DELTA กำไรน่าผิดหวัง.!

คงจำกันได้นะว่า ช่วงปี 2567 เกิดแรงเห่อในหุ้นเทคจนราคาปรับขึ้นร้อนแรง โดยเฉพาะหุ้นพี่ใหญ่ DELTA ที่ราคา All Time High ต่อเนื่อง


คงจำกันได้นะว่า ช่วงปี 2567 เกิดแรงเห่อในหุ้นเทคจนราคาปรับขึ้นร้อนแรง โดยเฉพาะหุ้นพี่ใหญ่ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ที่ราคา All Time High ต่อเนื่อง ดันมาร์เก็ตแคปปิดสิ้นปีแตะที่ 1.90 ล้านล้านบาท ครองแชมป์มาร์เก็ตแคปสูงสุดตลาดหุ้นไทย..!!

ราคาหุ้น DELTA ปรับขึ้นมาจาก 2 แรงหนุน นั่นคือกระแสรถยนต์อีวีบูม ผนวกกับเทรนด์ AI ครองโลก เลยถูกมองว่าจะได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ เนื่องจากมีสินค้าที่เป็นเมกะเทรนด์ ทั้งชิปเซมิคอนดักเตอร์ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI รวมทั้งดาต้าเซ็นเตอร์…จน ณ สิ้นปี 2567 P/E พุ่งปรี๊ดดดไปแตะ 88.50 เท่า แต่ปัจจุบัน P/E ลดลงแล้ว

ขณะเดียวกันก็ถูกหมายมั่นปั้นมือว่าผลประกอบการในไตรมาส 4/2567 และปี 2567 ต้องโตระเบิดเถิดเทิงแหง ๆ…

แต่ที่ไหนได้…เปิดงบไตรมาส 4/2567 และปี 2567 ออกมาเงิบกันเป็นแถว…เพราะกำไรไม่ได้ปังอย่างที่คิดน่ะสิ

กำไรสุทธิในไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 2,150 ล้านบาท ลดลง 54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 64% จากไตรมาสก่อน ส่วนงบปี 2567 กำไรสุทธิโตแค่หางอึ่ง 2.80% อยู่ที่ 18,939 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 18,422 ล้านบาท โดยมียอดขาย 164,732 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.50% เทียบกับปีก่อนที่มียอดขาย 146,371 ล้านบาท

เป็นผลงานที่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มว๊ากกก…ทำเอานักลงทุนเกิดอาการเซ็งเป็ดไปตาม ๆ กัน

สาเหตุหลักเกิดจากมีค่าใช้จ่ายครั้งเดียวที่บันทึกในไตรมาส 4/2567 ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) พุ่งขึ้นสู่ระดับ 7,000 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายและค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา ส่งผลให้ปี 2567 SG&A เพิ่มขึ้น 46.2% จากปีก่อน

ไม่หมดแค่นี้ ในไตรมาส 4/2567 ยังมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 329 ล้านบาท และทั้งปี 2567 มีตัวเลขขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 70 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไร 675 ล้านบาท เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปี 2568

รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายภาษีที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็น 405 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2567 คิดเป็นอัตราภาษีจ่ายจริง (effective tax rate) ที่ 15%

ผลงานที่น่าผิดหวัง…เลยทำให้วานนี้ (17 ก.พ. 2568) หุ้น DELTA ถูกถล่มขายอย่างหนักตั้งแต่เช้าจรดเย็น เรียกว่าเปิดตลาดปุ๊บ…ก็ดิ่งฟลอร์ปั๊บเลยทีเดียว ดีนะที่ราคาฟื้นขึ้นมาหน่อย โดยปิดตลาดที่ 86.50 บาท ปรับลดลง 26.50 บาท หรือราคาทรุดลงไป 23.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นทะลุ 8,263 ล้านบาท

ด้วย DELTA เป็นพี่ใหญ่ของตลาด มีมาร์เก็ตแคปสูงสุด ก็ฉุดให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลง 15.62 จุดด้วยนะเธอ…(แรงขายหุ้น DELTA ผิดหวังงบต่ำคาด ผสมโรงกับแรงขายหุ้น AOT กังวลคิง เพาเวอร์ขาดสภาพคล่องขอเลื่อนจ่าย Minimum Guarantee)

ถึงตอนนี้อนาคตที่เคยโชติช่วงชัชวาลของ DELTA…ก็ดูจะไม่โชติช่วงเสียแล้วกระมัง หลังจากมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับต้นทุนในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าใช้จ่าย SG&A ในส่วนของค่า royalty fee ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งซื้อจาก Delta Taiwan รวมทั้งการใช้อัตราภาษีตามแนวทาง Global minimum tax : GMT ซึ่งจะกดดันการเติบโตในปี 2568

ในระยะสั้น นักวิเคราะห์จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้น DELTA พร้อมทั้งแนะนำ “ขาย”…ก็ว่ากันไป

ส่วนข้อคิดจากกรณี DELTA สอนให้รู้ว่า การตั้งความหวังไว้สูงลิบลิ่ว…เวลาผิดหวัง เอฟเฟกต์หรือแรงกระแทกก็จะแรงหน่อย…

เป็นสัจธรรมของสัตว์โลกนะออเจ้า…

…อิ อิ อิ…

Back to top button