TASCOลูบคมตลาดทุน

ธนะชัย ณ นคร

 

TASCO หรือ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน)

ราคาหุ้นที่ถูกทิ้งออกมาเป็นอีกบทเรียนของบรรดานักเก็งกำไร

เชื่อว่า นักลงทุนหลายคนรับรู้กันดีว่า หุ้นตัวนี้ มีใครบ้างที่อยู่เบื้องหลังในการสร้างราคาให้วิ่งขึ้นมา“เกินจริง”

บางคนบอกว่ามี “โบรกเกอร์” ร่วมมือด้วย

เดินสายโรดโชว์กันสนุกสนาน ปั่นราคาสุดๆ

พอมองภาพแบบนี้แล้ว ก็ชวนให้อดคิดไม่ได้ว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิด ทำงานกันเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน สร้างราคากระทั่งวิ่งไปถึงเป้าหมาย (จนได้) ที่ระดับ 40 บาทต่อหุ้น

จำได้ว่า ช่วงประมาณเดือนตุลาคม 2558 ผมเคยเขียนเรื่องหุ้น TASCO ลงในคอลัมน์นี้มาแล้ว

ขณะนั้นราคาหุ้นอยู่ที่ 38.25 บาท

ระดับราคานี้เหมือนกับว่าเป็นเป้าหมายของ “เจ้ามือ” แล้ว และน่าจะใกล้ทิ้งแล้ว

เจ้ามือ TASCO เก็บหุ้นมาตั้งแต่ปลายปี 2557 ที่มีการเม้าท์กันว่า เก็บมาในราคา 5 บาทต่อหุ้น ขณะ ณ สิ้นปี 2557 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 6.50 บาท

ส่วนสิ้นปี 2558 ราคาหุ้น TASCO ปิดที่ 40.50 บาท

1 ปีราคาหุ้นขึ้นมา 523%

และทำให้กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ใหม่ของโลกใบนี้ไปแล้ว

หลังจากนั้นราคาหุ้นแกว่งตัวขึ้นไปอีกเล็กน้อยแถว 41.00-42.00 บาท ก่อนจะค่อยๆ ปรับลงมาตั้งแต่กลางเดือนมกราคม 2558

พอในช่วงปลายเดือนมกราคม ราคาหุ้นร่วงมาแถวๆ 32-33 บาท

ปรากฏว่ากลับมีแรงซื้อเข้ามาจำนวนมาก และเป็นจังหวะที่มีบทวิเคราะห์ของโบรกฯ ออกมา คล้ายๆ กับว่า แนะนำให้ซื้อ และยังขยับราคาเป้าหมายกันขึ้นไปอีก

ส่วนการโรดโชว์ก็ยังเดินสายคึกคัก

TASCO นั้น เป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เป็นขาลง ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธ

นั่นเพราะทำให้มาร์จิ้นดูดีขึ้น

แต่ประเด็นคือ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ระดับ 25-30 เหรียญต่อบาร์เรล ถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างต่ำสุดแล้ว

และราคาหุ้นของ TASCO นั้น ก็ตอบรับกับปัจจัยน้ำมันไปมากแล้ว

มีปุจฉาว่า ข้อมูลที่ให้กับนักลงทุนนั้น มี “ข้อผิดพลาด” หรือเป็น “ความตั้งใจให้ผิดพลาด” หรือไม่

ส่วนเจ้ามือนั้น ไม่ต้องกล่าวถึงอะไรมาก เพราะทราบว่า ปล่อยหุ้นไปตั้งแต่ราคาก่อนจะไปถึงระดับ 40 บาท ป่านนี้นอนตีพุงอยู่กับบ้าน สบายตัว

หุ้น… เมื่อเจ้ามือออก และราคาหุ้นสูงกว่าความเป็นจริง ทำให้ผลออกมาก็อย่างที่เห็นกัน

วานนี้ราคาหุ้น TASCO ปิด 22.60 บาท

หากเทียบกับราคาหุ้น ณ สิ้นปี 2558 ที่ระดับ 40.50 บาท นั่นเท่ากับว่าหุ้น TASCO ราคาร่วงลงมากว่า 44.19%

หรือหากใครที่หลงเข้าไปซื้อช่วงราคา 32-33 บาท ในช่วงปลายเดือนมกราคม และยังไม่ได้ขายออกมา ก็เท่ากับว่าจะขาดทุนอยู่ราวๆ (ติดลบ) 31%

จากข้อมูลพบว่า ผลประกอบการของ TASCO ได้ผ่านจุด “สูงสุด” ไปแล้วตั้งแต่ไตรมาส 3/2558

TASCO เป็นอีกบทเรียนราคาแพงของนักเก็งกำไร