แรงจนน่ากลัว?โมนิก้าและทีมงาน

*ส่วนบรรยากาศการลงทุนวานนี้อาจสร้างความเฮฮาให้กับนักลงทุนสถาบันก็จริง แต่อย่าลืมว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากกระแสข่าวปล่อย ข่าวลวง รวมทั้งเป็นการหยั่งเชิงแรงซื้อไปในตัว “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ ต่อการเหวี่ยงตัวไปมาของดัชนี เพราะเป็นเรื่องที่เคยพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก และขอย้ำอีกครั้งว่า “นักลงทุนที่ขายหุ้นออกไปก่อนหน้านี้ ท้ายสุดก็ต้องกลับเข้ามาซื้อหุ้นอยู่ดี” นะจะบอกให้

*ฉะนั้นการที่ดัชนีกระชากขึ้นมาปิดที่ 1,288.40 จุด บวกไป 11.91 จุด ด้วยมูลค่า 3.06 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นภาพมุมเดิมที่นักเล่นต้องหัดทำตัวให้ชินกับสถานการณ์ เพราะสูตรของการเข้าลงทุนในเที่ยวนี้เขาวัดกันที่ความไว ส่วนปัจจัยพื้นฐานเป็นเพียงข้ออ้างที่นิยมเม้าท์ในช่วงที่ตัวเองกำลังสาดหุ้นใส่ หลังจากนั้นก็จะกลับไปช้อนซื้อของถูกเมื่อมีคนย่อมปล่อยออกมาเจ้าค่ะ

*งานนี้เดี๊ยนไม่ได้มีเจตนาโจมตีใครทั้งสิ้น แค่อยากให้แฟนคลับลองหลับตา แล้วร่วมรำลึกเหตุการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มันมีจุดเปลี่ยนอยู่ตรงไหนบ้าง? ขนาดวิเคราะห์ถึงค่า P/BV  ที่ระดับ 1.70 เท่า ค่อนข้างถูก ผสมผสานกับเข้าสู่ช่วงของการเข้าลงทุนรอบใหม่ หรือแม้กระทั่งนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นออกมาเยอะเกินไป และได้เวลากลับเข้ามาซื้อหุ้นอีกรอบ มันเป็นภาพเดิมๆ ที่เวียนมาแล้วสามสี่รอบด้วยกันนะจ๊ะ

*สำหรับพระเอกชั่วคราวที่ “โมนิก้า” อยากให้นักลงทุนเฝ้าติดตามดูอย่างใกล้ชิดก็คือ IRPC AOT และCKP เพราะหุ้นเหล่านี้เริ่มขยับขึ้นอีกครั้ง และที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นว่า นักลงทุนกลุ่มต่างๆ เข้าซื้อหุ้นเก็บไว้ในพอร์ตมากพอสมควร เดี๊ยนถึงต้องการให้แฟนพันธุ์แท้ “หุ้นคุณค่า” ลองคิดทบทวนดูว่า การเด้งขึ้นรอบนี้เป็นแค่ระยะสั้นๆ หรือเป็นการกลับทิศอย่างถาวรเจ้าค่ะ

*เห็นได้จากในรายของ GL ยังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามอีกรอบ ล้วนเป็นผลมาจากข่าวผลประกอบการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักลงทุนกลุ่มต่างๆ ถึงวิ่งเข้าใส่ไม่ยั้ง ส่งผลให้ราคาหุ้นถีบตัวขึ้นมาปิดที่ 21.80 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 6.30% พร้อมด้วยวอลุ่มที่แน่นขนัด “โมนิก้า” วิเคราะห์จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่าเป็นแค่ “หุ้นกระแส”..มีโอกาสลุย ก็ต้องลุยเจ้าค่ะ

*ส่วนหุ้นชื่อใหญ่ตัวเล็ก BIG กลับมาสร้างความหวือหวาบนกระดานหุ้นอีกครั้ง บวกกับนักวิเคราะห์ออกตัวล้อฟรีว่า  งบไตรมาส 4 ปี 58 จะออกมาสวยสดงดงามเหมือนดอกซากุระเบ่งบาน แถมให้เป้าพื้นฐานเกิน 2 บาทแบบนี้ “โมนิก้า” บอกได้คำเดียวว่า น่าสนใจสุดๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.94 บาท บวก 0.13 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 208 ล้านบาท งานนี้ต้องตามไปดูโดยด่วนค่ะ

*ส่วนในรายของ COM7 พยายามประคองตัวแถว 6 บาท เพื่อรักษาเซ็นติเมนต์ของตัวเองไม่ให้เป๋ “โมนิก้า” กล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า นี่เป็นเกมหุ้นที่แฟนคลับต้องมองให้ขาด!  เพราะเอาเข้าจริงก็เป็นเพียงมุกที่พยายามบอกให้นักเล่นเชื่อว่า สตอรี่เด่น พื้นฐานสุดแกร่ง ผลประกอบการโตต่อเนื่อง  อนาคตยังมีโปรเจ็กต์อีกจำนวนมาก ส่งผลให้การขึ้นมาปิดที่ 6.15 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 8.90% เป็นการดันหุ้นเพื่อไปปล่อยของรอบใหม่ก็เท่านั้นเอง!

*สำหรับหุ้นที่มาแรงเกินความคาดหมาย “โมนิก้า” คงต้องเทน้ำหนักไปที่MACO หลังมีแรงซื้ออัดแน่นเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.10 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 10%  ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นผิดปกติแบบนี้ มันเป็นเกมที่สามารถเดาออกได้ 2 ทางคือ “เล่นต่อ” กับ “จบเกม” ซึ่งแฟนคลับต้องเดาเกมให้ออกจะไปทางไหน?..งานนี้ใบ้ให้นิดหนึ่งว่า หุ้นกำลังฟอร์มตัวเพื่อยกฐาน มันน่าจะออกไปในโทนขึ้นต่อนะคะ

*อีกรายที่ “โมนิก้า” ขอพูดย้ำอีกทีคือTASCO ที่เพิ่งเม้าท์ไปหยกๆ ว่า ราคามีโอกาสรูดลงต่อค่อนข้างสูง ในที่สุดก็เป็นไปตามที่คอมเมนต์ไว้ไม่มีผิดเพี้ยน หลังหุ้นโดนถล่มตลอดทั้งวัน จนลงมานอนแน่นิ่งอยู่ที่  22.60 บาท ลบไป 4.90 บาท หรือลงไป 18% มูลค่าซื้อขาย 2.81 พันล้านบาท เดี๊ยนขอเดาเล่นๆว่า ขาใหญ่ที่สังกัดค่ายต้นๆ ทำงานเสร็จตามแผนที่คุยไว้แล้ว จึงขอโบกมือลาอย่างถาวร บวกกับไม่มีมุกใหม่ๆ มาบิ้วลด์อารมณ์ จึงมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะรูดลงไปต่ำกว่า 20 บาทนะจะบอกให้

*สุดท้ายเดี๊ยนขอเม้าถึงเรื่อง NOK เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติสอนใจว่า เวลาเจอกลุ่มคนที่มองแต่ตัวเองเป็นที่ตั้ง โดยไม่มองภาพรวมขององค์กรเป็นที่ตั้ง ก็มักจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นเป็นประจำ เพราะกลุ่มคนเหล่านั้นไม่รู้จักพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นไปพร้อมกับองค์กร จนทำให้คำพูดที่ว่า ใครคิดจะถือหุ้นการบินไว้ในพอร์ต…ก็เตรียมเอาใบหุ้นไปพับถุงกล้วยแขกได้เลย และผลดังกล่าวก็ทำให้หุ้นร่วงลงมาปิดที่  7.05 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลงไป 2% “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ CEO แบ่งเวลามาดูแลงานเยอะหน่อย ส่วนเรื่องดนตรีพักไว้บ้างก็ได้นะคะ