
ส่งออกจีนพุ่ง..ก่อนเจอกำแพงภาษี
ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตัวเลขมูลค่าส่งออกของจีนสูงเป็นประวัติการณ์ หลังจากสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตัวเลขมูลค่าส่งออกของจีนสูงเป็นประวัติการณ์ หลังจากสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ผลักดันให้บรรดาธุรกิจต่าง ๆ ต้องรีบขนส่งสินค้า ก่อนที่ค่าขนส่งจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
“กรมศุลกากรจีน” แถลงการณ์ว่าช่วง 2 เดือนแรกปีพ.ศ. 2568 ยอดส่งออกจากจีนพุ่งขึ้น 2.3% หรือมูลค่า 540,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 8.4% ทำให้ยอดเกินดุลการค้าปรับขึ้นสูงสุดประวัติการณ์ 171,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
บรรดานักเศรษฐศาสตร์ พยากรณ์ตัวเลขยอดส่งออกเติบโตขึ้น 5.9% และตัวเลขยอดนำเข้าเติบโตขึ้น 1% บ่งชี้ให้เห็นถึงสภาวะของประเทศค้าขายใหญ่สุดโลก ตั้งแต่ “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” เริ่มตั้งกำแพงภาษีต่อสินค้าจีน เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา สหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีนำเข้า 10% กับสินค้าจีนทั้งหมดต่อมาได้เพิ่มเป็น 20% เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา
“จีเหว่ย จาง” ประธานและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่ Pinpoint Asset Management ระบุว่า ความเสียหายต่อการส่งออกจีนจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จะมีการเผยออกมาช่วงเดือนหน้า แม้ภาคเทคโนโลยีจะยังเติบโตอยู่ก็ตาม อุปสงค์ภายในประเทศยังต่ำอยู่เนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ฟื้นตัว
โดยยอดนำเข้าลดลงแสดงให้เห็นอุปสงค์ที่ยังอ่อนแอในประเทศและแสดงให้เห็นว่าสภาวะเศรษฐกิจจีน ส่งผลกระทบถึงประเทศอื่น ๆ ด้วย ยอดนำเข้าของจีนตกลงต่ำสุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2563
สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนประกาศว่าจะขยายงบประมาณขาดดุลเพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตตามเป้าหมาย 5% สำหรับปีนี้ โดยจีนมีความเสี่ยงต่อสงครามการค้ามากสุด ถึงแม้สหรัฐฯ จะนำเข้าโดยตรงจากจีนเพียง 15% แต่สินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ ผ่านประเทศ เวียดนาม เม็กซิโกและอื่น ๆ ยังสูงมากกว่า..!!
บริษัทต่างๆในจีนมีการส่งออกสินค้ามูลค่ารวม 87,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียน ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยเวียดนาม ถือเป็นประเทศ ที่มีการนำเข้าสินค้าจีนมากสุดและหลายๆบริษัทในสหภาพยุโรป มีการนำเข้าสินค้าจากจีนมากกว่าช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา
หากสหรัฐฯ ยังเพิ่มภาษีขึ้นเรื่อย ๆ อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก ที่เป็นเกือบถึง 1 ใน 3 ของปัจจัยการเติบโตของเศรษฐกิจจีน เมื่อปีที่ผ่านมาได้ แม้แต่ภาษีระดับปัจจุบันเอง อาจส่งผลให้ยอดส่งออกจีนช้าลงได้
การที่ยอดส่งออกไปสหรัฐฯ ปรับขึ้นมาอย่างมากช่วงที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าภัยจากภาษีนั้นทำให้บริษัทจากทั้ง 2 ชาติต่างเร่งส่งสินค้าไปที่อเมริกา ก่อนที่รัฐบาลทรัมป์ จะทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นอีก
โดยยอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 76,000 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ถือเป็นตัวเลขสูงสุดรอบ 3 ปี แต่ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีพ.ศ. 2565 ที่ภาวะโรคระบาดทำให้การค้าขายระหว่าง 2 ประเทศ เพิ่มขึ้นอย่างมาก..