CK-STEC-ITD และ UNIQ
หุ้นกลุ่มรับเหมา (ขนาดใหญ่)ร่วงอย่างหนักเลยในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2559
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
หุ้นกลุ่มรับเหมา(ขนาดใหญ่)ร่วงอย่างหนักเลยในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2559
เชื่อว่านักลงทุนหลายคนตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับหุ้นทั้ง CK – STEC – ITD และ UNIQ
CK : บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)หราคาหุ้นปิดเมื่อสิ้นปี 2558 ที่ 29 บาท ส่วนวานนี้(29 ก.พ.) ปิดที่ 22.60 บาท ราคาปรับลงมา 22.06%
มาดู STEC : บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กันบ้าง
ราคาหุ้น STEC ปิดสิ้นปี 2558 ที่ 25 บาท ส่วนวานนี้ ปิด 17.50 บาท
หรือราคาปรับลงมา 29.96%
หุ้นรับเหมาตัวที่ 3 คือ ITD : บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ราคาปิดสิ้นปี 2558 ที่ 7.50 บาท ส่วนวานนี้ปิดที่ 6.46 บาท
ราคาหุ้น ITD ในช่วง 2 เดือนแรกปรับลง 13.86%
ตัวสุดท้ายคือ UNIQ : บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน)
ราคาหุ้น UNIQ ปิดสิ้นปี 2558 ที่ 22.00 บาท ส่วนวานนี้ปิด 14.70 บาท เท่ากับว่าราคาร่วงลง 33.18%
หากดูตามสถิตินี้ ก็จะพบว่าหุ้น UNIQ ปรับลงมากสุด รองลงมาคือ STEC และตามด้วย CK
และ ITD ปรับลงน้อยสุด
ในปี 2558 ราคาหุ้นทั้ง 4 ตัวต่างปรับขึ้นอย่างมาก เช่น UNIQ ขึ้นมา 92% เพราะคาดหวังว่ากับการลงทุนโครงการภาครัฐขนาดใหญ่หลายๆ โครงการ เช่น มอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ รถไฟทางคู่รางคู่ รถไฟความเร็วสูง และโครงการอื่นๆ
ทว่าผ่านมาถึงตอนนี้มีเพียง 1-2 โครงการเท่านั้น ที่เริ่มตอกเสาเข็ม
ที่เหลือนอกจากนั้น ยังไม่เห็นแม้แต่วุ้น
ความล่าช้า ความไม่แน่นอนทางการเมือง ทำให้นักลงทุนเกิดความไม่เชื่อมั่น
และนั่นคือเหตุผลว่า ควรจะปล่อยหุ้นกลุ่มรับเหมาเหล่านี้ออกมาจากพอร์ตไปก่อน เพราะถือไปก็เท่านั้น เสียเวลา(ว่ะ)
แม้ล่าสุด ขุนคลัง “อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” จะออกมาบอกว่า โครงการขนาดใหญ่ 1.7 ล้านล้านบาท จะแล้วเสร็จทุกขั้นตอนในปี 2559
และวานนี้ก็มีข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้าสายมีชมพู และเหลือง วงเงินรวมกับ 1.2 แสนล้านบาท
หุ้นรับเหมาเหมือนไม่ตอบรับใดๆ
ความเชื่อมั่นมันหายไปแล้ว
นักลงทุนต่างทราบดีว่า โรงการเหล่านี้ มันไม่ง่ายเลยแม้ว่าจะมีเรื่อง “PPP fast track”ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เพราะขั้นตอนที่สำคัญๆ ก็ยังคงต้องใช้เวลาดำเนินการ
รัฐบาลให้นโยบายกับทุกโครงการดำเนินการให้โปร่งใส
จึงเป็นไปไม่ได้เลยว่า กว้าโครงการที่มีมูลค่าเป็นหลักพักล่าน หมื่นล้าน ยิ่งระดับแสนล้านไม่ต้องพูดถึงว่า จะใช้เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็เริ่มตอกเสาเข็มได้
ทุกโครงการต้องผ่านคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ หรือ คตร.
หาก คตร.ดูแล้ว มันทะแม่ง ก็ต้องตีกลับ
เสนอไป ตีกลับ เสนอกลับ ตีกลับ(มันอีกครั้ง)
วนเวียนกันไปแบบอย่างน่าเบื่อ
นี่ยังไม่นับต้องทำเรื่องสิ่งแวดล้อม EIA หรือ การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment :EIA)
และ HIA หรือการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ (Health Impact Assessment)
และมาเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือครม.
แล้วก็ไม่รู้ว่า ครม.จะตีกลับ หรือให้ไปทำแผนมาใหม่ หรือติงโน่น ติงนี่อีกหรือเปล่า
เห็นไหมมันไม่ง่ายหรอกครับ
ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีคมนาคมคนเดิมที่ไปหารือกับทางการจีนไว้
แต่พอเปลี่ยนรัฐมนตรี(คมนาคม)คนใหม่ ก็ต้องมารื้อใหม่ทั้งหมด เพราะที่ไปเจรจาไว้เหมือนทำให้ไทยเสียเปรียบ และอีกปัญหาคือ ยังไม่ได้มีการศึกษาโครงการอะไรเลย
ต่างจากรถไฟความเร็วสูงที่ร่วมมือกับญี่ปุ่น น่าจะเห็นเป็นเนื้อเป็นหนังมากกว่า และรวดเร็วกว่า
ดังนั้น เวลามีข่าวเรื่องโครงการเหล่านี้ ก็ต้องนำประเด็นเหล่านี้ปาประกอบการลงทุน
หากยังประมูลไม่แล้วเสร็จ(รวมขั้นตอนต่อรองราคาภายหลัง) และยังไม่ตอกเสาเข็ม ก็ยังเชื่อไม่ได้
หุ้นกลุ่มรับเหมาขนาดใหญ่ ทั้ง 4 ตัว จะว่าไปแล้ว งานที่อยู่ในมือปัจจุบัน ก็พอเลี้ยงตัวเองไปได้หลายปี เช่น CK มีงานในมือรองรับรายได้ช่วง 2- 3 ปีข้างหน้า
นักวิเคราะห์ต่างมองว่า ระยะสั้น หุ้นเหล่านี้ไม่น่าลงทุน
แต่หากราคาปรับลงมามากๆ และต้องการลงทุนระยะยาว
ก็แนะนำ“ซื้อ”
…
ตารางประกอบคอลัมน์
หุ้น | ราคา(สิ้นปี 2558) | ราคา(29ก.พ.59) | เปลี่ยนแปลง |
CK | 29.00 | 22.60 | -22.06% |
STEC | 25.00 | 17.50 | -29.96% |
ITD | 7.50 | 6.40 | -13.86% |
UNIQ | 22.00 | 14.70 | -33.86% |