
BCPG งานแลกหนี้ลาว.!
ด้วยภาวะเศรษฐกิจสปป.ลาวที่ฟื้นตัวช้า ผสมโรงกับการอ่อนค่าของเงินกีบ และอัตราเงินเฟ้อสูง ทำให้คนลาวเผชิญปัญหาค่าครองชีพสูงลิ่ว
ด้วยภาวะเศรษฐกิจสปป.ลาวที่ฟื้นตัวช้า ผสมโรงกับการอ่อนค่าของเงินกีบ และอัตราเงินเฟ้อสูง ทำให้คนลาวเผชิญปัญหาค่าครองชีพสูงลิ่ว แน่นอนว่าย่อมกระทบชิ่งมายังผู้ประกอบการไทยที่ดาหน้ากันไปขุดทองในสปป.ลาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้…
หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ลูกรักของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ซึ่งเข้าไปลงทุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในสปป.ลาวมานานหลายปีแล้ว…
BCPG ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจสปป.ลาวฟื้นตัวช้าไปเต็ม ๆ ซึ่งปรากฏชัดเป็นรอยตำหนิในงบไตรมาส 4/2567 ที่ต้องมีการตั้งสำรองค่าเผื่อการด้อยค่าของลูกหนี้เป็นมูลค่า 182 ล้านบาท..!?
โอเค…แม้ในภาพรวมยังเห็นการเติบโตที่ดี โดยในไตรมาส 4/2567 โชว์กำไรสุทธิ 163.8 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 173.7 ล้านบาท ส่งผลให้งบปี 2567 มีกำไรสุทธิ 1,819.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,104 ล้านบาท
แต่หากไม่มีรายการพิเศษก้อนนี้ ก็น่าจะเห็นกำไรของ BCPG เติบโตมากกว่านี้นะเนี่ย..??
แหม๊..เสียดายจัง เฮ้อ…เสียดายจัง
ถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่ารายการพิเศษที่ว่าคืออะไร..?? คำตอบคือ หนี้จากรัฐบาลลาว (EDL) ซึ่งเป็นหนี้ที่เกิดจากการขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าลาวนั่นเอง..!! โดยปัจจุบัน BCPG มีหนี้สินค้างรับจากรัฐบาลลาวอยู่ที่ราว 27 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยราว 945 ล้านบาท…ก็ไม่น้อยนะ ซึ่งในงบไตรมาส 4/2567 ได้ตั้งสำรองไปแล้วจำนวน 182 ล้านบาท…
เบื้องต้นบริษัทนั่งยันนอนยันว่า ในปี 2568 นี้ จะไม่มีการตั้งสำรองหนี้จากรัฐบาลลาวเพิ่มแล้ว…ไม่ได้หลอกกันแน่นะวิ..!!
ก็พอเบาใจ…แต่ยังวางใจไม่ได้ เพราะตราบใดที่รัฐบาลลาวยังไม่เคลียร์หนี้ก้อนนี้ ก็จะเป็นตัวฉุดรั้งหุ้น BCPG ไปเรื่อย ๆ…เพราะไม่รู้ว่าจะต้องตั้งสำรองหนี้สินที่เหลืออีกเมื่อไหร่..?? ซึ่งในกรณี Worse Case ที่ต้องตั้งสำรองหนี้สินทั้งจำนวน บล.หยวนต้า คาดจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น BCPG ราว 0.31 บาทต่อหุ้น
ไม่หรอก…รัฐบาลลาวคงไม่เบี้ยวจ่ายหนี้หรอกมั้ง..??
ทว่า BCPG ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตอนนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทางรัฐบาลลาวเกี่ยวกับวิธีการชำระหนี้ ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจชำระโดยเปลี่ยนหนี้สินเป็นสินทรัพย์ เช่น เงินลงทุนในโครงการใหม่ที่ไม่ได้ขายไฟฟ้าให้กับรัฐบาลลาว หรือสิทธิในการบริหารโครงการ เป็นต้น
ถ้าเป็นจริงตามนี้…เท่ากับว่า BCPG ได้งานแลกหนี้น่ะสิ..!? ส่วนแลกแล้วจะคุ้มค่าหรือเปล่า..?? ไม่รู้ ๆ ๆ ๆ
ที่จริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาแล้วในอดีต…ซึ่งในครั้งนั้นมีการเปลี่ยนหนี้สินของรัฐบาลลาวเป็นสินทรัพย์มาแล้ว…ครั้งนี้ก็น่าจะใช้โมเดลเดียวกันละมั้ง
ว่าแต่ BCPG เจอปัญหารัฐบาลลาวค้างจ่ายหนี้อย่างนี้ นั่นเท่ากับว่าผู้ประกอบการไทยรายอื่นที่ค้าขายกับรัฐบาลลาวก็มีโอกาสตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน…งั้นใครรู้ตัวว่าเข้าข่าย เตรียมหาทางหนีทีไล่ไว้บ้างก็ดีนะ…เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
กลับมาที่ BCPG เมื่อประเมินแล้วว่าการค้าขายกับรัฐบาลลาวมีความเสี่ยงมากขึ้น จึงปรับกลยุทธ์การขยายกำลังผลิตในสปป.ลาวหลังจากนี้ ด้วยการเน้นไปที่โครงการที่มีการขายไฟฟ้าให้กับรัฐบาลเวียดนาม (EVN) เป็นหลักแทน เพื่อปิดความเสี่ยงจากค่าไฟค้างชำระเหมือนในอดีต
ขณะที่ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อ BCPG โดยบล.หยวนต้า ประเมินแนวโน้มกำไรปกติปี 2568 ยังเติบโตได้จากค่าความพร้อมจ่ายของตลาดสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Monsoon ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ซึ่งยังไม่นับรวมโครงการลมในเวียดนามขนาด 99 เมกะวัตต์ ปัจจุบันกำลังรอการ COD ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ก่อนเข้าถือหุ้นอย่างเป็นทางการในสัดส่วน 90%
พร้อมแนะนำ “ซื้อ” ด้วยเป้าหมาย 9.50 บาท
ยังมีอัพไซด์อีกเพียบ…
ส่วนใครที่เห็นต่างจากนี้ก็ไม่ว่ากัน…เลือกที่จะสบายใจละกัน
…อิ อิ อิ…