เอาอยู่?โมนิก้าและทีมงาน
*เมื่อวานนี้ “โมนิก้า” มองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยคงเละเป็นโจ๊กแน่ๆ เพราะทันทีที่เป็นการซื้อขายอย่างเป็นทางการ ก็มีแรงเทขายกระหน่ำออกมาอย่างหนักหน่วง จนดัชนีรูดลงไปกองอยู่ที่ 1,370.08 จุด แต่หลังจากนั้นกลับมีแรงช้อนซื้อเข้ามาไล่ราคาหุ้นอย่างต่อเนื่อง จนดัชนีไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,377.80 จุด ลบไป 5.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.57 หมื่นล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่บอกให้รู้ว่า ยังมีคนอยากได้ของนะคะ
*เมื่อวานนี้ “โมนิก้า” มองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยคงเละเป็นโจ๊กแน่ๆ เพราะทันทีที่เป็นการซื้อขายอย่างเป็นทางการ ก็มีแรงเทขายกระหน่ำออกมาอย่างหนักหน่วง จนดัชนีรูดลงไปกองอยู่ที่ 1,370.08 จุด แต่หลังจากนั้นกลับมีแรงช้อนซื้อเข้ามาไล่ราคาหุ้นอย่างต่อเนื่อง จนดัชนีไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,377.80 จุด ลบไป 5.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.57 หมื่นล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่บอกให้รู้ว่า ยังมีคนอยากได้ของนะคะ
*ด้วยเหตุนี้ถึงเห็นหุ้นบลูชิพพยายามกลับตัวขึ้นตลอดเวลา ซึ่งบางตัวก็ทำสำเร็จตามใจปรารถนา แต่บางตัวก็ทำไม่สำเร็จตามใจที่ต้องการ “โมนิก้า” ถึงมองรอบการเล่นในเที่ยวนี้เป็นแบบ “เข้าเร็ว ออกเร็ว” หลังกองทุนตัวแสบ กับฝรั่งหัวทองยังสาดหุ้นออกมาไม่เลิก แต่ในขณะเดียวกันก็ได้แรงรับจากแมงเม่าปีกแข็ง และปอบผีฟ้าเข้ามาช่วยพยุงตลาดหุ้น ทุกอย่างเลยดูดีเหมือนเดิมเจ้าค่ะ
*ถึงกระนั้น “โมนิก้า” ก็อยากให้แฟนคลับพิจารณาถึงแรงรับที่เข้ามาจะเอาอยู่ไหม? เพราะสถานการณ์ก่อนที่ดัชนีจะรูดลงมาอยู่ใต้ 1,400 จุด ก็ออกมาในแนวนี้เหมือนกัน! เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้…มันอยู่ที่นักลงทุนสถาบันในประเทศ และต่างประเทศ วันนี้ถึงไม่ต้องไปถามหาเหตุผลที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เพราะสุดท้ายมันก็เป็นเพียงมันนี่เกมพะยะค่ะ
*เหมือนกับการทรุดตัวลงของ KBANKลงมาอยู่ที่ 173 บาท ลบไป 9 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.45 พันล้านบาท “โมนิก้า” สังหรณ์ใจว่า คงมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับแบงก์อีกมั้ง! ถึงมีแรงเทขายถล่มออกมาแบบไม่มีเยื่อใย บวกกับวานนี้ “เสี่ยปั้น” ออกมาหัวร่อต่อกระซิกกับพรายกระซิบสาวว่า เรื่องการปล่อยกู้ JASมันบอกไม่ได้จริงๆ เพราะเป็นความลับของลูกค้า คนในวงการเลยอนุมานกันเอาเองว่า การอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วของหุ้นแบงก์สีเขียว คงเป็นผลพวงจากความลับที่ว่ากระมั้ง!
*หากเกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าวจริงๆ การที่หุ้น JASเด้งขึ้นมาปิดที่ 3.60 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 4.65% ด้วยมูลค่า 1.90 พันล้านบาท น่าจะสัมพันธ์กับเรื่องข้างต้นไม่มากก็น้อย “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นหาจังหวะโหนกระแสให้ดีเป็นพิเศษ เพราะไม่รู้ว่า การทะยานขึ้นเที่ยวนี้จะยาวนานแค่ไหน? แถมทุกอย่างยังคลุมเครือแบบนี้..มีเสียวสันหลังพะยะค่ะ
*ตรงกันข้ามกับในรายของ IRPCเพราะรายนี้มีทีเด็ดทีขาดซ่อนไว้เพียบ และในเร็วๆ นี้จะเริ่มคายทีเด็ดออกมาให้เห็นอย่างแน่นอน นักเล่นเลยกระโจนเข้าใส่กันอย่างเมามัน ส่งผลให้อาการเสียศูนย์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนหายเป็นปลิดทิ้ง พร้อมกับกระชากขึ้นมาปิดที่ 5 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่แน่นขนัดแบบนี้..วันนี้มีลุ้นไปต่อเจ้าค่ะ
*ไซเคิลดังกล่าวคล้ายคลึงกับ CHGก่อนหน้านี้ไล่ราคากันอย่างเมามัน พอผ่านไปสักระยะก็โดนเทขายทำกำไร ต่อจากนั้นก็ลงหลักปักฐาน พร้อมกับเคลื่อนตัวออกด้านข้าง ล่าสุดกระชากขึ้นมาปิดที่ 2.68 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 7.20% ด้วยมูลค่า 360 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะ followที่ต้องเล่นทันที ไม่มีเวลาต้องมานั่งคิดอะไรมากมายนะจะบอกให้
*ส่วนในรายของ CKPเห็นกระชากขึ้นมาอย่างร้อนแรง ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 2.36 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 6.30% ด้วยมูลค่า 240 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นความเสี่ยงของนักเล่นโดยตรง แถมรอบนี้วิ่งขึ้นมาชนเส้นแนวต้าน 200 วันที่ระดับ 2.46 บาท มันเป็นสถานการณ์ที่นักเล่นต้องคิดมากหน่อย หากผ่านขึ้นไปอย่างแข็งแกร่ง รอบนี้ยาวแน่นอน..หากไปไม่ไหว ก็ทรุดตัวลงไปที่ฐาน 2.20 บาทเจ้าค่ะ
*อีกหนึ่งรายที่มีทรงคล้ายกันสุดๆ โมนิก้า” ขอหันไปมองที่ VGI เป็นตัวถัดมาในทันที! เพราะการขึ้นเที่ยวนี้เรียกเสียงฮือฮาได้มากพอสมควร แถมแพทเทิร์นของหุ้นเป็นลักษณะพักฐาน 3-4 วัน ต่อจากนั้นกระชากขึ้นอย่างร้อนแรง 2 วันติดๆ ก่อนจะมาปิดที่ 4.82 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 5.20% ด้วยมูลค่า 270 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่น่าสนใจจริงๆ นะตัวเอง
*สำหรับหุ้นที่ขึ้นแรงชนิดไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมอย่าง TNHก็กลายเป็นหุ้นอันตรายที่แฟนคลับต้องเฝ้าระวังให้ดีเป็นพิเศษ เพราะการขึ้นเที่ยวนี้มาจากแรงเก็งกำไรเพียวๆ ไม่มีอะไรเป็นแบ็กอัพอย่างที่ควรจะเป็น เนื่องจากความเชื่อที่ว่า กำไรจะโตระเบิดระเบ้อมันเป็นเพียงเรื่องที่คนวงในรู้กันเฉพาะกลุ่ม ส่วนคนข้างนอกอย่างเราๆ ท่านๆ จะเข้าไปเล่นเกมของคนอื่นทำไม ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 36 บาท บวกไป 5.50 บาท หรือขึ้นไป 18% ด้วยมูลค่า 200 ล้านบาท โดยเป็นการเทรดบนค่า P/E 22 เท่า เป็นการเทรดที่สูงหรือต่ำเกินไป..ลองไปถามผู้รู้กันดูนะคะ