เกือบหน้าแหก!

ก่อนอื่นต้องบอกว่า เช้าวานนี้ความหวังของ “โมนิก้า” ที่จะได้เห็นหุ้นไทยเด้งแรงเหมือนที่อื่น ๆ ก็มีอันพังทลายไม่เป็นท่า


ก่อนอื่นต้องบอกว่า เช้าวานนี้ความหวังของ “โมนิก้า” ที่จะได้เห็นหุ้นไทยเด้งแรงเหมือนที่อื่น ๆ ก็มีอันพังทลายไม่เป็นท่า เพราะในช่วงที่ตลาดหุ้นอื่นเขาเด้งแรง แต่ตลาดหุ้นกลับโดนกระหน่ำขาย และพอถึงวันที่ตลาดหุ้นต่างประเทศทรุดอีกรอบ ตลาดหุ้นไทยก็ทรุดตามกับเขาไปด้วย “โมนิก้า” เลยเกิดอาการหน้าชาอย่างรุนแรง เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยในเวลานี้มันหนักหนาสาหัสเกินกว่าจะฟื้นตัวได้ในเร็ววันพะย่ะค่ะ

ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องสำเหนียกตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะการแก้ปัญหาสงครามการค้า ไม่สามารถทำได้ด้วยการคาดหวังไปวัน ๆ หลังคนบ้าอำนาจอย่าง “ทรัมป์” ยังยืนยันในหลักการเรื่อง “อเมริกันเฟิร์ส” ซึ่งเป็นการย้ำให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยกระทบหนักแน่ ๆ เพราะต่อให้ไทยยอมแก้ผ้าล่อนจ้อนให้อเมริกาดู มันก็ไม่ชายตามองเราอยู่ดีแบบนี้..สงสัยหุ้นไทยจะฟุบยาวนะจะบอกให้

ถึงกระนั้นตลาดหุ้นไทยก็พยายามฮึดสู้ตั้งแต่เปิดเทรด และประคองตัวไม่ให้ปรับตัวลงแรง ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,088.18 จุด บวกไป 13.59 จุด ดวยมูลค่าการซื้อขาย 5.08 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นเรื่องที่ดีสุดของวานนี้ แต่วันนี้จะเป็นอย่างไร? อีฉันก็ยังมืดแปดด้านเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง อีฉันเลยไม่รู้ว่า แนวคิดเกี่ยวกับนำเข้าข้าวโพด และการนำเข้าแก๊สจากอเมริกามากขึ้น รวมทั้งแนวคิดอื่น ๆ อเมริกาจะยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวไหม?

ในเมื่อยังไม่ได้ข้อสรุปที่เป็นทางการ “โมนิก้า” จึงเห็นแรงขายสาดหุ้นนิคมฯ สองตัวท็อปอย่าง AMATA กับ WHA ไม่หยุดหย่อน จนบรรดาขาเผือกพูดไปในทางเดียวกันว่า ยังต่ำได้อีก! เพราะตราบใดที่ปัญหาสงครามการค้ายังตามหลอกหลอนไม่เลิก ก็อย่าหวังจะได้เห็นการขยายลงทุนของภาคธุรกิจอีกเลย วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 12.20 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 6.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.08 พันล้านบาท ส่วนรายหลังก็ลงมายืนอยู่ที่ระดับ 2.46 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 899 ล้านบาทไงล่ะคะ

อีกรายที่ลงหนักไม่แพ้กัน แต่ไม่ได้เกิดจากสงครามการค้า เพราะการทิ้งตัวลงแรงต่อเนื่ออง 3 วันของหุ้น VGI มันมาจากความกังวลกาสิโนเจอกับโรคเลื่อนไม่มีกำหนด บรรดาขาเผือกเลยสงสัยว่า การยืนปิดที่ระดับ 2.12 บาท ลบไป 0.22 บาท หรือลงไป 9.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 975 ล้านบาท อาจไม่ใช่ราคาต่ำสุดของเที่ยวนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีลุ้นเด้งแรง เพราะสูตรลง 3 เด้ง 1 ยังมีอยู่จริง..ตำราหุ้นกล่าวไว้นะจ๊ะ

ส่วนรายที่ลงแบบไม่มีดิสก์เบรก และแรงขายยังมีออกมาเรื่อย ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นสายการบินอย่าง AAV ที่ซึมลงต่อเนื่องเป็นเวลา 4 เดือน และมาโดนขายหนัก ๆ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จนวานนี้หุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 1.30 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 133 ล้านบาท ท่ามกลางค่า PE 5 เท่า และมี BV อยู่ที่ระดับ 1.52 บาทแบบนี้..เดี๊ยนถึงกับอุทานว่า ราคาจะลงไปถึงไหนพ่อคุณ!

สำหรับรายที่แปลกพอกัน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นดาวเทียม THCOM เพื่อชี้ให้เห็นการทิ้งตัวลงแรง 2 วันติด จนวานนี้ลงไปทำโลว์ที่ระดับ 6.30 บาท ก่อนจะตีตื้นขึ้นมาปิดที่ 7.30 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 0.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 157 ล้านบาท ทั้งที่ประคองตัวยืนที่บริเวณ 10 บาทได้เป็นเดือน เลยเกิดคำถามตามหลังว่า ปีนี้จะเทิร์นอะราวด์ไหม? เพราะสตอรี่ที่ทำให้ราคาหุ้นขึ้นเมื่อปีก่อนมาจากประเด็นนี้น่ะซี

ตบท้ายกันที่อดีตหุ้นฉาว EARTH เพื่อบอกเล่าเรื่องการฉ้อโกงที่เกิดขึ้นกับแบงก์กรุงไทยขยับขึ้นมาอีกหนึ่งสเต็ป หลัง ป.ป.ช. ออกมากางรายชื่อกลุ่มคนที่พัวพันกับเรื่องดังกล่าวมากถึง 32 ราย ซึ่งแต่ละรายล้วนเป็นคนดังในแวดวงตลาดหุ้นทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น “ประเสริฐ บุญสัมพันธ์” ตามมาด้วย “วรภัค ธันยาวงษ์” ต่อจากนั้นก็มี “จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล” ถัดมาก็มี “กิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ” และบุคคลอื่น ๆ โดยคนกลุ่มดังกล่าวได้ทำการชี้แจงครบแล้ว และอยู่ในช่วงสรุปสำนวนให้ ป.ป.ช. ชุดใหญ่แบบนี้..ทั้งหมดยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่นะ..ทราบแล้วเปลี่ยน..อิอิอิ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button