ใครเป็นแพะ?โมนิก้าและทีมงาน

*สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” จั่วหัวรุนแรงแบบนี้ เพื่อทำให้แฟนคลับได้ล่วงรู้ถึงเกมหุ้นที่นับวันจะโหดขั้นเทพมากขึ้นเรื่อยๆ จึงอย่าหวังจะได้ความจริงจากปากผู้รู้ที่ยืนอยู่ฝั่งนักลงทุนสถาบัน เพราะท้ายสุดก็เป็นเพียงแค่การโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งนักเล่นเห็นกันมาแล้วหลายรอบด้วยกัน แต่กลับไม่มีใครเข็ดหลาบกับเรื่องแบบนี้ แสดงว่า ผู้เล่นทุกคนยอมรับกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้แล้วนะคะ


*สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” จั่วหัวรุนแรงแบบนี้ เพื่อทำให้แฟนคลับได้ล่วงรู้ถึงเกมหุ้นที่นับวันจะโหดขั้นเทพมากขึ้นเรื่อยๆ จึงอย่าหวังจะได้ความจริงจากปากผู้รู้ที่ยืนอยู่ฝั่งนักลงทุนสถาบัน เพราะท้ายสุดก็เป็นเพียงแค่การโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งนักเล่นเห็นกันมาแล้วหลายรอบด้วยกัน แต่กลับไม่มีใครเข็ดหลาบกับเรื่องแบบนี้ แสดงว่า ผู้เล่นทุกคนยอมรับกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้แล้วนะคะ

*วันนี้ถึงต้องแยกแยะหุ้นรายตัว หุ้นรายกลุ่ม และภาพรวมของตลาดหุ้นให้ออก รวมทั้งอย่าหลงเข้าไปเล่นเกมของคนอื่นเป็นอันขาด เพราะเวลานี้ตลาดหุ้นกำลังตามหาแพะที่ทำให้บรรยากาศการลงทุนปั่นป่วน “โมนิก้า” ถึงพยายามให้แฟนคลับโฟกัสไปที่เป้าหมายการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ ต้องการสร้างผลตอบแทนในระยะสั้นๆ หรือต้องการช้อนซื้อหุ้นลงทุนระยะยาวเจ้าค่ะ

*ประเด็นนี้สอดคล้องกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับ NOK ซึ่งจนบัดนี้ยังไม่รู้ว่า ใครต้องรับผิดชอบ? ฝ่ายพนักงานก็อ้างแบบหนึ่ง ฝ่ายซีอีโอก็อ้างแบบหนึ่ง แต่ที่เจ็บปวดรวดร้าวสุดๆ คงเป็น รมช.คมนาคม อย่างคุณพี่ “ออมสิน” เพราะอุตส่าห์เสียสละเวลาเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงความจริง แต่กลับไม่มีเนื้อหาสาระที่เป็นความจริงให้สังคมได้รับรู้แบบนี้ “โมนิก้า” เม้าท์ได้ทันทีว่า ชักมั่วไปกันใหญ่! แถมราคาหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 7.55 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 7% มั่วนิ่มเลยนะเนี่ย..จริงไหมคุณพี่ “พาที”!

*เช่นเดียวกับในรายของ THAI หากมองจากสิ่งที่ “สมคิด” เอ่ยปากพูดด้วยความมั่นใจอย่างล้นหลามว่า  กำลังอยู่ในช่วงไต่เพดานเพื่อบินสูง  พร้อมกับตั้งเป้าทำกำไร 10 ปีต่อเนื่องแบบนี้ไงเล่า ราคาหุ้นถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ 10.10 บาท บวกไป 1.70 บาท หรือขึ้นไป 20% ด้วยมูลค่า 760 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นข้อมูลที่โดนใจนักเล่นอย่างแรง เพราะเป็นการปลุกเร้าความเชื่อมั่นได้ค่อนข้างดี แต่อาจไม่ถูกใจ  ก.ล.ต. สักเท่าไหร่ เพราะเขาห้ามพูดอะไรที่ชี้นำมากเกินไป! แต่สำนักงานนี้จะกล้าเรียกหัวหน้าทีมเศรษฐกิจไปปรับทัศนคติเหมือนคนบางกลุ่มโดนไหมเอ่ย?

*ส่วนในรายของ TASCO คงไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เพราะอาการสวิงสวายอย่างบ้าระห่ำที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นแค่ความหิวกระหายของพวกอีแร้งคอยกินซาก ซึ่งมารับลูกต่อจากกลุ่มฆาตกรวิปริตที่สวาปามกันอย่างตะกละตะกลามตั้งแต่ต้นปี  จึงขอแนะนำให้ส่งคนออกมาชี้แจงความเกี่ยวโยงของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น..มิเช่นนั้น อาจถูกเหมารวมเป็นพวกเดียวกัน? แถมล่าสุดหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 24.40 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 8% มันชวนให้สงสัยจริงๆ  หรือถ้ากลัวจะพูดได้ไม่เต็มปาก พิมพ์ไลน์มาคุยกันเป็นการส่วนตัว..ก็ไม่มีปัญหานะฮ้า  

*พูดเรื่องพรรค์นี้ทีไร ก็มักจะนึกถึง “หมอกระดูกแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา” ซึ่งเป็นยอดยาหยีของ “โมนิก้า” ทุกที! ล่าสุดแอบไปเผือกจนได้ยินคำเม้าท์มอยแบบเสียงญี่ปุ่นซับไทยมาว่า ไฮยีน่ารายนี้ถวายตัวเข้ารับพื้นที่ล่าเหยื่อแห่งใหม่แล้ว อีกทั้งสายข่าวส่วนตั๊วส่วนตัวยังรายงานด้วยว่า เขาคนนี้นี่แหละที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปรับตัวขึ้นของหุ้น GL ตั้งแต่ช่วงต้นปี 59  เอ๊ะ! ทำไมจุดไคลแม็กซ์ของหุ้นรายข้างต้นกับหุ้นตัวนี้มันช่างพอดิบพอดีกันเสียเหลือเกิน? ใครช่วยไปดูกราฟให้ที แล้วมาบอกด้วยว่า..ใจเราตรงกันมั้ย!

*ไหนๆ ก็ไหนๆ จะบอกให้ว่า ลักษณะการเคลื่อนไหวของหุ้นทั้ง 2 ตัวนี้ เหมือนจบมาจากสำนักเดียวกัน! ถ้าจะมีอะไรต่างกัน ก็คงต่างกันแค่จบมาคนละรุ่นเท่านั้น เพราะหากเพ่งพินิจให้ดีจะเห็นถึงการปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป  มีพักบ้างย่อบ้าง แต่สุดท้ายก็ขึ้นไปตามสตอรี่ที่ใช้เป็นเหยื่อล่ออีกที…ลองนึกดูดีๆ  สตอรี่ที่ออกมาตอนนี้คล้ายคลึงกับเรื่องราวเมื่อวันวานมากน้อยขนาดไหน…

*ส่วนในรายของ SMPC ถ้าเดาจากเกมการเล่นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เทียบกับผลการดำเนินงานที่ทำได้ในช่วงหลังๆ “โมนิก้า” ถือเป็นเกมเสี่ยงที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง เพราะขาเม้าท์ซุบซิบนินทากันอย่างเมามันว่า ดันกันสุดซอย..ต่อจากนั้นก็ทางใครทางมัน! วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 9.05 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 8.40% ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งร่วงลงจาก 12.60 บาท..จำกันบ่ได้กา!

*สำหรับที่ชัดเจนแจ่มแจ๋วสุดๆ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ HFT  “พื้นฐานแกร่ง สตอรี่สวย กำไรเด่น” และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอเม้าท์ถึงการยกตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแก๊ปราคาที่เห็นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับ 1.50 บาท บวกกับฐานราคาหุ้นปี 58 อยู่แถว 5.50 บาท จึงมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะวิ่งขึ้นยืน 7 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดอยู่ที่ 6.40 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 6.70% มันน่าตามไปดูจริงๆ นะคะ

*ไหนๆ ก็จะตามไปดูกันทั้งที “โมนิก้า” ขอแนะนำให้แฟนคลับหันไปดู SPRC เพื่อกระตุ้นฮอร์โมนให้สูบฉีดดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่อีกสักหน่อย หลังหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 8.95 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 155 ล้านบาท แถมเป็นการเด้งขึ้นวันแรก หลังจากหุ้นรูดลงเป็นเวลา 1 เดือนครึ่ง จากยอดเดิมที่เคยทำไว้ที่ระดับ 10.30 บาท  กล้าตามน้ำกันไหมล่ะค่ะ

Back to top button