หุ้นไทยยุควาย (วอด)

จริง ๆ “โมนิก้า” พยายามหา “ข้อมูลดี ข้อมูลเด็ด” มาเล่าสู่กันฟังเป็นประจำ แต่สิ่งที่ได้รับกลับคืนมาก็คือ รัฐบาลมักมีนิสัยชอบพูดความจริงครึ่งเดียว


จริง ๆ “โมนิก้า” พยายามหา “ข้อมูลดี ข้อมูลเด็ด” มาเล่าสู่กันฟังเป็นประจำ แต่สิ่งที่ได้รับกลับคืนมาก็คือ รัฐบาลมักมีนิสัยชอบพูดความจริงครึ่งเดียว ส่งผลให้สังคมเกิดความสับสนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เพราะไม่รู้ว่า นโยบายอันไหนของจริง? และนโยบายไหนแค่หยั่งเชิง? แถมสุดท้ายกลายเป็นเพียงแค่พ่นลมปากไปวัน ๆ มันทำให้คนทั่วไปเสื่อมศรัทธากับแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนะจะบอกให้

งานนี้อย่าหาว่า “โมนิก้า” ใจร้ายใจดำกับ “อุ๊งอิ๊ง” ที่เป็นผู้หญิงด้วยกันเลย เพราะอีฉันก็เคยเชียร์หล่อนมาระยะหนึ่ง แต่สุดท้ายคนที่เป็นมือเป็นไม้ในการทำคลอดนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ..ก็ทำไม่สำเร็จ กระแสก่นด่าเลยตีกลับไปหาฝั่งรัฐบาลแบบจัดเต็ม แถมนับวันก็ออกทะเลไปมากขึ้นเรื่อย ๆ (รถเก่าแลกซื้อรถใหม่ ทั้งที่คนไม่มีเงิน คิดได้ไงเนี่ย) เดี๊ยนถึงเข้าใจเหตุผลที่ฝรั่งสาดหุ้นไม่เลิกเสียที เพราะมันเห็นทนโท่ว่า สภาพเศรษฐกิจยังง่อนแง่นเจ้าค่ะ

ที่น่าเจ็บใจคือ กองทุน LTF ที่จะแปลงร่างเป็นกองทุน TESG2 ดันให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแทงกั๊กซะงั้น!..แทนที่จะอัดยาแรงเพื่อให้ตลาดหุ้นฟื้นชีพกลับมาไว ๆ รัฐบาลกลับเลี้ยงไข้ไปเรื่อย ๆ แบบนี้..มันเหมือนเป็นการนั่งนับวันรอตายซาก แถมพวกผู้นำกองทุนก็ขยันพูดป่าว ๆ มีเงินเหลือ พร้อมซื้อหุ้นพื้นฐานดีตลอดเวลา แต่เหตุไฉนดันมีแต่ยอดขายโผล่หรึ่ม (เมื่อวันจันทร์ขายเกือบ 654 ล้าน ถ้ารวมตั้งต้นปีขายไป 8.67 พันล้าน) ล่ะจ๊ะ

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นผันผวนในทิศทางขาลงถี่ขึ้นเรื่อย ๆ เพราะทุกครั้งที่มีความหวังขึ้นมาทีไร สุดท้ายก็ต้องอกหักดังเปราะทุกที และเหตุการณ์วานนี้คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนสุด หลังดัชนีพุ่งขึ้นไปถึงระดับ 1,195.66 จุด แต่สุดท้ายลงมายืนปิดที่ระดับ 1,177.64 จุด ลบไป 10.77 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.20 หมื่นล้านบาทอย่างง่ายดาย พร้อมกับมีเสียงร่ำลือว่า งบไตรมาส 1 ออกมาเมื่อไหร่?..มีหนาวแน่นอนจ้า!

โดยเฉพาะในรายของ ADVANC ที่ไหลลงอย่างช้า ๆ จนวานนี้ลงมาปิดที่ระดับ 268 บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.61 พันล้านบาท พร้อมกับหลุดแนวรับสำคัญ 270 บาท ซึ่งเคยเป็นจุดเด้งในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างแน่นอน และทำให้อีฉันต้องกลับมานั่งทบทวนความเชื่อก่อนหน้าที่ว่า โบรกฯ ให้ราคาเป้าหมายสูงถึง 330 บาท..ยังมีอยู่จริงใช่ไหม?

เช่นเดียวกับในรายของ CCET ก็กลายเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่จบเกมไวเหมือนโกหก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ถูกยกย่องให้เป็นตัวท็อปกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แต่ทันทีที่กำไรออกมาไม่เหมือนที่ประเมินไว้ แรงขายก็ไหลออกมาเป็นเดือน จนวานนี้เห็นราคาหุ้นยืนนิ่งอยู่ที่ระดับ 6.10 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลงไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 542 ล้านบาท ท่ามกลางกระแสข่าว AI สร้างความสั่นสะเทือนกับธุรกิจชิปแบบนี้..ไตรมาส 1 ก็รู้แล้วว่า “จริง” หรือ “ไม่จริง” นะจ๊ะ

ส่วนหุ้นที่ “ลงจริง..ลงหนัก” จนหาทางกลับบ้านไม่เจอ “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น THG เพื่อชี้ให้เห็นผลพวงที่เกิดจากการบริหารงานเละเทะ จนผลการดำเนินงานในปี 67 ขาดทุนมากถึง 1.76 พันล้าน ได้กลายเป็นชนักติดหลังจนแงะไม่ออก เพราะคนส่วนใหญ่กังวลกันว่า หลังบ้านยังไม่เคลียร์! วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นยืนปิดที่ระดับ 9.60 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 7.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time low แบบนี้..หมอบุญทำพิษจริง ๆ ค่ะ

เมาท์ถึงเรื่องหลังบ้านขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเอ่ยถึงข่าวซุบซิบ บล.เกียรตินาคินภัทร หลังจาก ตลท. มีคำสั่งภาคทัณฑ์เป็นเวลา 3 เดือน ฐานบกพร่องในการกำกับดูแลสักหน่อย! เพราะหลายคนสงสัยเหลือเกินว่า โบรกฯ นี้ขึ้นชื่อเรื่องใช้โรบอทเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ เหตุไฉนถึงมีเรื่องเออเร่อเกิดขึ้นได้ แถมยังมีการพูดพาดพิงไปถึงสมัยที่วอลุ่มพุ่งกระฉูดแบบเว่อร์วังอีกด้วยแบบนี้..เดี๊ยนตอบแทนไม่ได้ เพราะต้องให้คนที่เกี่ยวข้องออกมาพูดเองว่า โดนข้อหาอะไรกันแน่..อิอิอิ

ก่อนจากกันขอย้ำอีกครั้งว่า เดี๊ยนอยากเห็นนักลงทุนแต่ละกลุ่มกลับมาซื้อหุ้นไทยอีกครั้ง เพราะอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในเวลานี้สูงถึง 6-7% ไปแล้ว รวมทั้งราคาหุ้นตอนนี้ก็ถูกแสนถูกเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่โบรกฯ ให้ไว้ แต่ความหวังดังกล่าวจะเป็นจริงแค่ไหน? คงขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในประเทศแกร่งขึ้น และผู้คนในประเทศมีกำลังซื้อเพิ่มก็เท่านั้นเองนะจะบอกให้

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button