ฝืนเกินไป?โมนิก้าและทีมงาน

*ก่อนอื่นต้องบอกให้แฟนคลับ “เจาะกระดานหุ้น” ทราบก่อนเลยว่า การลงทุนในตลาดหุ้นไม่มีเซียนเหยียบเมฆตัวจริงเสียงจริง เพราะเอาเข้าจริงก็เป็นเพียงเกมหุ้นของแต่ละก๊วนที่บิลด์กันขึ้นมา “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เห็นนักเล่นแต่ละกลุ่มกระโจนใส่กันอย่างเมามัน หลังองค์ประกอบหลายอย่างค่อนข้างเป็นใจ อีกทั้งมีตัวเร้าอารมณ์ให้คล้อยตามตลอดเวลาแบบนี้…ปั่นกันมันเลยพะยะค่ะ

*ถึงกระนั้น “โมนิก้า” ยังอยากให้แฟนคลับพิจารณาถึงความสมเหตุสมผลของสิ่งที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ด้วย และดูเหมือนจะเลยขอบเขตที่ควรจะเป็นไปมากพอสมควร ดัชนีถึงไม่สามารถยืนปิดที่จุดสูงสุดของวันที่ 1,389.24 จุด พร้อมกับโรยตัวลงมาทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1,376.37 จุด ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 1,379.53 จุด บวกไป 0.20 จุด ด้วยมูลค่า 5.67 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพที่ฟ้องว่า กำลังเกิดอะไรขึ้นเจ้าค่ะ

*งานนี้เดี๊ยนบอกได้ทันทีว่า ใครที่ตีความประเด็นดังกล่าวออก ก็ควรหาทางหนีทีไล่ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะอาการ “เปิดสูง ปิดต่ำ” วันถัดไปมีโอกาสปิดแดงโร่ค่อนข้างสูง และสิ่งที่เห็นในเวลานี้คือ อาการฝืนธรรมชาติอย่างไม่ต้องสงสัย “โมนิก้า” ถึงเห็นหุ้นบางตัวกระชากขึ้นอย่างร้อนแรง แต่บางตัวก็เริ่มหมดแรงข้าวต้ม วันนี้ถึงต้องเข้าเล่นหุ้นรายตัวเพื่อความคล่องตัวไงล่ะจ๊ะ

*วันนี้ถึงต้องคำถามว่า การทะยานขึ้นของหุ้น DTAC  เป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน จนสุดท้ายหุ้นขึ้นมาปิดที่ 39.50 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 9.70% ด้วยมูลค่า 4 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ต้องคิดให้ดีๆ และควรรู้ไว้ว่า การขึ้นเที่ยวนี้เกิดจากน้ำมือฝรั่ง และทุกครั้งที่นักลงทุนกลุ่มนี้เข้ามาเมื่อไหร่ หุ้นระเบิดระเบ้ออย่างไร้เหตุผลทุกที เดี๊ยนถึงรู้สึกเสียวไส้เหลือเกินเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ TPIPL ถ้าดูตามสัญญาณเทคนิคจะเห็นภาพการยกตัวสูงขึ้นเป็นลำดับชั้น บวกกับหุ้นวิ่งทะลุเส้นแนวต้าน 200 วันที่บริเวณ 2.44 บาทอย่างง่ายดาย ก่อนจะมาปิดที่ 2.48 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะในการ follow เต็มตัว เพราะมีลุ้นขึ้นไปทดสอบยอดเดิมที่บริเวณ 2.80 บาทนะซี

*เม้าท์ถึงหุ้นที่มีลุ้นสุดตัวขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอให้แฟนคลับหันมามอง IRPC เป็นรายถัดมาในทันที เพราะไซเคิลของหุ้นกำลังโค้งตัวเป็นแบบ U-Shape บวกกับมีข่าวดีเข้ามากระตุ้นไม่ขาดสาย วันนี้ถึงต้องมองกันว่า การขึ้นมาปิดที่ 4.56 บาท บวกไป 0.08 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น เดี๊ยนเม้าได้แค่ว่า หากทะลุยอดเก่าที่ 4.72 บาท มีโอกาสวิ่งไปหา 5 บาทค่อนข้างสูงนะจ๊ะ

*ตรงกันข้ามกับในราย SIRI เพราะรายนี้วิ่งชนแนวต้านมาแล้ว 2 ครั้งด้วยกัน ขณะที่วานนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่ขึ้นมาปิดตรงแนวต้าน 1.66 บาทแบบพอดิบพอดี “โมนิก้า” ถึงไม่แน่ใจว่า หุ้นจะวิ่งทะลุแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้อย่างไร? ในเมื่อตัวแปรหลายอย่างยังไม่เอื้อเท่าที่ควร วันนี้ถึงต้องลุ้นกันตัวโก่ง หากไปไม่ไหว ให้ถอยออกมาก่อน…หากไปได้ มองได้ถึง 1.80 บาทเลยนะคะ

*เม้าท์ถึงหุ้นใหญ่มาเยอะพอสมควร “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดูหุ้นเล็กพริกขี้หนูอย่าง AQUA กันบ้างดีกว่า! หลังจากเดี๊ยนได้นำเสนอข้อมูลแบบ “ล้วงลับตับแตก” โดยทีมงาน “ข่าวหุ้นออนไลน์” เป็นคนซัพพอร์ตข้อมูลให้เป็นชุด ล่าสุดก็มีพวกจมูกไวได้กลิ่นของดีก่อนใครเพื่อน จึงกระโจนไล่ซื้อหุ้นกันอย่างเมามัน จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 0.85 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 9% ซึ่งเป็นการซื้อขายบน P/E 12 เท่า…มันน่าสนไหมล่ะค่ะ

*ส่วนในรายของ TRUBB มันเป็นอะไรที่วิเคราะห์ได้ง่ายมากๆ เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ธุรกิจยังไม่ฟื้น โอกาสทางธุรกิจยังไม่เปิด การเด้งขึ้นมาปิดที่ 1.52 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 10% มองในมุมของนักเล่นบอกได้ทันทีว่า สงครามวันเดียว! บวกกับหุ้นวิ่งขึ้นมาชนแนวต้านแบบพอดิบพอดี “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะของการชิ่งหนีเต็มตัวมากกว่าลุยสุดชีวิตนะคะ

*สำหรับดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างRP ตอนนี้กลายเป็นหุ้นฮอตฮิตของตลาด mai อย่างเต็มตัว และเหตุผลของการเข้ามาไล่ราคากันอย่างคึกคักก็มาจาก กำไรดี…ราคาถูก หุ้นถึงกระชากขึ้นมาปิดที่ 10.20 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 8%  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 390 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเทรดบนค่า P/E 12 เท่าอีกเช่นกัน “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า วันนี้จะมีการไล่ราคากันอีกนะจะบอกให้

*แมนสุดๆ ในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” ขอยกให้กับ เสี่ย ย. ออกมายอมรับแบบแมนๆ ผมก็เจ็บเหมือนกัน…หลังเห็นยอดขายตู้เติมเงินพลาดเป้าจากที่เคยให้ข่าวไว้ ซึ่งเดี๊ยนถือเป็นความตั้งใจจริงของเสี่ยคนดังกล่าว ที่ต้องการบอกกับชาวหุ้นให้รู้ว่า “เขาไม่ใช่เด็กเลี้ยงแกะ” พร้อมกับขอโอกาสแก้มือใหม่อีกครั้งนั้น เดี๊ยนถือเป็นเรื่องที่ทุกคนควรช่วยกันสนับสนุน เพราะน้อยคนที่กล้าออกมาสารภาพเช่นนี้…ล่าสุดราคาหุ้นอยู่ที่ 1.04 บาท บวกไป 0.02 บาท พร้อมกับมีคำสั่งซื้อหุ้นผ่าน NVDR กว่า 60 ล้านหุ้น มันมีนัยไหม?…ลองคิดดูนะจ๊ะ

*ป.ล.การลงทุนก็เหมือนกับ หยิน-หยาง ขึ้นแล้วก็ต้องลง หลังจากนั้นถึงจะมีสิทธิ์ขยับขึ้นไปได้อีก หากสมดุลดังกล่าวเอนไปข้างใดข้างหนึ่ง สุดท้ายก็ไปไม่รอดหรอกค่ะ