สังคมข่าวหุ้นคาเฟอีน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยไม่ผ่านแนวต้านจิตวิทยา 1,400 จุด หลังหุ้นน้ำมันถูกเทขายออกมา เพราะราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับลง แม้บรรดาประเทศผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่จะใกล้บรรลุข้อตกเรื่องการรักษาเสถียรภาพด้านราคาน้ำมันก็เหอะ แต่อย่างว่านะ ต้องดูตอนเปิดและปิดเทรดจริง เพราะหลายครั้งราคาซื้อขายล่วงหน้า กับตอนปิดตลาดมักสวนทางกัน

******หุ้นกลุ่มรับเหมาทั้ง CK UNIQ STEC และ ITD พากันขึ้นยกแผง หลังรัฐบาลซุ่มเงียบใช้มาตรา 44 เดินหน้าโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ ให้ทำ EIA และ EHIA คู่ขนานกันไปกับการก่อสร้าง เรื่องนี้ “คาเฟอีน” ให้รัฐบาลเต็ม 100 คะแนน เพราะหากมารอกระบวนการเหล่านี้คงใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 1-2 ปี หรืออาจมากกว่านั้นประเทศพังกันพอดี แต่หากจะให้ดียิ่งขึ้น ก็ไม่ต้องให้ผ่านคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ  หรือ คตร. เพราะจุดนี้คืออีกปัญหาใหญ่ที่ทำให้ล่าช้า

******ส่วนที่กลุ่มเอ็นจีโอหวั่นว่าจะมีการประท้วง และนำไปสู่ความรุนแรงนั้น ก็แนะให้รัฐบาลส่งเจ้าหน้าที่ไปควบคุมตัว หรือทำความเข้าใจซะ เพราะหากบุคคลเหล่านี้อยู่เฉยๆ ไม่เข้าไปปลุกระดมชาวบ้าน แล้วให้ข้อมูลผิดๆ ยุแหย่ไปเรื่อย ปัญหาก็จะไม่เกิด

******** หุ้น JAS ราคายังไปได้ต่อ มูลค่าการซื้อขายขึ้นมาอันดับหนึ่งเลยเมื่อวานนี้ ส่วนปัญหาเรื่อง 4G คลื่นความถี่ 900 MHz หากยอมทิ้งจริงๆ ทางกรรมการ กสทช.ก็ยืนยันแล้วว่า ไม่มีผลกระทบกับธุรกิจเดิมของแจ๊ส เพราะคนละนิติบุคคล ส่วนที่เป็นปัญหาตอนนี้ก็คือ การซื้อหุ้นคืน และการประกาศราคาออกมาแบบนี้ จะเป็นการเข้าข่ายชี้นำราคาหรือไม่ ประเด็นนี้คือสิ่งที่ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงาน ก.ล.ต.ต่างเฝ้าจับตา

********ไออาร์พีซี ราคาวันก่อนพุ่งเกิน 5 บาท แต่ยืนไม่ได้ ส่วนวานนี้ก็พยายามขึ้นไปอีกครั้ง ก็ยังไปไม่ถึง แต่ดูจากทรงกราฟแล้ว ถือว่าสวยงาม มีโอกาสไปต่อ เพียงแต่ว่าในช่วงนี้ราคาคงจะดึงๆ ฉุดๆ กันไปแบบนี้อีกแป๊บ และเมื่อผ่านไปได้ ก็จะทำให้ระดับราคา 5 บาท เป็นแนวรับสำคัญไป จากเดิมเป็นแนวต้าน ส่วนแนวโน้มกำไรปีนี้จะมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท

*******วานนี้นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย แต่ไม่มากนัก เพียง 226 ล้านบาท แต่หากดูตัวเลขตั้งแต่วันที่ 1–10 มี.ค. ต่างชาติซื้อสุทธิแล้วกว่า 15,558 ล้านบาท หรือหากตัวเลขจากต้นปีมาถึงวานนี้ ตัวเลขต่างชาติซื้อสุทธิแล้ว 8,083 ล้านบาท ว่ากันว่า เป็นผลมาจากท่าทีของของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดที่จะยังคงไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ก็ทำให้มีฟันด์โฟลว์เข้ามาต่อเนื่องได้

******แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันนี้ โบรกฯต่างมองว่า มีโอกาสรีบาวด์  และหุ้นกลุ่มธนาคารจะฟื้นตัวได้นำโดยตัวขนาดใหญ่ ทั้ง KBANK BBL SCB และ KTB เพราะต่างเป็นเป้าหมายของฟันด์โฟลว์ รวมถึงหุ้นในกลุ่มสื่อสาร และค้าปลีกบางตัว ก็จะเริ่มกลับมา

********บล.ฟิลลิป เปิดตัวโครงการ Phillip Prop Trade Academy ฝึกอบรมคนรุ่นใหม่สู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ โดยโค้ชผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อเฟ้นหาและคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาร่วมงานตำแหน่ง Proprietary Trader แม้ยังไม่มีประสบการณ์หรือใบอนุญาตที่ปรึกษาการลงทุนก็สามารถสมัครรับการคัดเลือกได้ ส่วนผู้ผ่านเข้ารับการอบรมในโครงการฯ สูงสุดจํานวน 12 คน จะต้องเข้าอบรม 2 เดือน เสียค่าใช้จ่ายคนละ 15,000 บาท และต้องใช้เงินจริงของตนเองในการซื้อขาย จำนวนเงิน 75,000 บาท ในวงเงิน 150,000 บาท

******ธนาคารกรุงไทย จับมือกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอุตสาหกรรม จัดอบรมหลักสูตร “SMEs Genius Exporter” เน้นธุรกิจส่งออกให้ลูกค้าและผู้ประกอบการ SME ฟรี 72 ชั่วโมง รุ่นที่ 1 ตะลุยตลาดจีน พาสำรวจตลาดสินค้าที่จีน พร้อมสิทธิ์เป็นสมาชิกกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนโอกาสร่วมกิจกรรมและสำรวจตลาดในงานแสดงสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รับสมัครถึง 23 มีนาคมนี้ ผู้สนใจสามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ www.ktbgenius.com ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 มีนาคมนี้