
กองทุนทำงาน?
สิ่งที่เห็นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาทำให้เดี๊ยนรู้ว่า กองทุนเริ่มกลับเข้ามาซื้อหุ้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยดูดีขึ้นมานิดหนึ่ง
สิ่งที่เห็นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาทำให้เดี๊ยนรู้ว่า กองทุนเริ่มกลับเข้ามาซื้อหุ้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยดูดีขึ้นมานิดหนึ่ง แม้จะไม่ไล่ราคาสุดซอย แต่ก็ทำให้อีฉันโล่งใจนิดหน่อย เพราะเกมหุ้นเที่ยวนี้จะเป็นการฟาดฟันกับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งอีฉันต้องเชียร์ให้กองทุนเป็นฝ่ายกำชัย เพื่อทำให้ตลาดหุ้นไทยปักหลักสร้างฐานที่มั่นคงให้ได้เสียที ต่อจากนั้นจะได้คาดหวังการขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,200 จุดไงล่ะคะ
ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,160.06 จุด ลบไป 27.57 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.63 หมื่นล้านบาท ยังไม่ใช่ประเด็นที่น่ากังวลมากนัก เพราะบรรดานักเล่นเคยผ่านเหตุการณ์ลักษณะนี้มาหลายครั้ง จึงเชื่อได้ว่า ดัชนียังมีโอกาสเด้งกลับขึ้นไปอีกครั้ง ผนวกกับขุนคลังได้เข็นมาตราการฟื้นตลาดหุ้นผ่าน TESG X อย่างเป็นทางการ และมาตรการนี้น่าจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ นะตัวเอง
งานนี้จึงเหมือนเป็นการเดิมพันด้วยตัวนักเล่นเองว่า เชื่อมั่นกับตลาดหุ้นไทยมากขนาดไหน? เพราะตรงนี้จะเป็นตัวบอกถึงแรงซื้อจะกลับเข้ามาระดับไหน? รวมทั้งเป็นการวัดประสิทธิภาพมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเพื่อไทย ยังมีมนต์ขลังเหมือนเช่นในอดีตไหม? (ที่ผ่านมามนต์ขลังเสื่อมลงเรื่อย ๆ) “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นคราวนี้คือการทดสอบความเข้มแข็งของสภาพจิตใจนักลงทุนพะย่ะค่ะ
โดยเฉพาะในรายของ ADVANC ซึ่งได้ชื่อเป็นหุ้นที่ทนได้ทุกสภาพเศรษฐกิจ แต่วานนี้กลับอ่อนตัวลงมายืนปิดที่ระดับ 265 บาท ลบไป 5 บาท หรือลงไป 1.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.96 พันล้านบาท แถมเป็นการยืนปิดตรงบริเวณจุดเด้งพอดีแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของโอกาสการลงทุนอย่างไม่ต้องสงสัย และถ้าเทียบกับราคาเป้าหมายที่โบรกเกอร์ให้ไว้เหนือ 300 บาท หุ้นก็ควรจะขึ้นไม่ใช่เหรอ?
เช่นเดียวกับในรายของ CPALL ออกอาการเป๋ไปเป๋มา ทั้งที่ผลงานไม่ได้แย่ลงจนถึงขั้นวิกฤติ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นมองการยืนปิดที่ระดับ 50.75 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 1.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.40 พันล้านบาท ท่ามกลาง PE 18 เท่า และเป็นค่าพีอีที่ต่ำสุดในรอบ 5 ปีแบบนี้ มันเป็นจังหวะของการ “ทยอยเก็บ” หรือ “โกยหนี” ช่วยกระซิบบอกอีฉันหน่อย เพราะในมุมมองของอีฉัน..มันต้องซื้อค่ะ
เช่นเดียวกับในรายของ CRC ที่ถูกรินขายเป็นแรมเดือนแบบไม่มีลิมิต ทั้งที่ตัวเลขต่าง ๆ ชี้ไปในทางเดียวกันว่า การยืนปิดที่ระดับ 27.75 บาท ลบไป 2.25 บาท หรือลงไป 7.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 662 ล้านบาท คือจังหวะของการทยอยเก็บของดีราคาถูก แต่ภาพที่เกิดขึ้นดันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง “โมนิก้า” จึงไม่สามารถอธิบายอะไรได้เพิ่มเติม เพราะไม่เข้าใจเหตุผลที่กลุ่มสถาบันสาดหุ้นลูกเดียวน่ะซี
คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้นโรงหมอ CHG ก็ถูกขายหนักเช่นเดียวกับรายอื่น ๆ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกหนักใจเป็นอย่างมากที่เห็นหุ้นหัวทิ่มบ่อแบบไม่มีกำหนด หรือมองในมุมของบรรยากาศลงทุนที่ไม่เป็นใจ ยิ่งทำให้เห็นว่า การยืนปิดที่ระดับ 1.88 บาท ลบไป 0.11 บาท หรือลงไป 5.53% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 123 ล้านบาท อาจไม่ใช่จังหวะของการทยอยรับหุ้น และโลว์ครั้งก่อนที่ทำให้หุ้นเด้งกลับขึ้นไปแถว 2.30 บาท อยู่ที่บริเวณ 1.71 บาทเจ้าค่ะ
ตบท้ายกันที่หุ้นเล็กที่ทำธุรกิจความสวยความงามอย่าง KLINIQ กันดีกว่า เพราะรายนี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แถมปัจจัยพื้นฐานก็แข็งแกร่งเหลือเกิน “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 31 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 3.88% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38 ล้านบาท คือจังหวะของการสะสมหุ้นอย่างไม่ต้องสงสัย และมองเป็นโอกาสสำหรับคนที่ยังเชื่อว่า ไตรมาส 1 ยังทำผลงานได้ดีจ้า!
โมนิก้า: และทีมงาน