BIGC…เหลี่ยมเจ้าสัวลูบคมตลาดทุน

“จะไม่มีการขายหุ้น 25% ที่ถืออยู่ใน บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ หรือ BIGC”


ธนะชัย ณ นคร

                

“จะไม่มีการขายหุ้น 25% ที่ถืออยู่ใน บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ หรือ BIGC”

เป็นคำกล่าวที่ชัดเจนมากจริงๆ ของ “ทศ จิราธิวัฒน์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด

ก่อนหน้านี้เสี่ยเจริญ หรือ “เจริญ สิริวัฒนภักดี” ที่คนทั่วไปมักจะเรียกเขาว่า “เจ้าพ่อน้ำเมา” เพิ่งจะได้รับชัยชนะในการซื้อหุ้น BIGC จากกลุ่ม กาสิโน กรุ๊ป ของฝรั่งเศส

เสี่ยเจริญ ได้ทุ่มเงินกว่า 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 120,610 ล้านบาท เพื่อการซื้อหุ้นครั้งนี้

ผ่านมาถึงวันนี้แม้ขั้นตอนการซื้อขายหุ้นจะยังไม่สมบูรณ์แบบ

ทว่า บิ๊กซีฯ ก็น่าจะอยู่ในอุ้งมือของเสี่ยเจริญ แน่นอนแล้ว

การซื้อหุ้น BIGC จำนวน 58.56% จากกลุ่มคาสิโน ในครั้งนี้ จะต้องมีการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด หรือเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ ของ BIGC ในลำดับต่อไปด้วย

ราคาที่กลุ่มเสี่ยเจริญ ซื้อหุ้นมานั้น เฉลี่ยอยู่ที่ 252.88 บาทต่อหุ้น

ผ่านมาถึงวันนี้ ยังไม่แน่ใจว่า ราคาที่จะต้องทำเทนเดอร์ฯ อยู่ในระดับเดียวกับที่เสนอซื้อจากกลุ่มคาสิโนหรือไม่

นั่นเพราะต้องรอกระบวนการต่างๆ ให้แล้วเสร็จก่อน โดยเฉพาะการประเมินราคาหุ้นของที่ปรึกษาทางการเงิน

สมมุติว่า หากทุกขั้นตอนผ่านไปได้ด้วยดี และกลุ่มเสี่ยเจริญ ได้จ่ายเงินการซื้อหุ้น BIGC ให้กับกลุ่มคาสิโนแล้ว กระทั่งมาเข้าสู่ขั้นตอนการทำคำเสนอซื้อหุ้นคืน

แล้วฝั่งเซ็นทรัล ยังยืนยัน “ฉันไม่ขาย”

แน่นอนต้องมีปุจฉาว่า แล้วทางเสี่ยเจริญจะทำอย่างไร

คำตอบก็คือ ทำอะไรไม่ได้

มีคำถามอีกว่า แล้วหากกลุ่มเสี่ยเจริญ เสนอราคาขอซื้อหุ้นที่คืนในราคาสูงจนน่าจูงใจจะมีความเป็นไปได้หรือไม่

คำตอบก็คือ ก็อาจเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้ แต่กลุ่มเซ็นทรัลจะยอม (ขาย) หรือ? เพราะเงินอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายสำหรับ “เจ้าสัวฝั่งเซ็นทรัล”

หลายคนบอกว่านี่มันเกม “คมเฉือนคม” ชัดๆ

ทราบกันดีว่า ในช่วงที่กลุ่มคาสิโน เปิดให้ผู้สนใจเข้าซื้อหุ้นนั้น ทางฝั่งเซ็นทรัล ก็แสดงเจตจำนงด้วย

แต่ชัยชนะไม่ได้ตกอยู่กับฝั่งเซ็นทรัล

ล่าสุด คุณทศ ก็บอกไว้อย่างน่าสนใจว่า กลุ่มเซ็นทรัล นับว่าเป็นผู้ก่อตั้ง BIGC มาเป็นเวลา 20 ปีจนทำให้มูลค่าของ BIGC เพิ่มขึ้นมาถึงระดับ 2 แสนล้านบาทในปัจจุบัน อีกทั้งธุรกิจของ BIGC ก็ยังมีศักยภาพเติบโตอยู่

คำกล่าวนี้มีนัยสำคัญที่กว้าง และกินใจมากๆ

แต่ก็พอจะสรุปได้ว่า…  แล้วกลุ่มเซ็นทรัลจะขาย(หุ้น)ทำไม

กลุ่มเซ็นทรัลยังมีแผนเข้าซื้อกิจการบิ๊กซี ประเทศเวียดนามด้วย ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า พวกเขาต้องการบิ๊กซีจริงๆ

สัดส่วนหุ้นที่กลุ่มเซ็นทรัลถืออยู่ใน BIGC นั้นคือระดับ 25%

อย่างน้อยน่าจะมี 2 เก้าอี้ที่นั่งอยู่ในบอร์ด BIGC นะ

นั่นหมายความว่า BIGC จะวางแผนงาน หรือกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจต่างๆ ออกมา ทางฝั่งเซ็นทรัล (ที่เป็นคู่แข่งขัน)ก็จะรับรู้ด้วย หรือมีส่วนด้วยนั่นแหล่ะ

หากเป็นแบบนี้เสี่ยเจริญ ไม่น่าจะยอมหรอก

ส่วนคุณทศ เองก็บอกว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทางคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี

ส่วนตัวนั้นเชื่อว่า ทางฝั่งเสี่ยเจริญ เองก็น่าจะรับทราบปัญหานี้มาตั้งแต่ก่อนซื้อหุ้น BIGC และก็อาจมีแนวทางแก้ปัญหาที่วางไว้แล้ว

มิเช่นนั้นผ่านมาเป็น “เจ้าสัว” ในวันนี้ไม่ได้

ส่วนแนวทางการเพิ่มทุน เพื่อกดหุ้นของฝ่ายตรงข้ามให้เหลือต่ำกว่า 5% ซึ่งวิธีการนี้ก็ไม่น่าจะใช่คำตอบที่ดี

เพราะจะทำให้ “คู่แข่งขัน” กลายเป็น “ศัตรู”

หรือหากใช้วิธีการนี้จริงๆ บอร์ดฝั่งเซ็นทรัลก็คงต้องคัดค้านกันฝุ่นตลบในห้องประชุม

แต่เชื่อสิ วิธีการนี้ ก็น่าจะไม่ใช่วิถีทางของคนระดับเจ้าสัวเขาทำกันเพราะอาจดูเป็นนักเลงเกินไป

ล่าสุดนิตยสารฟอร์บส์ของสหรัฐฯ ได้จัดอันดับเสี่ยเจริญ  ขึ้นแท่นเศรษฐีเบอร์ 1 ของประเทศไทยในปีนี้และอยู่อันดับ 94 ของโลก

เรามาดูกันว่ามหาเศรษฐกิจอันดับท็อป 100 ของโลกคนนี้จะเดินเกมอย่างไร

และนี่คือเหลี่ยมของเจ้าสัว

Back to top button