
จีนกระตุ้นการบริโภครับมือเทรดวอร์
“รัฐบาลจีน” กำหนดเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนปี 2568 ที่ระดับ 5% ตามรายงานที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง เสนอต่อสภาประชาชนแห่งชาติจีน
“รัฐบาลจีน” กำหนดเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนปี 2568 ที่ระดับ 5% ตามรายงานที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง เสนอต่อสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ในการประชุมประจำปี พร้อมตั้งเป้าลดอัตราว่างงานลงมาอยู่ที่ระดับ 5.5% สร้างงานใหม่กว่า 12 ล้านตำแหน่ง และการทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคมาอยู่ที่ระดับ 2%
โดยทางการจีน เชื่อว่ามาตรการกระตุ้นการบริโภคของครัวเรือน จะเป็นหนึ่งในเครื่องจักรที่สำคัญ ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนให้เติบโตต่อเนื่อง ขณะเดียวกันรัฐบาลจีนวางแผนออกพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวเป็นพิเศษ มูลค่า 1.3 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 6.2 ล้านล้านบาท) เพื่อสนับสนุนโครงการส่งเสริมการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคของครัวเรือนในประเทศจีนปีนี้
พร้อมตั้งเป้าส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ ๆ และอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น เทคโนโลยีควอนตัม เร่งอัพเกรดอุตสาหกรรมดั้งเดิม ผสมผสานกับเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น AI เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ภาคผลิตอุตสาหกรรม และการตลาดของจีน
สำหรับปี 2568 เป็นปีสุดท้ายของแผนพัฒนาระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 ของจีน (ระหว่างปี 2564-2568) และเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการจัดทำแผนพัฒนาระยะ 5 ปีฉบับต่อไป
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่ารัฐบาลจีน ไม่เพียงแต่พยายามจะผลักดันเศรษฐกิจจีนให้เติบโตตามเป้าปีนี้ แต่เชื่อว่ารัฐบาลจีนจะวางรากฐานสำหรับการพัฒนาประเทศจีนให้ทันสมัย อีกทั้งพัฒนามาตรฐานการครองชีพของประชาชนให้สูงขึ้นและกระตุ้นการใช้จ่ายของครัวเรือนระยะยาว
“สภาพแวดล้อมภายนอกที่ซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อจีนด้านต่าง ๆ เช่น การค้า, วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สงครามการค้ากับรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังคุกคามทรัพย์สินทางเศรษฐกิจที่มีค่าของจีน ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรมหลายสาขาขนาดใหญ่ของจีน ช่วงเวลาที่ความต้องการภาคครัวเรือนซบเซาอย่างต่อเนื่อง และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เต็มไปด้วยหนี้สินที่กำลังคลี่คลาย จะทำให้เศรษฐกิจมีความเปราะบางมากขึ้น”
Tilly Zhang นักวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยีจาก Gavekal Dragonomics ระบุว่า นับเป็นครั้งแรกที่การกระตุ้นการบริโภคได้รับการยกระดับให้เป็นลำดับความสำคัญสูงสุดในบรรดาภารกิจหลักปี 2568
การแจ้งเกิดของแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ Deep Seek กระตุ้นความเชื่อมั่นของตลาดจีนปีนี้ ทั้งนี้ความก้าวหน้าของ AI ได้รับความสำคัญมากขึ้น จากการกล่าวสุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรีหลี่ปีนี้ เมื่อเทียบปี 2567 โดยให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมการประยุกต์ใช้ AI ในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า, สมาร์ทโฟน และหุ่นยนต์
จากเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ที่ระดับ 5% และวางแผนขาดดุลงบประมาณที่ประมาณ 4% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจ สูงที่สุดรอบกว่า 30 ปี บรรดาผู้สังเกตการณ์มองว่าสิ่งดังกล่าว สะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือภาคครัวเรือนและกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพื่อรับมือการส่งออกที่น่าจะลดลง ผลจากการถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษีศุลกากร
จงอย่าลืมว่า “จีน” เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศ ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็วมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก..!!