
AAV กำไรเทกออฟ!
การท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามากว่า 35.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน
คุณค่าบริษัท
การท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามากว่า 35.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน ใกล้เคียงระดับก่อนโควิดที่ระดับ 39.8 ล้านคน เป็นปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานของบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการสายการบินราคาประหยัด ภายใต้แบรนด์ “ไทยแอร์เอเชีย”
โดยงบปี 2567 โชว์กำไรสุทธิ 3,477.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 647% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 465.8 ล้านบาท และมีรายได้รวม 50,793.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 42,950.1 ล้านบาท และหากไม่นับรวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานหลัก 3,006.8 ล้านบาท นับเป็นการกลับมาทำกำไรจากการดำเนินงานหลักได้ครั้งแรกตั้งแต่เกิดโควิด
ในปี 2567 AAV ขนส่งผู้โดยสารรวม 20.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10% (คิดเป็นการฟื้นตัว 94% ของระดับก่อนเกิดโควิด) แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 7.72 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10% ผู้โดยสารในประเทศ 13.10 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11% มีค่าโดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 10% มาอยู่ที่่ 1,967 บาทต่อที่นั่ง และมีอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (Load factor) เฉลี่ยสูง 91% เพิ่มขึ้น 1 จุด ตามสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น
ขณะที่ ปี 2567 สายการบินไทยแอร์เอเชียยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยสัดส่วน 40%
ที่น่าสนใจ ในปี 2568 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยที่ 40 ล้านคน ทำให้ AAV มั่นใจจะเติบโตได้ต่อ ด้วยเป้ารายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น 15% จากปี 2567 อยู่ที่ 49,435.6 ล้านบาท จากจำนวนผู้โดยสารรวม 23-24 ล้านคน ด้วย Load factor เฉลี่ย 90% มีปริมาณการขนส่งด้านผู้โดยสาร (ASK) ที่ 28,500 ล้านที่นั่ง-กิโลเมตร และจะมีการรับมอบเครื่องบินแอร์บัส A321neo อีก 6 ลำ รวมมีฝูงบินในปี 2568 ที่ 66 ลำ มีอัตราการใช้เครื่องบินต่อลำ 12.5 ชั่วโมง
ด้านบล.เคจีไอ คาดว่าโมเมนตัมกำไรของ AAV จะยังเป็นบวกต่อเนื่องในไตรมาส 1/2568 โดยมีปัจจัยสนับสนันที่สำคัญ จาก 1) ในไตรมาส 1/2568 เป็นอีกหนึ่งไตรมาสที่การท่องเที่ยวแข็งแกร่งตามฤดูกาล 2) ราคาตั๋วอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เพราะอุปสงค์แข็งแกร่ง และ 3) ต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้
นอกจากนี้ ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติของ AAV ในปี 2568 ขึ้นอีก 6.2% เป็น 3.25 พันล้านบาท เพื่อสะท้อนถึงจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่าตั๋วเฉลี่ยที่ทรงตัวที่ 1,967 บาท
บล.ฟิลลิป ระบุว่า ในไตรมาส 1/2568 ยังเห็นแนวโน้มที่ดีจาก 1 ม.ค.-18 ก.พ. ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 9.8% ที่ 3.12 ล้านคน โดยทั้งปี ททท.ตั้งเป้านักท่องเที่ยวไว้ 40 ล้านคน และสำหรับ AAV ตั้งเป้าผู้โดยสารที่ 23-24 ล้านคน โดยจะมีการเพิ่มเครื่องอีก 6 ลำ เป็น 66 ลำ เพื่อมาเน้นตลาดในประเทศที่ AAV มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด และยังมีความต้องการในการเดินทางอยู่ ส่วนต่างประเทศไม่เน้นตลาดจีน คาดกำไรไม่รวม Fx ที่ 3,485 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9%
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น AAI ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 7.32 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 16.20 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาด อย่างไรก็ตามถ้าดู P/BV ที่ระดับ 2.24 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.13 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 3.21 บาท จากราคาต่ำสุด 2 บาท และราคาสูงสุด 5 บาท