
ไม่สะดวกซื้อหุ้น?
ทุกครั้งที่ “โมนิก้า” ได้ดูข้อมูลเศรษฐกิจต่าง ๆ มักมีความเชื่อมั่นในการลงทุนมากขึ้นเป็นประจำ แต่ทันทีที่เห็นตัวเลขในส่วนต่าง ๆ ถดถอยอย่างน่าใจหาย
ทุกครั้งที่ “โมนิก้า” ได้ดูข้อมูลเศรษฐกิจต่าง ๆ มักมีความเชื่อมั่นในการลงทุนมากขึ้นเป็นประจำ แต่ทันทีที่เห็นตัวเลขในส่วนต่าง ๆ ถดถอยอย่างน่าใจหาย ก็ต้องยอมรับโดยดุษฎีบัณฑิตว่า ไม่สะดวกซื้อหุ้น! และมีความกังวลมากขึ้นในบันดล เพราะการเด้งขึ้นของดัชนีในแต่ละรอบ ไม่แข็งแรงเหมือนที่อีฉันเข้าใจมาตลอด ซึ่งเห็นได้จากอาการกองทุนป๊อดมีให้เห็นเนือง ๆ ไงล่ะคะ
ประเด็นข้างต้นไม่ได้ทำให้ “โมนิก้า” เกิดอาการงงงวยเท่ากับการแถลงข่าวของฝั่งรัฐบาลที่บอกว่า ปี 68 จีดีพีจะขยายตัว 3% ขณะที่ฝั่งสภาพัฒน์มองไว้แค่ระดับ 2.3% โดยตัวเลขจริง ๆ ในปี 67 ขยายตัวได้แค่ 2.5% และเป็นตัวเลขรองบ๊วยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านแบบนี้..มันกลายเป็นหนามยอกอกที่อีฉันไม่สามารถปฏิเสธความจริงได้ และรู้สึกเซ็งในอารมณ์ขึ้นมาในทันทีนะตัวเอง
เนื่องจากอีฉันได้ปูเรื่องมาตลอดว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะกระเตื้องขึ้นเป็นลำดับ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันช่างตรงข้ามกับสิ่งที่หวัง แถมยังมีอุปสรรคจากทั้งภายในและภายนอก จนเกิดเสียงเม้าท์มอยหนาหูขึ้นเรื่อย ๆ ว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงถดถอย และการพลิกฟื้นเศรษฐกิจเที่ยวนี้คงไม่ง่ายเหมือนที่รัฐบาลพ่นน้ำลายไปวัน ๆ โดยสุดท้ายก็ไม่มีอะไรจับต้องไม่ได้เลยสักอย่าง อีฉันรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวอย่างแรงเจ้าค่ะ
ประกอบกับวันก่อนเห็นคนกันเองในรัฐบาลที่เป็นเสื้อแดงดาหน้ากันออกมาจวกยับ ถึงการทำหน้าที่ของ “พิชัย” ซึ่งรับผิดชอบในตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ อย่ามัวแต่ลอยไปลอยมา หลังม็อบชาวนาขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตรงนี้กระทบต่อความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาล และทำให้ฐานเสียงสั่นคลอนมากขึ้นแบบนี้ มันเหมือนเป็นการฉีกหน้าคนกันเอง จนเดากันไปต่าง ๆ นานา ว่า ปรับ ครม. ครั้งหน้า มีโอกาสหลุดสูงนะจ๊ะ
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงอีกหนึ่ง “พิชัย” ซึ่งสวมหัวโขนในตำแหน่ง รมว.คลัง ก็มีเสียงเม้าท์มอยไม่ขาดสายเหมือนกันว่า ไม่โชว์ฝีไม้ลายมืออะไรออกมาให้เห็นเลย และนโยบายที่สั่งการลงไปจะเสร็จกี่โมง? ก็เป็นเรื่องที่ผู้คนอยากรู้กันทั้งนั้น ผนวกกับมีเสียงร่ำลือเซ็งแซ่ในหมู่ขาเม้าท์ว่า เป็นอีกคนที่ดูท่าแล้ว..ไม่น่ารอด เลยไม่มีใครอยากจะพูดถึงคุณพี่ท่านนี้สักเท่าไหร่นะออเจ้า
ไหน ๆ ก็มาแนวการคลังกันทั้งที “โมนิก้า” ขอเลยไปดูเรื่องการเงินอย่างแบงก์ชาติ ซึ่งอยู่ภายใต้การกุมบังเหียนของ “ดร.นก” กันสักหน่อย! เพราะเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ผู้คนในแวดวงตลาดเงินตลาดทุนเบื่อหน่ายสุด ๆ เพราะไม่เข้าใจโลกของความเป็นจริงเอาเสียเลย และหมกหมุ่นอยู่กับเรื่องที่อยู่ในตำรา จึงไม่ยอมลดดอกเบี้ยเพื่อต่อลมหายใจให้กับผู้คนเสียที..ทั้งที่เห็นกันทนโท่ว่า กำลังจะตาย..กันหมดแล้วนะพ่อคุณ
ประเด็นดังกล่าวยังเชื่อมโยงไปถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวที่มีการประกาศกันโครม ๆ ว่า เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เม็ดเงินที่ใช้จ่ายก็ไม่สะพัดเท่าที่ควร ผนวกกับล่าสุดมีการวิเคราะห์จำนวนนักท่องเที่ยวเดือน ม.ค. 68 เมื่อเทียบกับ ธ.ค. 67 ทรงตัว และมีแนวโน้มลดลงในเดือน ก.พ. ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากจีนเทาใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการไปก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ จนเบอร์ใหญ่ของจีนต้องเดินทางมาบัญชาการแก้ปัญหาด้วยตนเองแบบนี้…อายไหมล่ะคุณแม๊!
เหล่านี้เป็นปัญหาถาโถมเข้าใส่ประเทศไทยไม่ยั้ง และเมื่อดูกำลังการผลิตของโรงงานที่มีไม่ถึง 70% “โมนิก้า” ก็รู้ได้ทันทันทีว่า การลงทุนใหม่ ๆ จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน และเป็นสัญญาณอันตรายที่ใครได้เห็นตัวเลขตรงนี้ก็ต้องพูดว่า อยู่ยาก! อีฉันเลยสงสัยขึ้นมาทันทีว่า รัฐบาลไม่คิดจะทำอะไรบ้างเหรอที่เป็นรูปธรรม หรือวัน ๆ คิดได้แค่แจกเงิน กับเรื่องทำบ่อนเท่านั้นเหรอจ๊ะ
ที่น่าสนใจคือ หากได้ไปอ่านรีเสิร์ชของพวกสถาบันที่ชำแหละประเทศไทยทีละส่วน “โมนิก้า” พูดได้เลยว่า สิ่งที่ขีดเขียนลงในหน้ากระดาษยังน้อยกว่าสิ่งที่เขาพูดถึงเป็นไหน ๆ และการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,262.27 จุด บวกไป 4.79 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.26 หมื่นล้านบาท อาจไม่มีความหมายอะไรเลย หากสิ่งที่ผู้คนกังวลกำลังจะกลายเป็นเรื่องจริง..วันนี้ต้องขออภัยที่ดุเดือดไปหน่อย เพราะเดี๊ยนรู้สึกเหมือนรอบเดือนมาไม่ปกติ..รู้ไหม “อุ๊งอิ๊ง”..อิอิอิ
โมนิก้า: และทีมงาน