สังคมข่าวหุ้นนิวส์เวฟ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,377.80 จุด ปรับลดลง 5.13 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.5 หมื่นล้านบาท
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,377.80 จุด ปรับลดลง 5.13 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.5 หมื่นล้านบาท
* ปิดฉากวันพุธ พี่ SET ของเราถอยลงมาหลุด 1,380 จุดกันจนได้ การซื้อขายช่วงนี้เริ่มเหวี่ยงกันมากพอสมควร เพราะกลุ่มบลูชิพหลายตัวที่เคยวิ่งแรงขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า เริ่มโดนขายทำกำไรกันแล้วเป็นจำนวนมาก และกดดันให้ภาวะตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง
* กองทัพรายย่อยเดินหน้าเข้าเก็บสุทธิท่วมท้น 4,121 ล้านบาท ตามด้วยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ที่สอยไป 1,016 ล้านบาท ส่วนขาเทขายสุทธิสถาบันสาดออก 2,801 ล้านบาท และต่างชาติเทขาย 2,337 ล้านบาท
* เริ่มด้วยหุ้นแรกจิ้มไปที่ IRPC เทรดคึกคักกันอย่างต่อเนื่อง สมฐานะที่หลายโบรกฯ ยกให้เป็น “TOP PICK” สายหุ้นโรงกลั่น
* เพราะนอกจากกำไรปี 59 ที่จะมีโอกาสเติบโตได้แข็งแกร่ง หุ้นยังมีอัพไซด์สำคัญจากโครงการ UHV ที่เริ่มนับถอยหลังรอวันผลิตอย่างเป็นทางการแล้ว * ดังนั้น UHV จะยิ่งเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้ IRPC ได้สยายปีกฟาดกำไรมากขึ้น จึงถือเป็นอีกหนึ่งหุ้นเด่นที่เหมาะทั้งเทรดดิ้งหรือซื้อลงทุนได้หมด
* ล่าสุด เห็น “กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศเลยว่า รายได้ท่องเที่ยวในไทยปีนี้มีลุ้นพุ่งแตะถึงระดับ 2.4 ล้านล้านบาท
* งานนี้ หุ้นกลุ่มธุรกิจสนามบิน-ธุรกิจโรงแรมเตรียมโกยเงินเข้ากระเป๋ากันไปแบบเต็มๆ
* โดยยังคงเลือกหุ้น AOT เป็นตัวแทนจากกลุ่มธุรกิจที่ข้องสายการบิน เพราะมีทั้งรากฐานมั่นคง-กำไรเติบโตแบบนอนสต็อปเป็นแรงหนุน
* ส่วนหุ้นโรงแรมเลือก ERW-CENTEL สำหรับ ERW เป็นตัวแทนหุ้นโรงแรมราคาไซส์เล็กที่ยังน่าสนใจเข้าลงทุน เพราะอย่างที่บอกไว้ข้างต้นเม็ดเงินท่องเที่ยวหลักล้านล้านบาท ย่อมไหลเข้ามาถึงธุรกิจโรงแรมโดยตรงแน่นอน
* ส่วน CENTEL ถือเป็นหุ้นโรงแรมไซส์ใหญ่ที่มีศักยภาพในการทำกำไรได้แข็งแกร่ง ล่าสุด โบรกฯ กำหนดราคาเป้าหมายไว้แถว 50 บาท ถือว่ามีอัพไซด์ให้ได้เล่นกันพอตัว
* หุ้น BIG โดดเด่นจริงๆ นับเป็นหุ้นเล็กแต่มีศักยภาพเติบโตแบบสไตล์โกรทสต๊อก เมื่อวานปิดบวกอยู่ที่ 2.20 บาท เพิ่มขึ้นอีก 1.85% * ที่น่าสนใจคือมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นเฉียด 200 ล้านบาท เลื่อนชั้นกลายเป็นหุ้นที่ซื้อง่าย-ขายคล่องชัดเจน
* จุดเด่นที่ทำให้ BIG กลายเป็นที่สนใจนักลงทุน เพราะตัวพื้นฐานกำไรที่เด่น อย่างงบไตรมาสแรกล่าสุดโบรกฯ เคาะกำไรไว้แถว 160 ล้านบาท โตขึ้นจากปีก่อนแบบเท่าตัว
* ขณะที่ราคาเป้าหมายยังเหลือช่องให้ได้เล่นกันอีกเพียบ ล่าสุดกำหนดกันไว้ระดับ 3 บาท อัพไซด์ท่วมกว่า 30%
* หากวันนี้มีแรงขายทำกำไรและกดให้ราคาลดลงมา แนะนำหาจังหวะเข้าเก็บเพื่อเตรียมเล่นรอบใหม่ได้เลย * หุ้น TSE ถอยลงมาปิดที่ 4.16 บาท ระยะหลังหุ้นค่อนข้างผันผวน หลังจากช่วงที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอิงกระแสโครงการโซลาร์ราชการฯ ไปหน่อย
* แต่ถ้าถอดประเด็นนี้พักไว้ก่อน แล้วมองเข้าไปถึงตัวพื้นฐานที่แท้จริงจะเห็นว่า TSE น่าสนใจไม่เบาเลยละ * อย่างแรก P/E หุ้นเทรดกันเพียงระดับ 14 เท่า สำหรับหุ้นพลังงานทดแทนที่กำลังอยู่ในช่วงเติบโตและขยายฐานการลงทุนนับว่าไม่แพงเลย
* ขณะที่ตัวพื้นฐานไม่ต้องห่วงมีเม็ดเงินโซลาร์ฟาร์ม 80 เมกะวัตต์ที่ทำร่วมกับปตท.ไว้แล้วในมือเป็นหัวใจสร้างกำไรเรียบร้อย แถมยังรุกหาโอกาสลงทุนเพิ่มเติมทั้งในไทย-ญี่ปุ่นกันอีก
* ส่วนโครงการโซลาร์ราชการฯ ล่าสุด เห็นว่าช่วงเดือนเม.ย.ได้จับสลากกันเสียที (ถ้าไม่เลื่อนอีกนะ) จะกลายเป็นแรงผลักดันหุ้นชั้นดีในระยะสั้นเลยแหละ
* ปิดท้ายด้วยหุ้น ORI ผู้บริหาร “พีระพงศ์ จรูญเอก” ออกปากมั่นใจว่า รายได้ปีนี้จะพุ่งแตะ 4,000 ล้านบาท โตขึ้นจากปี 58 แบบเกือบเท่าตัว
* ดังนั้น เมื่อรายได้บริษัทเติบโต กำไรสุทธิย่อมสวยหรูแบบสบายหายห่วง พร้อมกับมีลุ้นพุ่งนิวไฮอีกรอบแน่นอน *