บีบแมงเม่า?โมนิก้าและทีมงาน

*ดูเหมือนบรรยากาศการลงทุนในยุคนี้จะเต็มไปด้วยอุปสรรคขัดขวางนานัปการ ไม่ค่อยมีกฎเกณฑ์ที่เอื้อให้กับแมงเม่าเหมือนผู้บริหารตลาดทุนยุคก่อนสักเท่าไหร่? แถมยังมีรังสีอำมหิตแผ่ลงมาจากผู้กำกับตลาดทุนออกมาเป็นระลอก “โมนิก้า” ถึงอยากให้รายย่อยเตรียมตัวรับแรงกระแทกจากหลายทิศหลายทาง เพราะสิ่งที่เห็นในตลาดหุ้นเที่ยวนี้มันมั่วซั่วไม่มีที่สิ้นสุดเจ้าค่ะ

*วันนี้ถึงไม่ควรฝากความหวังไว้ที่ใครจะเป็นพระเอกขี่ม้าขาวเข้ามากอบกู้สถานการณ์ เพราะแต่ละนางก็เข้ามาด้วยบทเฉพาะกาลทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงเห็นด้วยกับรายย่อยว่า ขึ้นมาต้องขาย..ลงมาต้องซื้อ เพราะหน้าที่ของแมงเม่าคือต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้กำไร และอย่าลืมว่า นี่คือเกมการเงิน! ซึ่งมีทั้งผู้แพ้ และมีทั้งผู้ชนะ ในสนามรบแห่งนี้ จึงต้องเดินเกมให้ดีๆ นะคะ

*ล่าสุดเห็นยอดซื้อมาจากปอบผีฟ้าโผล่เข้ามา 930 ล้านบาท ขณะที่ฝรั่งตาน้ำข้าวเข้ามาเก็บหุ้นอีก 950 ล้านบาท โดยที่กองทุนตัวแสบโยนหุ้นออกมา 800 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งไล่ซื้อหุ้นเข้าพอร์ตไป 3 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมชักเย่อระหว่างนักลงทุนสถาบันที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ส่วนครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อแมงเม่าปีกแข็งมากน้อยขนาดไหน? ต้องติดตามดูกันต่อไปนะจ๊ะ

*ที่น่าเสียดายคือ วันนี้มีข่าวออกมาในทำนองว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังตั้งกำแพงการเข้าถึงหุ้นขนาดเล็ก หลังกำลังจะคลอดกฎเกณฑ์ที่เป็นปัญหาสำหรับเอสเอ็มอีในการเข้าถึงตลาดทุน จนมีการตั้งคำถามกันอย่างกว้างขวางว่า เข้าใจหน้าที่ของคนที่เป็นโปรโมเตอร์ไหม? เพราะหากเข้าใจสิ่งที่ผ่านมาก็จะรู้ว่า เขาทำไว้ดีแล้วขนาดไหน? “โมนิก้า” ถึงร้องไห้หนักมากตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ เพราะนโยบายดังกล่าวเหมือนเป็นการบีบให้รายย่อยมีทางเลือกในการลงทุนน้อยลง(รายละเอียดหาอ่านกันใน นสพ.)เจ้าค่ะ

*เหมือนกับหุ้น THAI ของคุณพี่สุดเนี้ยบอย่าง “จรัมพร” ออกมาให้ข่าวจะทำแบบนั้น จะทำแบบนี้ คล้ายกับเป็นการชี้นำสังคมว่า หุ้นการบินไทยจะแจ่มจรัสสุดๆ จนหลายคนตั้งคำถามกับ “โมนิก้า”  ทำแบบนี้ได้เหรอ? เดี๊ยนบอกได้ทันทีว่า มันเป็นอะไรที่พูดยากมากๆ เพราะเส้นแบ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้? ขณะที่บริษัทเล็กๆ กลับโดนตั้งคำถาม ให้ข่าวแบบนั้นได้อย่างไร? มันเป็นเรื่องที่ขัดอารมณ์ของผู้เล่นเสียจริงๆ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 11.90 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่แน่นเอี้ยดไงล่ะตัวเอง

*ส่วนในรายของ TASCO มันเป็นเกมโหดที่ผู้คนในตลาดหุ้นร่ำลือเกี่ยวกับก๊กก๊วนต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับโบรกเกอร์แห่งหนึ่งที่ออกตัวแรงแบบสุดลิ่มทิ่มประตู พอทุกอย่างจบสมบูรณ์แบบตามที่ตกลงกันไว้ วันนี้ถึงเหลือแต่ร่องรอยบาดแผลของคนที่เข้าไปเล่นเกมดังกล่าว “โมนิก้า” ถึงขอไว้อาลัยกับคนที่พลาดท่าเสียที และหวังว่า จะไม่หลงเข้าไปเล่นเกมนี้อีกครั้ง หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 25 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 6% อีกแล้วนะคะ

*ผิดกับในรายของ MINT เพราะรายนี้จัดทุกอย่างมาครบทุกกระบวนท่า แถมงบที่ประกาศในเที่ยวนี้เป็นการบันทึกตัวเลขกำไรจากค่ากู๊ดวิลล์เสียด้วย เท่ากับเป็นการแสดงว่า ได้ของดีราคาย่อมเยา วันนี้ถึงเห็นราคาหุ้นค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดปิดที่ระดับ 35.75 บาท ลบไป 0.50 บาท “โมนิก้า” บอกได้แค่ว่า ชนแนวต้านพอดี เลยโดน take profit ต่อจากนั้นจะไปต่อได้หรือไม่..ต้องลุ้นกันอีกทีเจ้าค่ะ

*ส่วนที่ไม่ต้องลุ้นอะไรมาก “โมนิก้า” กลับมองไปที่ MACO หลังสัญญาณเทคนิคชี้ชัดว่า หุ้นกำลังไปได้สวย แถมได้วอลุ่มซัพพอร์ตเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ย่อมเป็นจังหวะของการลงทุนอย่างไม่ต้องสงสัย ล่าสุดหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 1.18 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 8% มันเป็นจังหวะของคนที่กล้าได้กล้าเสีย วันนี้ถึงพยายามบอกเล่าเก้าสิบเรื่องต่างๆ ที่แมงเม่าควรรู้..อิอิอิ

*เหมือนกับหุ้นน้อง GIFT มีพรายกระซิบหลายสำนักต่อสายร้อยท่อ เพื่อเล่าถึงพัฒนาการของบริษัทที่ดีขึ้นอย่างช้าๆ แต่ผู้คนในตลาดหุ้นไม่ค่อยหันมามอง “โมนิก้า” ขอเม้าท์ตรงๆ ว่า เสียของอย่างร้ายแรง! เพราะแค่มองตัวเลขกำไรที่เติบโต 4 ปีติดต่อกัน แต่ยังซื้อขายอยู่บนค่า P/E ที่ระดับ 12 เท่า  มันเป็นระดับที่ลงทุนได้สบายๆ แถมวานนี้หุ้นยังย่ำอยู่แค่ระดับ 3.32 บาท มันเป็นจังหวะที่น่าสนใจมากๆ นะเฮีย!

*เช่นเดียวกับในรายของ TVT ที่ประกาศตัวเลขกำไรเติบโต 140% แต่ราคาหุ้นในกระดานกลับอ่อนตัวลงมาปิดที่ 2.02 บาท ลบไป 0.06 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 50 ล้านบาท แถมยังประกาศจ่ายปันผลในอัตราร้อยละ 5 พ่วงด้วยวอร์แรนต์ฟรีอีกชุด “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะของคนที่มองเห็นโอกาสทองรออยู่ข้างหน้า วันนี้ถึงต้องตามเกาะติดหุ้นตัวนี้ให้ดีๆ นะจะบอกให้