
CBG กำไร (รับจ้าง) โต.!
ช่วงที่ผ่านมา สองหุ้นเครื่องดื่มอย่าง บมจ.คาราบาวกรุ๊ป หรือ CBG กับ บมจ.โอสถสภา หรือ OSP ราคาหุ้นทรุดหนักด้วยกันทั้งคู่...
ช่วงที่ผ่านมา สองหุ้นเครื่องดื่มอย่างบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG กับบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ราคาหุ้นทรุดหนักด้วยกันทั้งคู่…ต้นสายปลายเหตุเกิดจากความกังวลกันว่าผลประกอบการจะไม่สดใสซาบซ่าเหมือนในอดีตแล้วน่ะสิ…จากสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น เลยทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง
แต่ล่าสุด CBG ประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 และงบปี 2567 ก็ไม่ได้แย่นะ ยังเติบโตทั้งรายได้และกำไร…โดยกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 783 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อน โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,977 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาสก่อน
ส่วนกำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 2,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,924 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 20,964 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 18,853 ล้านบาท
กำไรปี 2567 ที่เติบโตเกือบ 50% นั้น เป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนที่ปรับตัวลดลง การควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และการแบ่งปันสิทธิผู้สนับสนุนการแข่งขันฟุตบอล EFL (English Football League Cup) ให้แก่บริษัทคู่ค้าในกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตเบียร์คาราบาวและเบียร์ตะวันแดง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารและทำการตลาด
ขณะที่ ค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง จากความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการจัดการเงินทุนหมุนเวียนมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ถ้าไปแงะดูไส้ในของรายได้รวมที่เติบโต…โอเค รายได้จากการดำเนินการผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเองก็เติบโตดีแหละ อยู่ที่ 12,190 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากยอดขายเครื่องดื่มบำรุงกำลังคาราบาวแดงในประเทศที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากส่วนแบ่งทางการตลาดเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลจากการที่บริษัทฯ ยังคงดำเนินกลยุทธ์หลักคงราคาขายปลีกที่ 10 บาท รวมถึงการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การกระจายสินค้าให้มีเครือข่ายที่กว้างขวางและครอบคลุมมากขึ้น ผ่านคู่ค้ารายย่อยระดับอำเภอและระดับตำบล และการเพิ่มจำนวนคู่ค้าของสินค้าเครื่องดื่มบำรุง
แต่อีกจุดที่น่าสนใจ คงเป็นรายได้จากการรับจ้างจัดจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอกกลับโตโดดเด่น อยู่ที่ 7,621 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เลยทีเดียว…ในขณะที่รายได้จากการจำหน่ายสินค้ากลุ่มอื่น ๆ อยู่ที่ 860 ล้านบาท ลดลง 11%
งั้น CBG ก็กำไรจากการรับจ้างน่ะสิ..!?
โดยคำอธิบายถึงการเติบโตในหมวดนี้ ระบุว่าเกิดจากการจัดจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (เบียร์) เป็นหลัก ที่ยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งเป็นผลมาจากการนำ 2 กลยุทธ์มาผลักดันยอดขายเบียร์…กลยุทธ์แรก เป็นการสร้างความนิยมแก่ผู้บริโภคเพื่อสร้างผู้ดื่ม โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มร้าน On-trade (ผับ บาร์ และร้านอาหารในหัวเมืองใหญ่) งานอีเวนต์และงานคอนเสิร์ต รวมถึง Carabao Cup เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์ของ “Carabao Beer” และ “Tawandang Beer” ให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงผู้บริโภค
ส่วนอีกกลยุทธ์เป็นการสร้างร้านค้าพันธมิตรเพื่อกระจายสินค้าให้กว้างขวางและครอบคลุม ผู้บริโภคสามารถหาซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
เอ๊ะ…หรือต่อไป CBG จะหันมาเอาดีทางนี้เนี่ย…
ว่าแต่ CBG โชว์กำไรเติบโตขนาดนี้…แล้วงบ OSP ล่ะจะโตหรือเปล่าน้อ..?? ภายในสัปดาห์นี้คงได้รู้กัน
กลับมาที่ CBG ถ้าเปรียบเป็นมวยรองในสนามธุรกิจ ก็ถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวนะ อย่างตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง แม้ยังเป็นเบอร์สอง แต่ตอนนี้หายใจลดต้นคอเบอร์หนึ่ง OSP มาเรื่อย ๆ (ณ สิ้นปี 2567 มาร์เก็ตแชร์ CBG อยู่ที่ 26% ส่วน OSP อยู่ที่ 45.8%) ในขณะที่ตลาดเบียร์ก็ช่วงชิงมาร์เก็ตแชร์ได้อย่างต่อเนื่อง…
ต้องยอมรับว่าการวางหมากทางธุรกิจของ “เจ้าสัวเสถียร เสถียรธรรมะ” ไม่ธรรมดาจริง ๆ แม้วันนี้ยังไม่ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่ง แต่ก็เขย่าตลาดได้ไม่น้อยทีเดียว…
ส่วนวานนี้ (24 ก.พ. 2568) ที่เห็นราคาหุ้น CBG ทรุดลงไปกว่า 4% ปิดตลาดที่ 71 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 126.73 ล้านบาท
น่าจะเป็นปรากฏการณ์ Sell on fact ผสมโรงกับภาวะตลาดที่ไม่ดีเอาซะเลย ดัชนีดิ่งไป 10 จุดละมั้ง…
…อิ อิ อิ…