คราสมฤตยู?ทายท้าวิชามาร
สิงคโปร์ อินโดนีเซีย แปรสุริยุปราคาเป็นมาร์เก็ตติ้งดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ประเทศไทยกลับหวาดเสียว เพราะโหรเจ้ากรรมรุมทำนาย สุริยคราสผสมดาวมฤตยูทับดวงเมือง จะเกิดเรื่องใหญ่เรื่องโตขนาดไหนยังไม่รู้
ใบตองแห้ง
สิงคโปร์ อินโดนีเซีย แปรสุริยุปราคาเป็นมาร์เก็ตติ้งดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ประเทศไทยกลับหวาดเสียว เพราะโหรเจ้ากรรมรุมทำนาย สุริยคราสผสมดาวมฤตยูทับดวงเมือง จะเกิดเรื่องใหญ่เรื่องโตขนาดไหนยังไม่รู้
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เปล่า ผมไม่เชื่อดาวหรอกแต่ไม่ประมาทหมอดู ที่พูดๆ กันอยู่คือหมอเดาทั้งนั้น เพียงแต่มีแหล่งข่าวมีข้อมูลให้วิเคราะห์สถานการณ์ อ้าว หมอดูดังๆ ล้วนมีลูกค้าเป็นชนชั้นนำ บางครั้งรู้ข่าวลึกเบื้องหน้าเบื้องหลังสังคมเศรษฐกิจการเมืองก่อนนักข่าวด้วยซ้ำ แล้วลากดาวมายำเป็นคำทำนาย
ที่นี่ประเทศไทย จะโค่นล้มช่วงชิงอำนาจกันยังต้องดูฤกษ์ยาม ตั้งแต่สมัยพระเทียรราชามาถึงโหรวารินทร์ ฉะนั้น โหรนี่แหละรู้ hint ดีที่สุด
สถานการณ์วันนี้ไม่ต้องเป็นโหรก็รู้ดีว่า “งวดเข้ามาทุกขณะ” เพียงแต่ไม่รู้ว่างวดไปสู่อะไร ยุคนี้สมัยนี้ไม่สามารถมองโลกสวยแบบ “ฟ้าสีทองผ่องอำไพ” เผลอๆ หนักกว่าอีกก็ได้ สังคมไทยมาถึงจุดที่อาจมองไม่เห็นทางออก ตั้งแต่ระดับบนถึงล่างสุด แต่ไม่เป็นไร คนไทยยังใช้ชีวิตชิลๆ ได้ เหมือนภัยแล้งก็ทำให้ได้ถ่าย selfie ทุ่งหญ้าคา แต่อย่า selfie สุริยุปราคาก็แล้วกัน
ประชาธิปไตยไม่มีทางออก บางคนบอกไม่เห็นเป็นไร ไม่มีเลือกตั้งก็อยู่ได้ ทำมาหากินได้ ดีกว่าขัดแย้งกันวุ่นวาย แต่พูดผิดพูดใหม่ได้นะ เพราะปัญหาที่เราเผชิญอยู่คือ มองไม่เห็นระบอบการปกครองที่เป็นทางออก และไม่สามารถอยู่ใต้ระบอบ คสช.อีกต่อไป ข้อหลังนี้ถาม คสช. เองยังได้ ไม่ได้อยากอยู่นานแต่จำเป็น ยิ่งนานยิ่งไม่เห็นทางลง
ประชาธิปไตยไม่มีทางออก คือไม่สามารถจัดความสัมพันธ์ทางอำนาจใหม่ หลังโค่นประชาธิปไตยเสียงข้างมากเลือก “นักการเมืองชั่ว” ลงไป อำนาจเสียงข้างน้อยเอง ก็ยังจัดสรรความสัมพันธ์ทางอำนาจไม่ลงตัว ทั้งในเชิงระบบคือการยกร่างรัฐธรรมนูญ และปัญหาระหว่างกลุ่มอำนาจระหว่างตัวบุคคล
พูดง่ายๆ ว่าพลังที่โค่นรัฐบาลยิ่งลักษณ์จัดสรรอำนาจกันเองไม่ลงตัว เพียงมีกองทัพเป็นศูนย์กลาง ใช้อำนาจไปพลางๆ แต่จะวางระบบไปข้างหน้าอย่างไร ยังจัดสรรไม่ได้ ระหว่างอำนาจทหาร บุคคลชั้นนำฝ่ายพลเรือน (ซึ่งไม่พอใจว่าอำนาจกำลังลดน้อยถอยลง) กลุ่มธุรกิจ พรรคการเมือง พลังของคนชั้นกลางระดับบน ไปจนพลังประชาสังคม
ซึ่งในนี้ก็มีด้านที่ขัดแย้งกันเอง ยิ่งนานยิ่งขัดแย้งกัน เช่นหมอกับหมอ ทหารกับ NGO ภาคธุรกิจ Vs ภาคประชาสังคม ไปจนกรณี พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ที่เด็กอมมือยังรู้ว่า “ช้างชนช้าง”
ขณะที่ด้านตรงข้าม มีผู้รักประชาธิปไตย ทักษิณ พรรคเพื่อไทย เสื้อแดง ยืนจ้องอยู่แล้ว
อ้อๆ ยังมีพระอีกต่างหาก ไม่รู้วิบากกรรมอะไร มาเจอกรณีตั้งสังฆราช แล้วกลุ่มคนที่เคยขัดขวางเลือกตั้งก็ขัดขวางสมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสสูงสุด ซึ่งไม่ว่าจะให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือศาลไหนตีความ ก็ต้องทูลเกล้าฯ สมเด็จพระราชาคณะที่อาวุโสสูงสุด เว้นแต่จะหาเรื่องจับท่านเข้าคุก จับสึก หรือท่านอาพาธ แต่นี่จะอ้าง “มาตรฐานสรยุทธ์” ไปขัดขวางค้างคา ให้พระยิ่งไม่พอใจ
ทั้งเรื่องภายนอกภายในใช้กำปั้บทุบ ขณะที่รัฐธรรมนูญจะต้องร่างให้เสร็จใน 3 สัปดาห์ ทำประชามติใน 4 เดือน โดย “ดวงดาว” หมายถึงเหตุคาดไม่ถึงต่างๆ อาจจะทับเข้ามา ไม่ต้องเป็นหมอดูก็บอกว่าแม่น เพียงแต่หมอไหนก็ทายไม่ถูกว่าจะจบอย่างไร