สังคมข่าวหุ้นนิวส์เวฟ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,365.31จุด ปรับเพิ่มขึ้น 18.36 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉียด 6.8 หมื่นล้านบาท
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,365.31จุด ปรับเพิ่มขึ้น 18.36 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉียด 6.8 หมื่นล้านบาท
* ขาเข้าซื้อสุทธิได้แรงหนุนสามประสานเริ่มจากต่างชาติลุยเก็บเยอะสุด 3,605 ล้านบาท ตามด้วยสถาบันจัดไป 3,508 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 651 ล้านบาท ส่วนรายย่อยถล่มขายสุทธิหนัก 7,765 ล้านบาท
* เห็นตลาดหุ้นไทยดีดตัวขึ้นมากันอย่างต่อเนื่อง แต่งานนี้ขอเตือนให้นักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
* กล่าวออกมาแบบนี้ ไม่ใช่นิวส์เวฟพูดทักหาเรื่องขัดใจความรู้สึกคนอ่าน ที่กำลังเห็นตลาดหุ้นไทยเริ่มฟื้นตัวได้ดี แต่ SET เพิ่มขึ้นแบบนี้ยิ่งต้องระวังกว่าเดิม
* เนื่องจากในขณะนี้ไม่มีใครตอบได้ชัดเจนว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังปรับเพิ่มขึ้นด้วยเพราะปัจจัยบวกอะไรเป็นหลัก ถ้าใครบอกเป็นเพราะความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไทย-เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว
* ผู้เขียนกล้าพูดได้เลยว่า “โลกสวย” เป็นอย่างมาก ลองถามตัวท่านเองดีๆ เศรษฐกิจไทยมันดีขึ้นจริงหรือไม่
* ดังนั้น SET จึงยังมีรากฐานที่ค่อนข้างเปราะบาง และภาวะตลาดแบบนี้เวลาปรับตัวลง นี่ดิ่งแรงแบบไม่ทันตั้งตัวเลยแหละ
* ขอยกตัวอย่างหุ้นให้เห็นภาพ เลือกเคสจากบลูชิพที่ร้อนแรงสุดโต่งในช่วงนี้ PTTEP ทำราคาวิ่งแรงติดต่อกันรวมกว่า 2 สัปดาห์ไปแล้ว * แน่นอนหุ้นเล่นกันด้วยประเด็นปีนี้ลุ้นหวนพลิกกำไร บวกกับคาดหวังน้ำมันฟื้นตัว
* แต่ถ้าว่าตามความเป็นจริง “พี่เทพ” ยังคงเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงท่วมท้นเหลือเกิน
* เปิดประเด็นพูดกันมาแบบนี้ ไม่ใช่ว่าหาหุ้นลงทุนกันไม่ได้ เพียงแต่ต้องเลือกคัดรายตัวที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะเป็นหลัก
* เริ่มด้วยตัวแรก BIG เป็นหุ้นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ล่าสุด รับข่าวดีโบรกฯ เคาะเพิ่มราคาเป้าหมายใหม่ให้ไว้สูงถึง 3 บาท ดันอัพไซด์กระฉูดกว่า 50% * ฐานราคาต่ำกว่าระดับ 2 บาท ยังถือเป็นจุดเข้าเก็บกันได้ เพราะในแง่กำไรแล้วยังเติบโตได้ต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดกันไว้ว่า ปี 59 กำไรทะลุ 500 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องยากแน่นอน
* ที่อยากให้ดูเป็นพิเศษคืออัตราทำกำไรสุทธิของ BIG งวดปี 58 ซึ่งสูงถึง 9.6% เรียกได้ว่าโดดเด่นกว่าธุรกิจเทรดดิ้งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เจ้าอื่นทั้งปวง จึงสะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งมาก
* ต่อด้วยหุ้น TRC ความน่าสนใจคือ ทิศทางผลการดำเนินงานที่ยังเด่นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว * โดยล่าสุด ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 59 สูงเกิน 8,000 ล้านบาท เรียกได้ว่าเติบโตแบบเท่าตัวจากปี 58
* ที่สำคัญในช่วงครึ่งปีหลังยังเตรียมเซ็นสัญญาโครงการโปรแตชเพิ่มอีก หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ จะส่งผลให้แบ็กล็อกรวม TRC สูงทะลุ 40,000 ล้านบาทในทันที
* LH-PS สองหุ้นเด่นจากค่ายอสังหาริมทรัพย์ ขนาดปีที่แล้วภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ในผลการดำเนินงานยังแกร่งทั้งคู่
* ฟาก LH ถือเป็นผู้ครองแชมป์ทำกำไรปี 58 กลุ่มอสังหาฯ สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่ PS เป็นแชมป์ทำรายได้สูงสุดอันดับหนึ่ง
* ที่สำคัญจ่ายปันผลสวยทั้งคู่เสียด้วย จึงอยากเอาไว้ให้ลองพิจารณา
* หุ้น BEAUTY รวมสองวันทำการราคาหุ้นทรุดไปกว่า 7% จนถอยลงมาอยู่ที่แนวรับที่ระดับ 5 บาทพอดี
* เอาจริงๆ BEAUTY พื้นฐานดีไม่มีอะไรน่ากังวลทั้งสิ้น รอบ 4 ปีล่าสุด ทำกำไรโตติดต่อกันทุกปี และปี 59 ยังมีโอกาสรักษาการเติบโตต่อไปได้
* ที่สำคัญราคาหุ้นยังถือว่า “แลกการ์ด” เมื่อเทียบกับบริษัทอื่น อัพไซด์เยอะ 20% ต่ำกว่าราคาเป้าหมาย 6 บาท
* ปิดท้ายด้วย CPN วอลุ่มเทรดช่วงหลังหนาแน่นเต็มสูบ และเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ยังมีโอกาสทำกำไรเพิ่มขึ้นได้เด่น
* ขนาดปี 58 ที่สถานการณ์ไม่ค่อยดี ยังฟาดกำไรไปถึง 7,880 ล้านบาท งวดปี 59 โบรกฯ จึงได้คาดกำไรสูงแตะ 9,000 ล้านบาท ขานรับกรณีเปิดห้างใหม่ควบคู่ไปกับแผนขยายห้างเก่า ขณะที่ราคาเป้าหมายตั้งไว้เฉลี่ยระดับ 60 บาท นับเป็นหุ้นเด่นที่ต้องจับตาในงวดปีนี้ *