6 หุ้นพร้อมคืนชีพ?

ในเมื่อตลาดหุ้นชอบเล่นตลกกับนักลงทุนเป็นประจำ “โมนิก้า” เลยถือโอกาสนี้พูดถึงสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือน ม.ค. 68


ในเมื่อตลาดหุ้นชอบเล่นตลกกับนักลงทุนเป็นประจำ “โมนิก้า” เลยถือโอกาสนี้พูดถึงสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือน ม.ค. 68 เพื่อเตือนความจำนักเล่นทุกคนว่า ตอนนั้นดัชนีแกว่งตัวไปมาที่บริเวณ 1,350 จุดเกือบทั้งเดือน และประคองตัวเหนือระดับ 1,300 จุดได้อย่างเหนียวแน่น (31 ม.ค. ดัชนียังยืนอยู่ที่ 1,314.50 จุด) ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้นักเล่นยังพอมีหวังที่จะได้เห็นดัชนีเด้งกลับขึ้นไปใหม่นะออเจ้า

น่าเสียดายที่ความหวังดังกล่าวต้องพังทลายไม่เป็นท่า เพราะในเดือนแห่งความรักดันมีแรงขายหุ้นสาดไม่หยุด จนในช่วงสิ้นเดือนดัชนีลงมากองอยู่ที่ 1,203.72 จุด ต่อจากนั้นดัชนีก็ลุ่ม ๆ ดอน ๆ มาตลอด จนหุ้นทั้งตลาดมีราคาต่ำกว่าระดับเหมาะสม ขณะเดียวกันก็จะเห็นว่า อัตราเงินปันผลตอบแทนก็ขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 6-7% พร้อมกับเห็น  “กองทุน” หวนกลับมาซื้อหุ้นอีกครั้งเจ้าค่ะ

สถานการณ์ตรงนี้ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเปิดใจพูดถึงการยืนปิดที่ระดับ 1,189.55 จุด ลบไป 17.41 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.71 หมื่นล้านบาท (2 เดือนดัชนีร่วง 14%) รวมถึงหุ้นที่ร่วงหนักในเดือน ม.ค. มีโอกาสคัมแบ็กขนาดไหน? เพราะในมุมของบุ๊กแวลู และการประเมินมูลค่าเหมาะสมผ่านค่าพีอี จังหวะนี้คือการทยอยสะสมหุ้นอย่างไม่ต้องสงสัย แถมในตำราที่เดี๊ยนศึกษาเป็นเวลานาน..ก็พูดไว้อย่างนั้นจ้า

รายแรกที่ต้องเอ่ยถึงอีกครั้งก็คือ GLOBAL เพราะเป็นหุ้นที่ร่วงหนักสุดในเดือน ม.ค. และเมื่อดูจากการยืนปิดที่ 10 บาท ณ สิ้นเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลง 28% เทียบกับราคาหุ้นปัจจุบันที่ระดับ 6.80 บาท ลบไป 0.55 บาท หรือลงไป 7.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 316 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 16.70 เท่า มันมีโอกาสที่หุ้นจะฟื้นตัวขนาดไหน? ก็ขึ้นอยู่กับตัวเลขกำไรไตรมาส 1 ปี 68 จะออกมาเป็นอย่างไร?..อิอิอิ

ตัวถัดมาก็คือ CCET ร่วงหนักในเดือน ม.ค. มากถึง 24% และยังร่วงต่อในเดือน ก.พ. อีกราว ๆ 13% ก็มีประเด็นให้คิดต่อไปว่า การยืนปิดที่ระดับ 6.45 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 664 ล้านบาท คือการขึ้นรอบใหม่อย่างยั่งยืนใช่ไหม? เพราะเมื่อดูจากการเทรดบน PE 25 เท่า พ่วงด้วยความหวังที่ว่า กำไรไตรมาส 1 น่าจะออกมาดี มันทำให้การเล่นตรงนี้ไม่เสี่ยงนักพะย่ะค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ ITC รูดหนักลงมากองอยู่ที่ระดับ 17 บาท หรือคิดเป็นการปรับตัวลง 23% ในเดือน ม.ค. ต่อจากนั้นก็พยายามเทคตัวขึ้นใหม่ แต่ก็มีความกังวลเรื่องภาษีขั้นต่ำสากล (GMT) หุ้นเลยไปไหนไม่ได้สักที และทำให้การยืนปิดที่ระดับ 16.50 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 126 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 14 เท่า น่าสนใจในแง่หุ้นมีโอกาสวิ่งกลับขึ้นไปยาว ๆ (ก.พ. เคยเด้งขึ้นไปถึง 19 บาท) น่ะซี

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้นเครื่องดื่มชูกำลัง OSP ก็รูดลงหนักในเดือน ม.ค. ไปถึง 22% พร้อมกับลงมานอนแอ้งแม้งที่บริเวณ 16.20 บาท ขณะที่วานนี้หุ้นยืนปิดที่ระดับ 15.70 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 641 ล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นหุ้นที่น่าเล่นตามน้ำ เพราะความกังวลเรื่องสงครามราคาคลี่คลายลงเรื่อย ๆ แถมนักลงทุนสถาบันก็กลับเข้ามาเล่นอีกครั้ง จึงมีลุ้นเห็นหุ้นไปต่อนะตัวเอง

ขนาดหุ้น DELTA โดนถล่มหนักในเดือน ม.ค. (ร่วงจาก 160 มาอยู่ที่ 126 บาท) และในเดือน ก.พ. ก็ยังโดนถล่มต่อ (ลงมากองอยู่ที่ 77.25 บาท) แต่วานนี้หุ้นกลับขึ้นมายืนอยู่ที่ 77.50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 2.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.13 พันล้านบาท “โมนิก้า” เลยตีความได้อย่างเดียวว่า กองทุนเข้ามาเล่นรอบใหม่ และมีโอกาสได้เห็นหุ้นขึ้นไปปิดแก๊ปที่เปิดไว้บริเวณ 100 บาทกระมัง!

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น COM7 เป็นรายถัดมาทันที เพราะเป็นหุ้นที่โดนขายออกมาเรื่อย ๆ ในช่วง ม.ค.-ก.พ. จนราคาหุ้นทรุดลงหนักในบางวัน แต่สุดท้ายก็ดีดตัวขึ้นมาเกาะแนวราคา 22-24 บาท เดี๊ยนจึงมองการยืนปิดที่ระดับ 21.20 บาท ลบไป 1.20 บาท หรือลงไป 5.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 479 ล้านบาท น่าสนใจในแง่ “พื้นฐาน” และ “เทคนิค” ก็เท่านั้นเอง

น่าสมเพชสุดคงเป็นเรื่อง “ปลูกกล้วยแทนข้าว” ภายใต้แนวคิดรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย มันทำให้เดี๊ยนถึงกับอุทานเสียงหลงว่า ขยันหาเรื่องให้ชาวบ้านด่าเสียจริง ๆ..แล้วหุ้นมันจะขึ้นได้ไง ในเมื่อสมองคิดได้แค่นี้!

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button