สังคายนาหุ้นไทย?

สิ่งที่ “โมนิก้า” ประทับใจมากสุดในภาวะตลาดหุ้นเป็นขาลง และดัชนีแกว่งตัวออกด้านข้างอีกครั้งก็คือ แมงเม่ายังมีลักษณะการลงทุนแบบสู้ตาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นความคิดเชิงบวกยังมีอย่างเต็มเปี่ยม เดี๊ยนถึงมองการอ่อนตัวของดัชนีมาปิดที่ระดับ 1,184.93 จุด ลบไป 5.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.07 หมื่นล้านบาท ไม่น่ากังวลในมุมมองของอีฉัน เพราะดัชนียังสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,150 จุด ซึ่งสื่อให้เห็นว่า แรงขายไม่เยอะแล้วนะคะ

เมื่อหลายอย่างไม่เลวร้ายเหมือนที่กังวลกัน “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นโอกาสของการลงทุนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ความเชื่อดังกล่าวมักพังทลายลงเป็นประจำ โดยเฉพาะในวันที่กองทุนทำตัวเป็นนักเล่นปอดแหก และฉวยจังหวะสาดหุ้นใส่แมงเม่านับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งทำให้การเดินหน้าขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,200 จุด พร้อมกับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวกลายเป็นเรื่องยากในทันทีเจ้าค่ะ

ประกอบกับวันนี้ยังมีเรื่องของ โรบอท ชอร์ตเซล และ HFT คอยกัดกินความมั่นใจของนักลงทุนไทย จึงจำเป็นต้องสังคายนาปมพิพาทให้เสร็จโดยไว เพราะนักลงทุนเริ่มอยู่เฉย ๆ กันมากขึ้น จนทำให้มูลค่าการซื้อขายซบเซาลงเรื่อย ๆ หากปล่อยให้สถานการณ์แบบนี้ดำเนินต่อไป อาจทำให้เสน่ห์ความน่าสนใจของหุ้นไทยลดลง จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอัดยาแรงไปเลยดีกว่านะจ๊ะ

เหมือนกับเรื่องซื้อหุ้นคืนของ PTT ในช่วงที่ผ่านมาถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ขาเผือกอดสงสัยเรื่องอินไซด์ดังกล่าวไม่ได้เช่นกัน เพราะก่อนหน้าจะมีการประกาศซื้อหุ้นคืน ราคาหุ้นก็ไต่เพดานขึ้นมาแบบผิดสังเกต จนทุกอย่างมาเฉลยในตอนท้ายแบบนี้ เดี๊ยนมองเป็นเรื่องที่คนเล่นหุ้นมีสิทธิ์คิดกันได้ทั้งนั้น แต่จะเป็นจริงเหมือนที่คิดกันหรือเปล่า? ต้องเป็นหน้าที่ของฝ่ายตรวจสอบของตลาดฯ พะย่ะค่ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น BCP เป็นรายถัดมา เพราะดันมีไอ้โม่งเข้ามาเกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นล็อตใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา แถมเรื่องดังกล่าวก็เกี่ยวพันกับประกันสังคม กองทุนวายุภักษ์ และลิ่วล้อนักการเมือง จึงทำให้ผู้คนในตลาดหุ้นอยากรู้ขึ้นมาทันทีว่า ใครได้ประโยชน์มากสุดจากการโยกหุ้นไปมา เพราะแต่ละฝ่ายที่ถูกพาดพิงต่างหุบปากเงียบกันเป็นแถวน่ะซี

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงข่าวโคมลอยเกี่ยวกับการร่วมหอลงโรงระหว่าง KTB กับ TTB ก่อนหน้านี้ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะสิ่งที่ผู้คนมากมายสงสัยก็คือ ทำไมถึงมีข่าวแบบนี้เล็ดลอดออกมาได้ ทั้งที่สถานการณ์หลายอย่างไม่ได้บีบรัดให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาจูบปากแบบดูดดื่มนั้น ก็เป็นประเด็นร้อนที่ทำให้คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบต้องออกมาหาแนวทางป้องปราม ไม่ให้ข่าวทำนองแบบนี้เกิดขึ้นอีก (คนในตลาดหุ้นมักเชื่อกันว่า ข่าวลือมักเป็นจริง) น่ะซี

ไหน ๆ ก็เม้าท์ถึงเรื่องที่ผู้คนมากมายสับสนขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอไปต่อที่หุ้น DELTA กันอีกสักหน่อย เพราะทุกวันนี้ยังไม่ได้คำตอบว่า เหตุใดกองทุนวายุภักษ์ถึงเข้าไปถือหุ้นตัวนี้ 111 ล้านหุ้น? ทั้งที่ชาวบ้านชาวเมืองต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ราคาโอเว่อร์เกินจะบรรยาย และนำไปสู่คำถามที่ว่า กองทุนจะขายหุ้นตัวนี้ได้ตอนไหน? เพราะราคาที่ได้มาก่อนหน้านี้ มันไม่มีทางออกของแล้วได้กำไรเลยพับผ่าสิ!

ตบท้ายกันที่เรื่องของไฮโซเมย์ที่เป็นข่าวครึกโครมก่อนหน้านี้ดีกว่า เพราะเริ่มมีการพูดถึงหล่อนในทำนองว่า เกี่ยวข้องกับหุ้น MORE ซึ่งเคยสร้างวีรกรรมปล้นโบรกฯ กลางแดดแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ทำให้ขาเผือกขุดคุ้ยกันมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะที่มาที่ไปของทรัพย์สินจำนวนมหาศาลมาจากแหล่งใดกันแน่? รวมทั้งการจัดมหกรรมดนตรี “Rolling Loud” มันทำให้คนวงในอยากรู้ถึงสายพันธุ์ที่มีต่อ “เฮียม้อ” ขึ้นมาแบบนี้..เจ้าตัวคงต้องชี้แจงกับสังคมเองแล้วล่ะ..อิอิอิ

โมนิก้า: และทีมงาน