เล่นรอบหุ้นแบงก์

เมื่อวานนี้ (21 เม.ย.) หุ้นกลุ่มธนาคารปรับลงแรงมาก การปรับลงของหุ้นแบงก์น่าจะมาจากสาเหตุ 3-4 ปัจจัย เริ่มจากแรงขายทำกำไรหลังจาก หุ้นในกลุ่มฯ แจ้งงบการเงินงวดไตรมาส 1/2568 กันออกมาครบแล้ว


เมื่อวานนี้ (21 เม.ย.) หุ้นกลุ่มธนาคารปรับลงแรงมาก

การปรับลงของหุ้นแบงก์น่าจะมาจากสาเหตุ 3-4 ปัจจัย

เริ่มจากแรงขายทำกำไรหลังจาก หุ้นในกลุ่มฯ แจ้งงบการเงินงวดไตรมาส 1/2568 กันออกมาครบแล้ว

อีกปัจจัยน่าจะมาจากหุ้นแบงก์ส่วนใหญ่ขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผล และคงเหลือเพียง แบงก์กรุงเทพ (BBL) ที่จะขึ้น XD ในวันที่ 23 เม.ย. 68 และแบงก์ทหารไทยธนชาต (TTB) ขึ้น XD วันที่ 25 เม.ย.นี้

และสุดท้ายคือ คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. จะประชุมในวันที่ 30 เม.ย. 68

การประชุมในวันนั้นคาดกันว่า กนง.จะลดอัตราดอกเบี้ยลงมาแน่นอนอย่างน้อย 0.25%

 ไม่เพียงเท่านั้น ยังวิเคราะห์กันไปอีกว่า กนง.อาจจะลดดอกเบี้ยในปี 2568 ลงมามากกว่า 2 ครั้ง หรือปรับลงมากกว่าคาดการณ์เดิมก่อนหน้านี้

หรือดอกเบี้ยนโยบายอาจจะลงมาอยู๋ระหว่าง 1.25-1.50%

สุดท้าย เป็นข้อมูลล่าสุดของผู้บริหารแบงก์ต่าง ๆ หลังนักวิเคราะห์ไป Company Visit โดยผู้บริหารแบงก์ต่างให้ข้อมูลตรงกันว่า มีการปรับลดคาดจีดีพีปี 2568 ลง

แน่นอนว่า จีดีพีที่ถูกปรับลง จะสะท้อนไปยัง “สินเชื่อ” ที่อาจจะไม่ได้เติบโตตามที่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้

หากย้อนหลังไปก่อนหน้านี้ 3-4 เดือน

หุ้นในกลุ่มธนาคารปรับขึ้นสวนกับทิศทางภาพรวมของตลาดมาตลอดทาง

เพราะถูกมองว่า มีความแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นทุกกลุ่มในตลาดหุ้น

มีแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบัน บวกกับต่างชาติเข้ามาค่อนข้างมากในหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ ทั้ง BBL KBANK KTB และ SCB

ทว่า ผลพวงจากสงครามการค้า ทำให้ตัวเลขต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงสูงเชิงลบ ในทิศทางที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องปรับมุมมองต่อเศรษฐกิจกันใหม่

และส่งผลมายังการคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหุ้นไทย

ทั้งหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น สินเชื่อที่อาจชะลอตัว กนง.เตรียมปรับดอกเบี้ยนโยบายลง ทำให้หุ้นกลุ่มแบงก์ถูกประเมินออกมาว่า “เสี่ยง” จึงเกิดการ “ปรับพอร์ต”

และแน่นอนว่า วานนี้กลุ่มที่ขายหุ้นแบงก์ออกมาคือ กลุ่มนักลงทุนสถาบัน หรือกองทุนต่าง ๆ

ซึ่งน่าจะรวมกับนักลงทุนต่างประเทศด้วย

ขนาด BBL และ TTB จะขึ้น XD ในวันที่ 23 และ วันที่ 25 เม.ย.นี้

นักลงทุนยังไม่สนใจในเงินปันผล เพราะเข้าใจว่า คนที่ขายออกมา น่าจะมีกำไรอยู่พอสมควรแล้ว หรือมีส่วนต่างของราคาหุ้น (Capital Gain) มากกว่าเงินปันผลที่จะได้รับ

หรือหุ้นกรุงไทย (KTB) ที่ว่ากันว่า “กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” เข้ามาซื้อค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา วานนี้ราคายังร่วงลงถึง 5.16% ส่วนวายุภักษ์ฯ จะขายออกมาด้วยหรือเปล่านั้น

ข้อมูลตรงนี้ไม่ทราบจริง ๆ

สถานการณ์หุ้นแบงก์ตอนนี้  หากจะเข้ารับ ต้องดูแนวรับกันดี ๆ

คือ หากจะเข้าซื้อกันจริง ๆ ต้องตั้งซื้อให้ต่ำกว่าแนวรับ

เช่น กรุงไทย KTB แนวรับ 19.60 บาท (ทางจิตวิทยา 20.00 บาท) ควรจะมาตั้งรับสัก 19.20-19.30 บาท หรือทยอยซื้อทีละไม้ อย่าไปทุ่มเงินแบบก้อนเดียว

TTB แนวรับ 1.78 บาท ต่อหุ้น และน่าจะซื้อหลังขึ้น XD น่าจะปลอดภัยกว่า ไม่ควรไปซื้อก่อนขึ้น XD 2-3 วัน

ไม่เช่นนั้นขาดทุนแน่ ๆ

BBL อาจจะต้องลงมารอรับให้ลึกถึง 130-131 บาท โน่นเลย อย่าไปกลัวตกขบวน (ตกขบวนดีกว่าขาดทุน)

ส่วน SCB แนวรับปลอดภัย จะอยู่บริเวณ 106–108 บาท

สำหรับหุ้นกลุ่มแบงก์ในภาวะเช่นนี้ ต้องเล่นแบบ Buy the Dip  คือ ซื้อเมื่อราคาลดลงอย่างมาก และมั่นใจว่าราคาจะฟื้นตัวแน่ ๆ ในช่วงเวลาไม่นานนัก

หรือซื้อแบบเล่นรอบนั่นแหละ

ธนะชัย ณ นคร

Back to top button