือบดูปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบเป็นลูกโซ่ ก็เป็นแรงบีบคั้นที่ทำให้นักลงทุนต้องชิ่งหนีกันเป็นแถว ซึ่งเห็นได้จากพฤติกรรมของกองทุนที่พูดกันหนาหูเป็นของแทร่! พอเอาเข้าจริงก็เปิดตูดหนีเป็นคนแรก ๆ เหมือนกับคนอื่นเจ้าค่ะ

ที่น่าตกใจคืออาการหวาดผวากำลังลุกลามไปยังหุ้นกลุ่มอื่นมากขึ้น และกลายเป็นแรงบีบคั้นที่มากขึ้นเป็นทวีคูณ โดยเฉพาะในช่วงของการประกาศงบปี 67 ซึ่งหุ้นหลายตัวทำผลงานได้อย่างโดดเด่น แต่เมื่อเจาะลงไปในรายละเอียดของงบไตรมาส 4 ปี 67 จะเห็นกันเต็มตาว่า กำไรลดฮวบกันเป็นแถว หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ งบปีออกมาดีเพราะกินบุญเก่าที่สะสมไว้ บรรดานักลงทุนเลยกังวลว่า ไตรมาส 1 ปี 68 จะแย่ลงกว่าเดิมน่ะซี

ขนาดหุ้นอาหารเพื่อสุขภาพตัวพ่อ OKJ ยังถูกนักลงทุนสถาบันถล่มยับตั้งแต่เปิดเทรด จนราคาหุ้นลงมากองอยู่ที่ระดับ 10.90 บาท ลบไป 4.70 บาท หรือลงไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.22 พันล้านบาท ทั้งที่กำไรปี 67 โตกว่า 40% แต่มีการอ้างเหตุว่า โตต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 75% รวมทั้งกำไรไตรมาส 4 ปี 67 ก็ลดกว่า 30% จึงพากันคิดว่า ไตรมาส 1 ปี 68 กำไรมีสิทธิ์ร่วงอีก เพราะสภาพเศรษฐกิจไม่เอื้อพะย่ะค่ะ

ผลข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมาพูดถึงหุ้นสุกี้เจ้าดังอย่างเอ็มเค M เป็นคำรบที่สอง เพราะเป็นหุ้นอีกตัวที่ทำกำไรลดลงต่อเนื่อง ผนวกกับธุรกิจมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้นทุกวัน จึงทำให้นักลงทุนรินหุ้นออกมาเรื่อย ๆ แต่ล่าสุดหุ้นเด้งขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 17.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือลงไป 2.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 72 ล้านบาท พร้อมกับสลัดอาการเดี้ยงหลังจากอีฉันเม้าท์ให้ฟังเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนแบบนี้..มองไม่ออกว่า วันนี้จะเป็นเช่นไรจ้า!

ประเด็นข้างต้นทำให้อีฉันต้องเอ่ยถึงหุ้นหมูแผ่น CHAO เป็นรายถัดมา เพราะเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่มีแรงขายออกมาเป็นระยะ จนล่าสุดหุ้นยืนปิดที่ระดับ 5.35 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6 ล้านบาท และเกือบจะทำ all time low แต่เมื่อเหลือบดูผลงานงวด 9 เดือนปี 67 ก็ไม่ได้ขี้เหร่ชนิดดูไม่ได้ แถมหุ้นก็เทรดบน PE 10 เท่าอีกต่างหาก แสดงว่า คนกังวลไตรมาส 4 ปี 67 จะทรุดหนักกระมัง!

ที่น่าแปลกใจไปกว่านั้นคือหุ้นแซนวิช NSL ซึ่งเป็นสินค้าที่วางขายในเซเว่น กลับถูกขายแบบไม่มีเยื่อใย ทั้งที่ผลงานงวด 9 เดือนปี 67 ก็โตกว่าผลงานทั้งปี 66 แต่ราคาหุ้นกลับอ่อนตัวลงมาเรื่อย ๆ ท่ามกลางแรงขายที่เบาบาง “โมนิก้า” ตีความได้อย่างเดียวว่า นักลงทุนไม่มั่นใจ โดยระหว่างวันหุ้นก็เด้งขึ้น ก่อนจะปิดที่ระดับ 25.75 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25 ล้านบาท แบบงง ๆ นะนายจ๋า

ส่วนหุ้น “ข้าวโพดหวาน มันหวาน” อย่างเดอะซัน SUN ก็มีช็อตให้ติดตามว่า การเด้งกลับมาปิดที่ระดับ 3.10 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3 ล้านบาท คืออาการหายตกใจแล้วใช่ไหม? ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง เพราะการเทรดบน PE 7 เท่า ถือเป็นระดับที่ต่ำเกินไปจริง ๆ แต่ถึงกระนั้นก็ต้องดูยาว ๆ หลังราคาหุ้นเคยตกกราวรูดแบบไม่ทันตั้งตัวมาแล้วจ้า!

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น TKN เพื่อชี้ให้เห็นการแกว่งตัวออกด้านข้างเป็นเวลานาน และไม่ยินดียินร้ายกับภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวนนั้น ล้วนมาจากหุ้นไหลลงมาเยอะแล้ว ผนวกกับแรงขายซาลงอย่างเห็นได้ชัด อีฉันเลยมองการยืนปิดที่ระดับ 8.45 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 26 ล้านบาท คงไม่มีนัยสำคัญอะไรมากนัก เพราะเดือน ม.ค. ก็เคลื่อนไหวในกรอบ 8-9 บาทอยู่แล้วค่ะ

ปิดท้ายกันที่หุ้น AU กันดีกว่า เพราะเดี๊ยนรู้สึกดีใจมาก ๆ ที่เห็นหุ้นเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.80 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 3.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 28 ล้านบาทได้สำเร็จ เพราะเดี๊ยนเคยแสดงความคิดเห็นไว้ก่อนหน้านี้ว่า ลงลูกเดียว! ซึ่งเป็นผลมาจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับผลงานต่ำเป้า แต่ถึงกระนั้นก็ยังไว้ใจไม่ได้อยู่ดี เพราะเคยมีตัวอย่างจากราคา “โอ้กะจู๋” มาแล้วว่า หากงบไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง โดนอัดเละแน่..อิอิอิ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button