จุดจบของภาวะหมีพลวัต 2016
เงื่อนไขข้อตกลงของ 4 ประเทศประกอบด้วย ซาอุดีอาระเบีย, รัสเซีย, กาตาร์ และเวเนซุเอลา ในการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันดิบไว้ที่ระดับเดือนมกราคม มีความหมายในทางบวกหรือลบต่อตลาดน้ำมัน และเศรษฐกิจโลก เป็นโจทย์ที่มองต่างมุมกันพอสมควร ผลลัพธ์คือความผันผวนของราคาน้ำมัน ที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นและราคาหุ้นพลังงานไม่น้อย
วิษณุ โชลิตกุล
เงื่อนไขข้อตกลงของ 4 ประเทศประกอบด้วย ซาอุดีอาระเบีย, รัสเซีย, กาตาร์ และเวเนซุเอลา ในการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันดิบไว้ที่ระดับเดือนมกราคม มีความหมายในทางบวกหรือลบต่อตลาดน้ำมัน และเศรษฐกิจโลก เป็นโจทย์ที่มองต่างมุมกันพอสมควร ผลลัพธ์คือความผันผวนของราคาน้ำมัน ที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นและราคาหุ้นพลังงานไม่น้อย
ซาอุดีอาระเบีย จะยังคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบเอาไว้ที่ 10.2 ล้านบาร์เรล อันเป็นระดับที่ผลิตเดือนมกราคม และรัสเซียจะคงกำลังการผลิตไว้ที่ 10.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งหมายความว่า อุปทานของน้ำมันที่ชาติทั้ง 4 ที่ตกลงกันไว้จะอยู่ที่ระดับสูงสุด ที่ทำให้มีคำถามว่า แล้วจะแก้ปัญหาน้ำมันล้นเกินควาต้องการของตลาดได้อย่างไร
คำถามข้างต้น เกิดขึ้นหลังจากที่ตลาดผิดหวังกับการไม่ยอมลดกำลังการลิต และทำให้ราคาน้ำมันหลังการประกาศข้อตกลงดังกล่าวร่วงลงแรงพอสมควร แต่หลังจากเวลาผ่านไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง ตลาดก็มีการตีความใหม่ที่น่าสนใจ พร้อมกับการตีความอื่นๆ จากเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องด้วย
นักลงทุนจำนวนหนึ่งมองว่า ปฏิกิริยาของตลาดน้ำมันในช่วงแรกหลังประกาศข้อตกลง ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี โดยที่ราคาน้ำมันดิบเบรนต์งวดส่งมอบเดือนเมษายนได้เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ ไปอยู่ที่ราคา 33.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ราคาขยับขึ้น 35 เซนต์ ไปอยู่ที่ 29.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นสิ่งที่เกินเลย และมองโลกทางลบมากเกิน เพราะพวกเขากลับมีการตีความใหม่ว่า การที่ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียตัดสินใจตรึงเพดานการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับเดิมนั้น จะส่งผลกระทบทางจิตวิทยาเป็นวงกว้างต่อบรรดาผู้ผลิต และท้ายที่สุดจะทำให้ผู้ผลิตตัดสินใจลดกำลังการผลิตเพื่อหนุนราคาน้ำมันให้ฟื้นตัวขึ้น
ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ แรงซื้อกลับเข้ามาดันราคาน้ำมันในภาคบ่ายของวานนี้ตามเวลาประเทศไทย ให้บวกแรงอีกครั้งมาสู่ระดับที่พ้นจากจุดต่ำสุดอย่างปลอดภัย แม้จะมีข่าวด้านลบจากการที่ ตัวแทนรัฐบาลอิหร่านยืนยันก่อนการเจรจากับตัวแทนของเวเนซุเอลา และกาตาร์ที่เดินทางไปหารือว่า จะไม่สนับสนุนแผนการจำกัดการผลิตน้ำมัน อันเป็นจุดยืนเดิมที่จะไม่ปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากต้องการเพิ่มการผลิตเพื่อชดเชยจำนวนที่ขาดหายไปในช่วงที่ถูกนานาชาติคว่ำบาตร เพราถือเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล
คนที่รู้จักอิหร่านดีรู้ดีว่า ท่าทีของอิหร่านนั้น เป็นแค่ “ปากกล้าขาสั่น” เท่านั้นเอง เพราะต้องรักษาหน้าตาของรัฐบาลอิหร่านเองที่พูดมาโดยตลอดว่าจะเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบ จนกระทั่งถึงระดับก่อนที่จะถูกคว่ำบาตรให้ได้เสียก่อน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า การเจรจาจะถูกปิดตาย เพราะอิหร่านและชาติต่างๆ รู้ดีว่า การรักษาสมดุลของราคาน้ำมันในอนาคตมีหนทางเดียวคือการเปิดเจรจาเพื่อลดกำลังการลิตลงเท่านั้น
ภายใต้สถานการณ์ที่ราคาน้ำมันเป็นขาลงนั้น คำประกาศของตัวแทนรับบาลซาอุดีอาระเบียเมื่อวันอังคารที่ว่า การตรึงกำลังการผลิตเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการทั้งหมด จึงเริ่มมีความมั่นใจเชิงบวกมากขึ้นว่า ท้ายที่สุดการลดกำลังการผลิตจะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่จะไม่เร็วเท่าที่ต้องการนั้น เนื่องจากการเฉลี่ยผลประโยชน์ไม่ลงตัว
ข้อเท็จจริงของการที่ราคาน้ำมันเป็นขาลงมานานประมาณ 1 ปีครึ่ง อยู่ที่ว่า ราคาน้ำมันที่ลดลงเร็วมาก ทำให้เศรษฐกิจชาติสำคัญของโลกตกอยู่ในสภาพเข้าใกล้ภาวะเงินฝืดรุนแรง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจจะพังทลาย เพราะไม่เคยมีสถิติใดที่ระบุว่า ราคาพลังงานที่ตกต่ำ จะทำให้ชาติที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันเกิดการพังทลายทางเศรษฐกิจ
มีแต่ชาติส่งออกน้ำมันเท่านั้นที่เศรษฐกิจจะพังทลาย กรณีของซาอุดีอาระเบีย และเวเนซุเอลาเป็นต้นแบบที่สำคัญ เพราะรายได้จากการขายน้ำมันที่ร่อยหรอลง ทำให้ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศย่อบแย่บรุนแรง และเงินเฟ้อรุนแรงเพราะราคาสินค้านำเข้าแพงลิ่ว ถึงขั้นพิจารณาทบทวนว่าจะหาทางลดค่าเงินท้องถิ่นลง เพียงแต่ยังไม่ลงมือกระทำเท่านั้น เพราะไม่ต้องการสุ่มเสี่ยงกับปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ
ด้านรัสเซียซึ่งไม่ใช่สมาชิกโอเปก ก็ได้เจอกับภาวะถดถอยที่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้แย่ยิ่งขึ้น จากการตกต่ำของราคาน้ำมัน
ที่ผ่านมา 13 ชาติสมาชิกโอเปก ซึ่งมีซาอุดีอาระเบีย เป็นผู้นำ ได้มีการตกลงเมื่อเดือนธันวาคมนี้เองว่า จะไม่ยอมลดกำลังการผลิตเพื่อทำให้ราคาน้ำมันมีราคากระเตื้องขึ้น ด้วยเหตุผลว่าต้องการรักษาส่วนแบ่งการตลาดในการเผชิญหน้ากับคู่แข่งจากธุรกิจหินน้ำมันของสหรัฐฯ
มติให้ชาติสมาชิกโอเปกผลิตน้ำมันเสรีของโปเก ทำให้ราคาน้ำมันดิบของโลกร่วงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 12 ปีเมื่อต้นเดือนนี้เอง และทำให้ชาติส่งออกน้ำมันยอมรับว่ากำลังถูกข้อเท็จจริงไล่ล่า หรือ reality check อย่างจริงจัง ทำให้สติปัญญาเริ่มกลับคืนมา ทำให้ให้การเจรจาซึ่งทันมาลับๆ นานถึง 6 เดือน เริ่มมีข้อยุติเบื้องต้น
สติปัญญาที่กลับคืนมา อยู่ที่การยอมรับว่า เศรษฐกิจของชาติส่งออกน้ำมันจะล่มสลายก่อนที่เศรษฐกิจโลกจะพ้นจากภาวะเงินฝืด หากปล่อยให้ราคาน้ำมันดิ่งเหวลงไปถึงระดับใกล้ 20 ดอลลาร์
มองจากมุมของทฤษฎีเกม ข้อตกลงตรึงกำลังการผลิตของ 4 ชาติ เป็นได้ทั้งการโยนก้อนหินถามทางตามปกติ และการส่งสัญญาณให้ชาติส่งออกน้ำมันได้ตั้งสติล่วงหน้าเพื่อประเมินความได้เสียของมาตรการตามข้อตกลงดังกล่าว ที่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้กระบวนการและกลไกการทำงานของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ได้มีเวลาปรับตัวเพื่อเข้าบรรยากาศใหม่ ให้หลุดพ้นจากปัญหาทางสามแพร่งของธุรกิจที่เผชิญอยู่
การเจรจาเรื่องเศรษฐกิจภายใต้เนื้อหาทางการทูตที่เกิดขึ้น เป็นกลวิธีที่เปิดกว้างให้กับทางเลือกใหม่ๆ ท่ามกลางปัญหาที่ถูกยกขึ้นมาหารือที่ไม่จำเป็นต้องมีฉันทามติเสมอไปทุกเรื่อง ถือเป็นเงื่อนสำคัญที่บอกล่วงหน้าได้ว่า จากนี้ไป ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก จะได้พบกับก้นเหวแล้วที่ระดับราคาไม่ต่ำกว่า 25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแน่นอน
ความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะเกิดขึ้นหลังจากเริ่มมีข้อสรุปในลักษณะฉันทามติทั้งที่เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการเกิดขึ้น (ซึ่งไม่ชัดเจนว่าจะกินเวลานานเท่าใด) อยู่ที่ว่า ราคาน้ำมันจะเริ่มมีสเถสียภาพในระดับต่ำประมาณ 320-35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกนานหลายเดือน เพื่อรอให้เศรษฐกจิประเทศต่างๆ ที่นำเข้าน้ำมันปรับสภาพรับผลพวงของกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น และตลาดเงินตลาดทุนส่วนใหญ่เริ่มลดความผันผวนลงไป
หลังจากนั้น เมื่อเศรษฐกิจชาติต่างเริ่มกลับมาเติบโตเป็นขาขึ้นอย่างช้าๆ ระลอกใหม่ มีการผลิตสินค้าแบบขยายวงพร้อมกัน แบบเดียวกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2003 ซึ่งจะทำให้อุปสงค์ของพลังงานเพิ่มขึ้น เป็นต้นมา ขาขึ้นของราคาน้ำมันระลอกใหม่ก็จะติดตามมา
ไม่ใช่เรื่องเกินเลยที่จะกล่าวว่า ข้อตกลงตรึงการผลิตน้ำมัน เป็นจุดผกผันสำคัญที่จะทำให้จากนี้ไป คือการนับถอยหลังของภาวะหมีในตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างแท้จริง แม้ว่าจะยังไม่เห็นอย่างจริงจัง แต่นักลงทุนในตลาดเก็งกำไรที่ช่ำชองรู้ดีว่า นี่คือ การเตรียมตัวกลับมาของกระทิงระลอกใหม่ที่เริ่มต้นอย่างช้าๆ อีกครั้ง
รอเวลาปล่อยให้หมีกลับไปพัก รอรอบขาลงต่อไป