DELTA เขากลับมาละ

วานนี้ดัชนีปิดบวกได้ 9.72 จุด มาที่ 1,153.77 จุด

แม้ระหว่างวันดัชนีจะขึ้นมาได้สูงสุดที่ 1,160.01 จุด (แนวต้านพอดี) หรือ +15.96 จุด

ทว่า ดัชนีไม่สามารถขึ้นมายืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้

ประเด็นที่น่าสนใจคือ มูลค่าการซื้อขาย หรือวอลุ่มเทรดวานนี้ยังค่อนข้างเบาบาง มีการซื้อขายเพียง 38,224 ล้านบาทและนับเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันแล้ว ที่วอลุ่มต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท

มาดูมูลค่าซื้อขาย 5 วันย้อนหลังกัน

วันที่ 17 เม.ย. 2568 มูลค่าซื้อขาย 29,646 ล้านบาท (ดัชนี + 2.38 จุด)

วันที่ 18 เม.ย. 2568 มูลค่าซื้อขาย 27,673 ล้านบาท (ดัชนี + 9.67 จุด)

วันที่ 21 เม.ย. 2568 มูลค่าซื้อขาย 32,465 ล้านบาท (ดัชนี -16.24 จุด)

วันที่ 22 เม.ย. 2568 มูลค่าซื้อขาย 35,686 ล้านบาท (ดัชนี +9.34 จุด)

วันที่ 23 เม.ย. 2568 มูลค่าซื้อขาย 38,224 ล้านบาท (ดัชนี + 9.72 จุด)

จะเห็นว่าในช่วง 5 วันทำการที่วอลุ่มหดตัวลงมาต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท แต่มีถึง 4 วัน ที่ดัชนีสามารถปิดในแดนบวกได้

อย่างที่พอจะรับทราบกันว่า ดัชนีปรับขึ้นมาท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายหดตัว อาจจะเกิดจากกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่เข้ามา “เหมาช่อง” ฝั่ง Offer ในหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ จึงอาจจะไม่ได้สะท้อนเรื่อง Fundamental ของตลาดฯ มากนัก

เช่น วานนี้หุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA พลิกบวก 7.25 บาท ปิด 76.50 บาท เปลี่ยนแปลงมากถึง +10.47%

ทำให้เดลต้าฯ มีส่วนต่อการดันดัชนีวานนี้ 7.31 จุด

ส่วนหุ้นอื่น ๆ ที่มีผลต่อดัชนีวานนี้รองลงมาเช่น บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ที่ 0.86 จุด

ธนคารกรุงไทย KTB 0.79 จุด

บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม PTTEP 0.64 จุด

และบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ADVANC อีก 0.48 จุด

การปรับขึ้นของหุ้นเดลต้าฯ เมื่อวานนี้ ทำให้มาร์เก็ตแคป ณ ราคาปิด (76.50 บาท) ขยับขึ้นมาที่ระดับ 954,252 ล้านบาท และกลับขึ้นมาเป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปสูงสุดอันดับ 1 อีกครั้ง

ส่วนอันดับ 2 เป็นของ บมจ.ปตท (PTT) อยู่ที่ 871,171 ล้านบาท

สำหรับหุ้นเดลต้าฯ อย่างที่พอจะรับทราบกันว่า ด้วยเรื่องเกี่ยวกับ “ฟรีโฟลต” ทำให้มีการขึ้นลงของหุ้นนี้ในรูปแบบ “สวิง” ทำได้ค่อนข้างง่าย

การเคลื่อนไหวของหุ้นเดลต้าฯ วานนี้ในช่วงเปิดตลาดภาคเช้า 10.00 น. มาจนถึง 11.00 น.นั้น

จะพบว่า มีการเข้ามาไล่ราคากันมาก หรือแทบจะเหมาช่องฝั่ง Offer แบบต่อเนื่อง และช่วยดันดัชนีหุ้นไทยขึ้นมาได้เรื่อย ๆ เช่นกัน

สำหรับราคาเป้าหมายเฉลี่ยของหุ้นเดลต้าฯ จาก 19 โบรกเกอร์อยู่ที่ 67 บาท

การปรับขึ้นมาของเดลต้าฯ แบบต่อเนื่อง ไม่แน่ใจว่ามาจากเรื่องการเก็งเกี่ยวกับผลประกอบการหรือไม่

ล่าสุด บทวิเคราะห์ของบล.ฟินันเซีย บอกว่า เดลต้าฯ จะมีกำไรงวดไตรมาส 1/2568 ประมาณ 4.2 พันลเนบาท เพิ่มขึ้น 97% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่จะลดลง 2% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน

แต่หากหักรายการพิเศษในไตรมาส 4/2567 กำไรปกติจะทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า และสูงขึ้น 11.5% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยเกิดจากผลประกอบการที่ดีของกลุ่ม AI

เดลต้าฯ  จะแจ้งงบฯ ในวันศุกร์ที่ 25 เม.ย.นี้

ต้องมาจับตาดูว่า ราคาของหุ้นเดลต้าฯ จะเคลื่อนไหวอย่างไร

เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า การขึ้นลงของหุ้นตัวนี้นั้น

ได้กลับเข้ามามีอิทธิพลอย่างมากต่อดัชนีหุ้นไทยอีกครั้ง

ธนะชัย ณ นคร