
‘จัดใหญ่’ ไม่ ‘จัดเล็ก’
ช่วงนี้ “เพื่อนสนิท มิตรสหาย” ถามไถ่เข้ามามากเหลือเกินว่า ทำไมไม่พูดถึงเรื่องการเมืองเหมือนเมื่อก่อนเลย เดี๊ยนเลยตอบกลับไปว่า การเมืองมันเส็งเคร็งเหลือเกิน ก็ไม่รู้จะพูดไปหาพระแสงอะไร
ช่วงนี้ “เพื่อนสนิท มิตรสหาย” ถามไถ่เข้ามามากเหลือเกินว่า ทำไมไม่พูดถึงเรื่องการเมืองเหมือนเมื่อก่อนเลย เดี๊ยนเลยตอบกลับไปว่า การเมืองมันเส็งเคร็งเหลือเกิน ก็ไม่รู้จะพูดไปหาพระแสงอะไร..ยิ่งเห็น “เวลา” ที่รัฐบาลให้ฝ่ายอภิปรายไม่ไว้วางใจยาวไปจนถึงตี 5 ยิ่งทำให้อีฉันรู้สึกสมเพชรัฐบาลชุดนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ จึงไม่อยากให้ค่า “นายกฯ” กับ “รัฐมนตรี” (ทำไปเพื่ออะไร เพราะสุดท้ายรัฐบาลก็ลอยลำอยู่ดี) ไงล่ะคะ
ประกอบกับผู้คนทั้งประเทศได้เห็นท่าทีปากแจ๋วจนเบื่อหน่ายสุด ๆ แต่สุดท้ายกลับทำอะไรไม่เป็นโล้เป็นพาย “โมนิก้า” เลยไม่รู้ว่า รัฐบาลอิ๊งจะหาเรื่องให้ชาวบ้านด่าทุกวันทำไม? เพราะมันมีแต่ทำให้คะแนนเสียงจากคนเสื้อแดงลดลงเรื่อย ๆ แถมนโยบายหลายอย่างก็ไม่ตรงปกแบบนี้ (ล่าสุดโดนขุดเรื่องบริษัทที่เข้ามารับงานซอฟต์พาวเวอร์) มันเป็นประเด็นที่กระทบกับความเชื่อมั่นในหลายภาคส่วนอย่างไม่ต้องสงสัย อีฉันเลยไม่อยากคอมเมนต์อะไรมากมาย เพราะอีฉันไม่ใช่ สทร. นะซี
ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” สนใจเรื่องตลาดหุ้นมากกว่าการเมือง เพราะเป็นเรื่องที่จับต้องได้ง่ายกว่า และพอจะคาดเดาสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งเหมือนกับเหตุการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอีฉันฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแหกไว้ว่า ถ้าตลาดหุ้นไทยจะไปต่อ ต้องมาจากแรงซื้อของสถาบันที่เข้ามาต่อเนื่อง (ต่างชาติ หรือกองทุนก็ได้) และการที่ดัชนีประคองตัวยืนที่ 1,186.61 จุด บวกไป 4.90 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.73 หมื่นล้านบาท ย่อมส่งผลดีต่อการเล่นหุ้นสัปดาห์นี้นะจ๊ะ
โดยเฉพาะในรายของพี่เทพ PTTEP เริ่มเคลื่อนตัวออกจากฐาน 110 บาท พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 114.50 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.36 พันล้านบาท ท่ามกลาง PE 5.60 เท่า และยังมีเงินปันผลในระดับ 8% แบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างไม่ต้องสงสัย เดี๊ยนเลยเชื่อว่า หุ้นจะวิ่งกลับขึ้นไปปิดแก๊ปที่เปิดไว้บริเวณ 125 บาทในไม่ช้าก็เท่นั้นเอง
เช่นเดียวกับในรายของ TISCO ยังเป็นหุ้นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับการลงทุนระยะยาว เพราะเมื่อดูข้อมูลย้อนหลัง 5 ปีจะเห็นว่า หุ้นเทรดบน PE 11 เท่าเป็นส่วนใหญ่ และให้ปันผลอยู่ที่ระดับ 7% อย่างสม่ำเสมอ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ระดับ 101 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 1.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 597 ล้านบาท เหมาะต่อการลงทุนเหมือนที่เดี๊ยนเม้าท์ให้ฟังไหมเอ่ย?
ส่วนรายที่ประหลาดสุด เดี๊ยนขอมองไปที่หุ้น BEM แบบไม่ลังเลใจ ซึ่งเป็นผลมาจากการเทรดของหุ้นวันนี้อยู่บนพีอีต่ำสุดในรอบ 4 ปี ท่ามกลางตัวเลขกำไรยังโตต่อเนื่องแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับความเป็นจริงเหลือเกิน และอยากให้แฟนคลับลองประเมินการยืนปิดที่ระดับ 5.55 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 282 ล้านบาท เหมาะต่อการลงทุนหรือไม่เจ้าค่ะ
คล้ายกับสถานการณ์ของ OSP ที่ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาเรื่อย ๆ หลังกำไรลดฮวบ จนหลายคนเชื่อว่า ปีนี้น่าจะเป็นปีของการฟื้นตัว “โมนิก้า” จึงต้องพาแฟนคลับมาแกะตัวเลขทีละส่วน เพื่อพิสูจน์ความน่าสนใจของหุ้นตัวนี้ ซึ่งไล่เรียงจาก PE 28 เท่า และตัวเลขปันผลที่อยู่ในระดับ 4% เป็นตัวนำ ต่อจากนั้นดูจากค่า ROE ที่ลดลงเรื่อย ๆ จนล่าสุดอยู่ที่ 10% แบบนี้..คุณ ๆ ท่าน ๆ คิดว่า การยืนปิดเสมอตัวปิดที่ 15.20 บาท น่าสนใจสำหรับการซื้อเพื่อลุ้นคัมแบ็กไหมล่ะคะ
ไหน ๆ ต้องลุ้นกันทั้งที “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น SKY เพื่อชี้ให้เห็นการย่อตัวลงมาเรื่อย ๆ ทั้งที่ได้งานใหม่เข้ามาเติมในพอร์ต มันเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับความรู้สึกของอีฉันเหลือเกิน และถ้าเชื่อว่า ปีนี้กำไรจะกลับมาโตอีกครั้ง ก็หมายความว่า การยืนปิดของราคาหุ้นที่ระดับ 16.50 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 271 ล้านบาท คือโอกาสของการสะสมหุ้นใช่ไหม? หรืออีฉันพูดอะไรผิดไป ก็ช่วยชี้แนะด้วยนะตัวเอง
โมนิก้า: และทีมงาน