ฟันด์โฟลว์เข้าลูบคมตลาดทุน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อเนื่องมา 4 วันทำการแล้ว


ธนะชัย ณ นคร

 

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อเนื่องมา 4 วันทำการแล้ว

วานนี้คือวันที่ 4 ที่ดัชนีปรับขึ้นมา ทว่าระหว่างวันดัชนีอยู่ในแดนบวก และลบสลับกันไป และทำท่าจะปิดลบเสียด้วย

แต่ก็ยังขึ้นมาปิดในแดนบวกได้อีก

หากย้อนหกลับไปในช่วง 4 วันทำการก่อนหน้า ดัชนีหุ้นไทนอยู่ที่ 1,294.59 จุด เมื่อวันที่ 18 ก.พ.59

หากนับจากวันนั้นมาถึงวานนี้หุ้นไทยขึ้นมาแล้ว 37.34 จุดคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็ประมาณ 3.37%

ประเด็นที่น่าสนใจคือ หุ้นในกลุ่ม เซต 50 ปรับขึ้นต่อเนื่องมา 5 วันทำการแล้ว หรือคิดเป็น 4.49% นั่นแสดงให้เห็นว่า หุ้นขนาดใหญ่ หรือบิ๊กแคป อยู่ในเป้าหมายของแรงซื้อในช่วงเวลาดังกล่าว

หุ้นกลุ่มพลังงาน อย่าง PTT และ PTTEP

หุ้นทั้ง 2 ตัวนี้ แม้ว่าบางวันราคาน้ำมันปรับลง และมีแรงขายออกมาในช่วงเปิดตลาดภาคเช้า

ทว่าในช่วงภาคบ่าย กลับมาแรงซื้อเข้ามา และช่วยดันดัชนีให้ปิดตลาดในแดนบวกได้

นักวิเคราะห์ขาบอกว่า หุ้นพลังงาน ในอยู่ในหมายของแรงซื้อนักลงทาสต่างชาติ หรือฟันด์โฟลว์ครับ

ถามว่า ทำไมถึงซื้อสวน

คำตอบก็คือ เขามองว่าราคาหุ้นน้ำมันของไทยราคาถูก และประเมินว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2559 ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะฟื้นตัวจากช่วงไตรมาสแรก

จึงเข้ามาดักซื้อเก็บไว้ก่อน

สะสมหุ้นไปเรื่อยๆ

หุ้นกลุ่มธนาคาร ก็เป็นเป้าหมายของฟันด์โฟลว์เช่นเดียวกัน

เพียงแต่ว่ารอบนี้จะแตกต่างจากรอบก่อนๆ หน้านี้ ที่มักจะเข้าหุ้นอย่าง ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK และ ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL เป็นหลัก

ก็เข้ามาเห็บหุ้นแบงก์ไทยพาณิชย์ SCB รวมถึง กรุงไทย หรือ KTB ด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น ยังเข้าเก็บสะสมหุ้นขนาดกลางอย่าง TISCO TCAP และ KKP เข้าพอร์ตอีกต่างหาก

หุ้น BBL ราคาปรับขึ้นมาแล้ว 7 วันทำการ ราคาไล่มาตั้งแต่ 148 บาท เมื่อวันที่ 12 ก.พ. และมาปิดตลาดวานนี้ (24 ก.พ.) ที่ราคา 164 บาท หรือปรับขึ้นมา 16 บาท

คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็ประมาณ 10.81%

มาดูไทยพาณิชย์ กันบ้าง

ราคาหุ้น หากดูจากวันปิดที่ 12 ก.พ. มาถึงวานนี้ ราคาหุ้นปิดบวก 5 วานนี้ และปรับลง 2 วัน

แต่หากนำมาดีดลูกคิดดูแล้ว ราคาบวกขึ้นมา 11 บาท คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 9.30%

เช่นเดียวกับกับหุ้นธนาคารตัวอื่นๆ ข้างต้น ราคาหุ้นได้ปรับขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ. ต่อเนื่องกันมาถึงวานนี้ อย่างมีนัยสำคัญเลยล่ะ

TISCO ราคาบวกขึ้นมา 13% แล้ว และราคาที่ปิดวานนี้ 47.50 บาท ก็ใกล้เข้าราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์

ในรอบวันที่ 1–24 ก.พ. พบว่า นักลงทุนต่างประเทศมียอดซื้อสุทธิ 1,884.14 ล้านบาท

และตัวเลขนี้ถือเป็นการพลิกจากการขายสุทธิในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนก.พ.

แต่หากดูตัวเลขจาก 1 ม.ค.-24 ก.พ. นักลงทุนต่างชาติ ยังคงขายสุทธิกว่า 6,081.79 ล้านบาท และส่วนใหญ่จะเป็นการขายสุทธิในช่วงเดือน ม.ค. และครึ่งเดือนแรกของเดือน ก.พ.

ฟันด์โฟลว์ที่เข้ามาต่อเนื่องจากช่วงอาทิตย์ที่แล้วมาถึงอาทิตย์นี้ หนุนให้มูลค่าหลักทรัพย์ตาราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคปในช่วง 5 วันทำการปรับเพิ่มขึ้นจาก 12.3 ล้านล้านบาท มาอยู่ที่ 12.7 ล้านบาท

หรือเพิ่มขึ้น 4.14 แสนล้านบาท

นักวิเคราะห์ต่างมองครับว่า เม็ดเงินจากฟันด์โฟชว์จะยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง

แต่บางวันอาจมีการสลับขายออกมาบ้าง

ส่วนจะเข้ามาซื้อและถือนานแค่ไหน

เข้าใจว่าคงต้องขึ้นกับนโยบายด้านดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดนั่นแหละ

Back to top button