พาราสาวะถี อรชุน
๑๑ไม่รู้ว่าจะได้รับดอกไม้หรือก้อนอิฐ กรณีการให้สัมภาษณ์ของ ทักษิณ ชินวัตร กับสื่อต่างชาติ2สำนักทั้งวอลสตรีทเจอนัลและไฟแนนเชียลไทม์ ต่อกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญและการดำเนินนโยบายของรัฐบาล เพราะทันทีที่มีข่าวออกมาคนในรัฐบาลต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันคือ ไม่เจรจา ไม่พูดถึงคนที่หนีคดี แน่นอนว่าประเด็นนี้เป็นชนักปักหลังและทำให้พวกไม่เอาระบอบทักษิณเห็นดีเห็นงามกับผู้มีอำนาจทันที
๑๑ไม่รู้ว่าจะได้รับดอกไม้หรือก้อนอิฐ กรณีการให้สัมภาษณ์ของ ทักษิณ ชินวัตร กับสื่อต่างชาติ2สำนักทั้งวอลสตรีทเจอนัลและไฟแนนเชียลไทม์ ต่อกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญและการดำเนินนโยบายของรัฐบาล เพราะทันทีที่มีข่าวออกมาคนในรัฐบาลต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันคือ ไม่เจรจา ไม่พูดถึงคนที่หนีคดี แน่นอนว่าประเด็นนี้เป็นชนักปักหลังและทำให้พวกไม่เอาระบอบทักษิณเห็นดีเห็นงามกับผู้มีอำนาจทันที
๑๑สิ่งเดียวที่คนจะเชื่อไปในทิศทางเดียวกับทักษิณนั่นก็คือ การเผาบ้านเพื่อฆ่าหนูตัวเดียว มีเท่านั้นจริงๆ เพราะตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมาทั้งการรัฐประหารของ คมช.พร้อมแผนบันได 4 ขั้น จนมาถึง คสช.ที่มาพร้อมกับท่วงทำนองขออยู่บริหารอำนาจต่อไปแบบนานๆ อันจะเห็นได้จากข้อเสนอแบ่งใช้รัฐธรรมนูญเป็น 2 ช่วงล่าสุด
๑๑ไม่ว่าจะเปลี่ยนหัวเปลี่ยนตัวหรือสร้างกลไกขั้นตอนกำจัดระบอบทักษิณให้แยบยลอย่างไร คนส่วนใหญ่ก็ยังมองเห็นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ผลลัพธ์ที่ออกมามันได้ไม่คุมเสียและมองไม่เห็นหนทางที่จะนำพาประเทศก้าวข้ามวังวันแห่งความขัดแย้งไปได้ ส่วนบทสัมภาษณ์ของอดีตนายกฯที่บอกพร้อมเจรจาทุกรูปแบบนั้น ก็เป็นท่วงทำนองของการแสดงออกว่าตัวเองไม่มีปัญหากับใครเท่านั้น
๑๑เพราะความเป็นจริงเรื่องการเจรจาอย่าได้ปฏิเสธว่าไม่ได้เกิดขึ้น เพียงแต่ว่าผลของการพูดคุยกันตกลงกันได้และเป็นที่พอใจร่วมกันหรือไม่ก็เท่านั้น ความจริงของปัญหาเวลานี้มันไม่ได้อยู่แค่ทักษิณเท่านั้น เนื่องจากฝ่ายประชาธิปไตยได้ข้ามพ้นคนชื่อทักษิณไปนานแล้ว ดังนั้น หากผู้มีอำนาจยังมองว่าต้นตอของปัญหาอยู่ที่ทักษิณเป็นหลัก ก็เป็นการมองปัญหาถูกเพียงแค่ส่วนเดียวเท่านั้น
๑๑ความเป็นจริงที่ว่าฝ่ายประชาธิปไตยเริ่มเดินถอยห่างจากทักษิณ ผู้มีอำนาจและฝ่ายความมั่นคงน่าจะรู้ดีกว่าใครเพื่อน จับสัญญาณได้จากการไล่บี้เรียก จตุพร พรหมพันธุ์ ปรับทัศนคติอย่างถี่ยิบ ล่าสุด วันนี้เห็นว่าทางดีเอสไอจะไปยื่นร้องต่อศาลให้ถอนประกันตัวประธาน นปช. ด้วยเหตุผลว่าทำผิดเงื่อนไขการขอปล่อยตัวชั่วคราวในคดีก่อการร้าย
๑๑เท่านี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่า ฝ่ายความมั่นคงให้ความสำคัญกับองคาพยพของฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยไม่ได้น้อยไปกว่าท่าทีของทักษิณแม้แต่น้อย เมื่อเป็นเช่นนั้น คำถามที่ตามมาคือ หากเห็นว่าปัญหาอยู่ที่ความไม่เป็นประชาธิปไตยและไม่เป็นธรรมของกระบวนการยุติธรรม ทำไมจึงไม่แก้ตรงจุดนั้น ทุกวันนี้ฝ่ายผู้มีอำนาจกลับทำตัวไปอยู่ในกระบวนการความขัดแย้งเสียเอง
๑๑จนคนทั่วไปมองว่านั่นเป็นเพราะไปหลงเหลี่ยมเล่นเกมตามคนบางพวกบางกลุ่มหรือเปล่า สิ่งสำคัญที่ย้ำกันมาโดยตลอดคงเป็นเรื่องของอคติ หากผู้นำหรือผู้มีอำนาจยังคงละวางเรื่องนี้ไม่ได้ ความเป็นกลางย่อมไม่เกิด เมื่อไม่เป็นกลางและไม่มีความเป็นธรรม นั่นย่อมนำพาบ้านเมืองกลับไปสู่วังวนแบบเดิมๆคือซ้ำเติมความขัดแย้งให้หนักข้อเข้าไปอีก
๑๑กล่าวสำหรับข้อเสนอ 16 ข้อของ ครม.ต่อ กรธ.โดยเฉพาะข้อ 16 ที่ให้มีการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ 2 ช่วงเป็นช่วงเฉพาะกิจและเฉพาะกาล โดยอ้างการรักษาสถานการณ์ความมั่นคงของประเทศนั้น ฟังมุมไหนก็พิลึกพิลั่น และดูท่าว่ากรรมการกรธ.หลายๆคนก็ไม่เห็นด้วย เพราะนั่นเท่ากับว่า สิ่งที่ทำกันมาท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่าไม่เป็นประชาธิปไตย คราวนี้จะกลายเป็นเผด็จการเต็มรูปแบบไปเสียฉิบ
๑๑แน่นอนว่าสองพรรคการเมืองใหญ่ทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ยกมือค้านทันที พร้อมด้วยพรรคขนาดกลางอย่างชาติไทยพัฒนา แต่ว่ายังไม่มีใครไปถาม มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.จะยอมทำตามข้อเสนอของผู้มีอำนาจที่ตัวเองร่วมงานมาตั้งแต่ต้นหรือไม่ ซึ่ง วิวัฒน์ไชย ณ กาฬสินธุ์ อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ของพรรคนายใหญ่น่าจะอธิบายได้เห็นภาพที่สุด
๑๑หาก กรธ.คล้อยตามข้อเสนอของ ครม. ก็จะมีการเพิ่มบทเฉพาะกาลให้มีเนื้อหาเหมือนรัฐธรรมนูญปี 2521 ที่จัดให้มีการเลือกตั้งเมื่อปี 2522 โดยให้ ส.ส.ลงสมัครเลือกตั้งแบบอิสระได้ มี ส.ว.จากการแต่งตั้งหรือลากตั้งทั้งหมด ข้าราชการเป็นนักการเมืองได้คือเป็นได้ทั้ง ส.ว. รัฐมนตรีหรือแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีและสุดท้ายคือนายกฯต้องมาจากการเลือกตั้งของรัฐสภา
๑๑ความเหมือนอีกประการหากทำเช่นนั้นก็คือตัวมีชัยที่เคยเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2521 นั่นเอง ตรงนี้แหละที่ฝ่ายประชาธิปไตยแสดงความกังวลมาตั้งแต่มีชัยเข้ามารับตำแหน่งประธาน กรธ. เพราะประวัติที่ผ่านมาไม่เคยเข้าสู่กระบวนการยกร่างด้วยวิธีการเลือกของประชาชนแม้แต่ครั้งเดียว พูดง่ายๆก็คือ มาทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญด้วยการแต่งตั้งของคณะรัฐประหารทั้งสิ้น
๑๑สิ่งนี้คือภาพที่ติดตัวมีชัยมาโดยตลอด เมื่อบวกกับท่วงทำนองการอธิบายเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตั้งแต่วันที่แถลงร่างแรกมาจนถึงวันนี้ น่าที่จะพอเป็นคำตอบของร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ได้ว่าหน้าตาจะออกมาอย่างไร สนองตอบต่อความเห็นทุกฝ่ายที่ได้เอ่ยอ้างหรือปล่อยให้เป็นไปตามความต้องการของผู้มีอำนาจเท่านั้น
๑๑แต่จะว่าไปแล้ว ความมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือที่ฝรั่งมังค่าเรียกว่า absolute power ก็ใช่ว่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายให้รัฐบาลทำงานง่ายเหมือนใจคิดทุกอย่าง ประเด็นนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจะให้คำตอบได้ดีที่สุด มีอำนาจล้นฟ้าแล้วการแก้ไขปัญหาต่างๆเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่นจริงหรือไม่ ปัญหาต่างๆที่ยังคงอยู่น่าจะเป็นคำตอบได้ดี
๑๑ไม่เพียงเท่านั้น ปัญหาเดิมยังแก้ไม่ตกกลับมีปัญหาใหม่เข้ามาซ้ำอีก หลังรัฐประหารหมาดๆคณะยึดอำนาจดูเหมือนว่าจะเป็นความหวังของประชาชน มีการยกเลิกโครงการต่างๆของรัฐบาลที่ผ่านมาด้วยข้อหาประชานิยมโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกร โดยคนกลุ่มนี้ก็เชื่อว่ารัฐบาลจะมีมาตรการใหม่ที่ดีกว่าเข้ามาดูแล
๑๑แต่เวลาผ่านไปนอกจากมองไม่เห็นฝั่ง ยังพบว่าปัญหากลับเพิ่มพูนจนมองไม่เห็นหนทางสว่าง เช่นเดียวกับภาคธุรกิจมาตรการของทีมเศรษฐกิจในฝันที่นำโดย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นจริงหรือเปล่ายังเป็นเครื่องหมายคำถาม แต่ในจังหวะเผชิญขาลงของรัฐบาล คสช.นั้น การปรากฏกายพร้อมบทสัมภาษณ์ของทักษิณ ไม่รู้ว่าจะทำให้สถานการณ์พลิกไปอีกด้านหรือเปล่า อันนี้สุดที่จะคาดเดาจริงๆ