
เกาหลีระยำ!
เรื่องแปลกแต่จริง เคยเห็นแต่บริษัทไทยโกงบริษัทไทยด้วยกันเอง แต่นี่เป็นบริษัทต่างชาติ ระดับมหาอำนาจทางเศรษฐกิจระดับโลก มาโกงบริษัทไทย
เรื่องแปลกแต่จริง เคยเห็นแต่บริษัทไทยโกงบริษัทไทยด้วยกันเอง แต่นี่เป็นบริษัทต่างชาติ ระดับมหาอำนาจทางเศรษฐกิจระดับโลก มาโกงบริษัทไทย ซึ่งเป็นผู้รับเหมาช่วง
เหตุเกิด ณ บริษัท ไทยออยล์ ได้ทำการว่าจ้างกลุ่มบริษัทร่วมค้า UJV อันประกอบไปด้วย Samsung Petrofac และ Saipem ล้วนเป็นบริษัทต่างชาติ ซึ่งซัมซุงก็คือเกาหลี เป็นลีด คอนซอร์เตียม ปิโตรแฟคของ UAE และไซเพม สัญชาติอิตาลี
กลุ่มบริษัทร่วมค้า UJV เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดในการก่อสร้างโครงการพลังงานสะอาด (CFP) ตามมาตรฐานยูโร 5 ของไทยออยล์ มีการลงนามสัญญาจ้างในปี 2561 มูลค่าการว่าจ้างประมาณ 1.6 แสนล้านบาท ในขณะที่คู่แข่งอื่น เสนอราคาสูงกว่ามาก
UJV เสนอราคาประมูลแบบตัดราคาหรือเปล่า ก็ไม่รู้
เรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหาเลย หากไม่มีการ “เบี้ยว” ผู้รับเหมาช่วงคนไทยที่มีอยู่ถึง 28 บริษัท คิดเป็นเงินค้างจ่ายรวมประมาณกว่า 6 พันล้านบาท สร้างความเดือดร้อนแก่ธุรกิจบริษัทรับเหมาช่วงและคนงานไทยอย่างแสนสาหัส
เป็นการ “เบี้ยว” ที่ไม่ได้เกิดจากความผิดของผู้ว่าจ้าง คือไทยออยล์แต่ประการใดเลย เพราะจ่ายค่าจ้างตามงวดงานครบทุกประการ ผู้รับเหมาทำงานเสร็จก็จ่ายทันที ไม่ต้องรอกระบวนการตรวจรับมอบงานที่อืดอาดเหมือนงานราชการ เข้าใจว่าไทยออยล์น่าจะจ่ายไปกว่า 90% แล้วมั้ง
นอกจากนี้ ช่วงผลกระทบโควิด กลุ่มร่วมค้า UJV ขอแก้ไขสัญญาให้เพิ่มงบประมาณก่อสร้างและขอขยายระยะเวลาส่งมอบ ไทยออยล์ ก็ใจดีชะมัด! อนุมัติตามขอทั้งขยายเวลาส่งมอบ และอนุมัติงบก่อสร้างเพิ่มเติมให้อีก 550 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาทตอนนี้)
แต่เงินที่ผู้ว่าจ้างใจดีจ่ายให้กลุ่ม UJV ครบทุกบาททุกสตางค์รวมทั้งเงินช่วยเหลือพิเศษจากผลกระทบโควิด ผู้รับเหมาหลัก กลับไม่นำไปจ่ายผู้รับเหมาช่วง
การดำเนินการจะเอาผิดทางแพ่ง ก็มิอาจกระทำได้ง่ายดายนัก เพราะสัญญาผูกไว้ว่า หากมีกรณีพิพาทให้นำเรื่องไปฟ้องร้องอนุญาโตตุลาการในประเทศที่ใช้กฎหมายจารีต (Common Law) ซึ่งเป็นประเทศในเครือจักรภพ อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง ฯลฯ
นั่นแสดงว่า คดีความ ไม่อาจดำเนินการฟ้องร้องในราชอาณาจักรไทยได้เลย มันเหมือนยุคสมัย “สิทธิสภาพนอกอาณาเขต” อย่างไรก็ไม่รู้ เหตุเกิดในไทย แต่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปฟ้องร้องเมืองนอก
ผู้บริหารไทยออยล์ยุคนั้น ซึ่งไม่ใช่บัณฑิต ธรรมประจำจิตแน่นอน ไปยอมทำสัญญาเสียเปรียบไว้ได้อย่างไร
ความผิดทางแพ่งก็ตามนั้น เสียเปรียบเขาเต็มประตู ถึงเดี๋ยวนี้ไทยออยล์จะบอกเลิกสัญญากับ UJV ที่ทำให้โครงการ CFP ล่าช้า ก็ไม่รู้ว่าต้องไปขออนุญาโตฯ ที่สิงคโปร์ก่อนด้วยหรือเปล่า
แต่ความผิดเรื่อง “เบี้ยวหนี้” ผู้รับเหมาไทย ก็น่าจะฟ้องร้องทางกฎหมายแรงงาน หรือหาช่องทางดำเนินคดีทางอาญาได้นี่ แต่ก็ยังไม่เห็นกระบวนการให้ผู้เสียหายคือผู้รับเหมาช่วงหรือคนงานไปฟ้องร้องเจ้าตัวแสบ UJV นะ
เท่านั้นยังไม่พอ! ล่าสุด เจ้า UJV ที่มีซัมซุงเกาหลีเป็นแกนนำ ยังไปฟ้องร้องอนุญาโตตุลาการที่สิงคโปร์ เรียกค่าเสียหายจากไทยออยล์ที่ไปยึดหลักประกันตามงวดงานเป็นมูลค่า 358 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1.2 หมื่นล้านบาทอีก
มันโคตรจะแสบจริง ๆ นะ เจ้า UJV 3 สัญชาติ เกาหลี-UAE-อิตาลี เบี้ยวผู้รับเหมาช่วงสัญชาติไทยกว่า 6 พันล้านบาท ยังไม่พอ ยังมาฟ้องนายจ้างแสนดีที่จ่ายเงินครบ-ตรงเวลา ขอเพิ่มค่างานโน่นนี่ ก็สนองให้ทุกประการ อย่างไทยออยล์อีก
ไม่เรียกว่าบริษัทร่วมค้าระยำ แล้วจะให้เรียกอะไร สงสารและเห็นใจผู้รับเหมาช่วงกับคนงาน ขณะเดียวกันก็ไม่เข้าใจไทยออยล์ ที่ยอมไปทำสัญญาทาสเสียเปรียบเขาได้อย่างไร
ชาญชัย สงวนวงศ์