ฝัน (เปียก) ของนักสุนิยมแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ผู้บริหารในระยะ 5 ปีหลังของสายการบินแห่งชาติ มักจะเป็นคนที่เรียกว่ามีมุมมองแบบสุนิยมสุดขั้ว พูดถึงแต่กำไรบริษัทได้อย่างย้ำคิดย้ำทำ ทั้งที่โดยข้อเท็จจริงตรงกันข้ามอีกขั้วหนึ่ง


ผู้บริหารในระยะ 5 ปีหลังของสายการบินแห่งชาติ มักจะเป็นคนที่เรียกว่ามีมุมมองแบบสุนิยมสุดขั้ว พูดถึงแต่กำไรบริษัทได้อย่างย้ำคิดย้ำทำ ทั้งที่โดยข้อเท็จจริงตรงกันข้ามอีกขั้วหนึ่ง

งบการเงิน 3 ปี นับตั้งแต่สิ้นงวดปี 2556-2558 ขาดทุนปีละมากกว่า 12,000 ล้านบาท  โดยที่ปีล่าสุด ขาดทุนไป 13,067.67 ล้านบาท ก็ยังทำให้จรัมพร โชติกเสถียร เป็นปลื้มที่มีตัวเลขขาดทุนลดลง และถึงกับวาดฝันว่าจะกลับมาทำกำไรได้ หากว่า แผนปฏิรูปองค์กรเดินมาถูกทาง

ได้ยินแล้วดูดี ถ้าหากว่าไม่บังเอิญตัวเลขเชิงลึกของรายได้ กำไร และสัดส่วนทางการเงินของ THAI ไม่ได้บอกตรงกันข้าม

 ตัวเลข  THAI ที่ขาดทุนลดลง 16.3% จากปีก่อน (ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ) ขาดทุนสุทธิ 15,612 ล้าน อาจจะทำให้ผู้บริหารอ้างว่าแผนปฏิรูปมาถูกทาง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะ ข้อเท็จจริงบอกว่า เกิดจากต้นทุนลดลง และมีกำไรพิเศษช่วย

ในด้านต้นทุน ราคาน้ำมันลดลงอย่างมาก ส่งให้ค่าธรรมเนียมน้ำมันลดลง 20.2% และค่าใช้จ่ายดำเนินงานไม่รวมน้ำมันลดลง 6%  ไม่ได้เกิดจากฝีมือของผู้บริหาร

ทางด้านรายได้ ปรากฏว่าในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจนี้  THAI มีกำไรสุทธิรวม 5,400 ล้านบาท เป็นกำไรปกติจากการดำเนินงาน 3,700 ล้านบาท เพราะมี Cabin Factor 72.5% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 70.8% และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 1,800 ล้านบาท

นอกจากนั้น ยังมีการรับรู้รายได้พิเศษเพิ่มเติมจากการที่มีการบันทึกรายการพิเศษ เนื่องจากได้รับค่าชดเชยในการฟ้องร้องกับ บริษัท โคอิโตะ (KOITO ) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้รับจ้างผลิตและติดตั้งเก้าอี้ผู้โดยสารในชั้นประหยัดของเครื่องบินแอร์บัส A 330-300 จำนวน 5 ลำ หลังจากที่พบว่าการติดตั้งดังกล่าวไม่ได้มาตรฐานตามองค์กรกำกับดูแลความปลอดภัยของประเทศญี่ปุ่นและยุโรป อีกทั้งมีการปรับวิธีการจัดการค่าซ่อมบำรุงและจำนวนผู้โดยสารดีขึ้น

กำไรแค่ไตรมาสเดียว ไม่ได้ทำให้ตลอดทั้งปีดีขึ้นมากมายนักเพราะ ข้อเท็จจริงที่ว่า กระนั้นภาพรวมก็ยังเลวร้ายต่อไปเพราะ Yield ลดลงอยู่ที่ 2.47 บาทต่อคนต่อกิโลเมตร ขณะปีก่อนอยู่ที่ 2.65 บาทต่อคนต่อกิโลเมตร

ที่สำคัญ ปมด้อยที่เคยทำให้ขาดทุนหนักยังอยู่ครบถ้วน ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะมีการลดจำนวนพนักงานลงไปบางส่วนก็ตาม เพราะยังมีตัวเลข “ขี้เหร่” โดยเฉพาะการด้อยค่าของเครื่องบิน ที่เคยอยู่ที่ระดับ 1.1 พันล้านบาทเมื่อ 3 ปีก่อน พุ่งกระฉูดมาเป็นระดับมากกว่า 3 พันล้านบาทต่อไตรมาส หรือ เพิ่มขึ้น 200%

ตัวเลขผลขาดทุนจากการด้อยค่าของทรัพย์สินและเครื่องบินในปี 2558 สูงถึง 12,157 ล้านบาท ได้รับคำอธิบายจากผู้บริหารว่า  เป็นเพราะยังมีเครื่องบินที่ปลดระวางรอการขายอยู่อีก 14 ลำ โดยในจำนวนนี้ เป็นเครื่องบินพิสัยไกลที่เคยใช้บินเส้นทางลอสแองเจลิสกับนิวยอร์ก รวม 10 ลำ คือ แอร์บัส A 340-500 จำนวน 4 ลำ และ A 340-600 จำนวน 6 ลำ (ยังผ่อนชำระไม่หมดจนถึงล่าสุด) ซึ่งจำนวน 10 ลำนี้ถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ THAI ต้องบันทึกด้อยค่าฯสูงมาก

ไม่เพียงเท่านั้น หากในปี 2559 นี้ ยังไม่สามารถจำหน่ายเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้งานได้ ผู้บริหารก็ยอมรับว่า การบันทึกด้อยค่าฯก็จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอีก…อุแม่จ้าว!!!

หากยิ่งลงลึกไปถึงตัวเลขสภาพคล่องของบริษัทที่มีค่า current ratio ที่ระดับเพียงแค่ 0.73 เท่า ที่บ่งบอกถึงการฝืดเคืองพอสมควร ก็ยังดีกว่าตัวเลขภาระหนี้ เพราะค่าดี/อี ของTHAI ถือว่าเข้าขั้นอันตรายทีเดียว เพราะมีค่าถึงระดับ 8.2 เท่าเลยทีเดียว

หากไม่ใช่รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลค้ำประกันเงินกู้ให้แล้ว ป่านนี้ มีโอกาสโคม่า ชนิดที่เจ้าหนี้รุมทึ้งจ้าละหวั่นเป็น NPLs ไปนานแล้ว เพราะอาจจะถูกเรตติ้งระดับ “ขยะ” ได้ง่ายมาก

ฝันของจรัมพร ที่วาดไว้ว่า THAI มีโอกาสจะกลับมาทำกำไร จึงเข้าข่ายฝันกลางวัน เพราะหากพิจารณาความสามารถในการแข่งขัน จะเห็นว่า การแข่งขันที่รุนแรงของสายการบินพาณิชย์ทุกระดับ นับแต่การรุกทั่วโลกของ 3 สายการบินยักษ์ตะวันออกกลาง กาตาร์ แอร์เวย์ส เอมิเรตส์ และเอธิฮัด รวมถึงความเฟื่องฟูของสายการบินโลว์คอสต์ในตลาดเอเชีย ยังคงกดดันให้ THAI ยังต้องมีความเสี่ยงกับการขาดทุนต่อไป

ยอดดี/อี ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าจะลดลง  และตัวเลขขาดทุนสะสมที่ระดับ 22,247.80 ล้านบาท จากปีก่อนที่ระดับ 8,849.19 ล้านบาท เทียบกับส่วนผู้ถือหุ้นที่ระดับ 32,925.69 ล้านบาท จากปีก่อนที่ระดับ 41,395.92 ล้านบาททำให้โอกาสที่ THAI เผชิญกับความเสี่ยงถูกเรียกให้เพิ่มทุนเพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งอาจจะส่งผลให้แผนการปฏิรูปองค์กรไปสู่กำไรในเร็ววัน ตามที่บอร์ด และจรัมพร วาดหวัง น่าจะต้องรอไปก่อน

ราคาล่าสุด ที่ระดับ 12.00 บาท ยังนับว่าแพงเกินอยู่ดี เพราะหาพี/อีไม่ได้แม้จะต่ำกว่าบุ๊คไปแล้วก็ตาม

ฝันกลางวันของจรัมพร…จะมีโอกาสกลายเป็นฝันเปียกหรือไม่…ต้องถามเจ้าตัวเอง…อิ อิ อิ

Back to top button