TPL กังขาเงินไอพีโอ.?

ถ้าพูดถึงบริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL เป็นหุ้นขนส่งพัสดุที่เข้าเทรดมาแล้วเกือบ 2 ปี (เข้า 30 มิ.ย. 2566 ด้วยไอพีโอ 3.30 บาท)...


ถ้าพูดถึงบริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL เป็นหุ้นขนส่งพัสดุที่เข้าเทรดมาแล้วเกือบ 2 ปี (เข้า 30 มิ.ย. 2566 ด้วยไอพีโอ 3.30 บาท)

และแม้จะชูความแตกต่างจากการเน้นขนส่งพัสดุขนาดใหญ่ ไม่เหมือนกับบริษัท เคอีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ที่เน้นขนส่งพัสดุชิ้นเล็กทั่ว ๆ ไป แต่ด้วยอยู่ในสนามการแข่งขันที่ห้ำหั่นกันด้านราคา ทำให้ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยสู้ดี…อย่างงบปี 2566 มีรายได้รวม 508.87 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 3.15 ล้านบาท ล่าสุดปี 2567 มีรายได้ 511.62 ล้านบาท พลิกมามีกำไรสุทธิ 3.02 ล้านบาท

ขณะที่ ความเคลื่อนไหวด้านธุรกิจแทบไม่มีให้เห็น ทำให้หุ้น TPL ค่อย ๆ กลืนหายไปในตลาดฯ จนนักลงทุนหลายคนลืมไปแล้วมั้งว่ามีหุ้นตัวนี้ด้วยเหรอ..??

ล่าสุด TPL กลับมาอยู่ในเป้าสายตาของนักลงทุนอีกครั้ง จากกรณีตลาดหลักทรัพย์ฯ มีข้อห่วงใยต่อการใช้เงินไอพีโอของ TPL..!?

สารตั้งต้นเรื่องนี้ เริ่มจาก TPL ได้เปิดเผยว่าจะใช้เงินจากการระดมทุนจากประชาชน (IPO) ในการสร้างศูนย์กระจายสินค้าและลงทุนธุรกิจใหม่จำนวน 190 ล้านบาท เเละ 105 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็น 48% และ 27% ของวงเงิน IPO ภายในปี 2568 และปี 2567

ต่อมาในเดือน ก.ค. 2567 บริษัทได้นำเงินไปซื้อที่ดินที่จะนำมาสร้างศูนย์กระจายสินค้า 80 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของราคาที่ดิน ซึ่งผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตกรณีบริษัททำหนังสือแจ้งความประสงค์ไม่ซื้อที่ดินดังกล่าว และปัจจุบันไม่สามารถขึ้นเงินจากเช็คที่ได้รับคืนจากผู้ขายได้ โดยฝ่ายบริหารอยู่ระหว่างติดตามทวงถาม ทั้งนี้เจ้าของที่ดินคือผู้ถือหุ้นบริษัท 2.03%

นอกจากนี้ บริษัทได้นำเงินไปลงทุนในบริษัท วอลตัน อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด จำนวน 45 ล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2566 เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ถือหุ้นโดยบริษัท เอทีฟ พีทีอี จำกัด สัดส่วน 45%, “คณิสสร์ ศรีวชิระประภา” สัดส่วน 31% และ TPL ถือหุ้นสัดส่วน 23%

ทั้งนี้ การทำธุรกรรมข้างต้นใช้เงินจาก IPO รวม 125 ล้านบาท คิดเป็น 31% ของเงิน IPO ซึ่งเป็นจำนวนที่มีนัยสำคัญ และอาจมีผลกระทบต่อแผนขยายธุรกิจ หรือผลการดำเนินงานของบริษัท

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงสั่งให้ TPL ชี้แจงข้อมูลดังต่อไปนี้…

1) ความคืบหน้าเเละแผนการลงทุนในธุรกิจศูนย์กระจายสินค้า เหตุผลในการยกเลิกการซื้อที่ดิน ความคืบหน้าในการติดตามเงินมัดจำและการดำเนินการกับหลักประกัน กรอบเวลาในการดำเนินการแล้วเสร็จ รวมทั้งรายละเอียดที่ตั้งที่ดินและความสัมพันธ์ของผู้ขายที่ดินกับกลุ่มบริษัท (เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ และผู้บริหาร)

2) ความคืบหน้าและแผนการลงทุนในธุรกิจใหม่ ซึ่งปัจจุบันบริษัทลงทุนในบริษัท วอลตันฯ เช่น การก่อสร้างโรงงาน การมีรายได้เชิงพาณิชย์ และผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ

และ 3) ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับ (1) ความสมเหตุสมผลของการจ่ายเงินมัดจำทั้งในด้านของอัตราและเงื่อนไขในการวางหลักประกัน รวมถึงการพิจารณาความสามารถในการดำเนินการตามสัญญาของผู้ขาย ณ วันที่อนุมัติเข้าทำรายการ (2) ผลกระทบต่อแผนการใช้เงิน IPO ในอนาคต การขยายธุรกิจ และความคืบหน้าการลงทุนธุรกิจใหม่เพิ่มเติม (3) มาตรการดูแลการใช้เงิน IPO เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย

จุดที่น่าตั้งข้อสังเกต ถ้าไปดูโครงการผู้ถือหุ้น TPL ณ วันที่ 28 ส.ค. 2567 ผู้ถือหุ้นสัดส่วน 2.03% ปรากฏชื่อ “อินทิรา ช่วยสนิท” ถือหุ้นในลำดับที่ 10…แล้วเท่าที่สืบค้นประวัติในโลกออนไลน์ พบว่า “อินทิรา” เป็นภรรยาของ “คณิสสร์ ศรีวชิระประภา” หรือที่รู้จักในชื่อจีน “หลิน เข่อนั่ว” หนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัท วอลตันฯ ธุรกิจใหม่ที่ TPL เข้าไปลงทุนนั่นแหละ…

ส่วนจะมีอะไรในกอไผ่อ๊ะป่าว..?? ไม่รู้ ๆ ๆ

เอาเป็นว่า เมื่อตลาดฯ ถามมา TPL ก็มีหน้าที่ต้องตอบ…ส่วนคำตอบจะฟังขึ้นหรือเปล่า..??

เดดไลน์วันที่ 24 มี.ค. 2568 นี้ได้รู้กัน..!?

… อิ อิ อิ…

Back to top button