โฟกัสรายตัว โมนิก้าและทีมงาน

*ในช่วงที่ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความผันผวน นักลงทุนรายใหญ่เริ่มแขยง ความบางอย่างเริ่มแตก เกมหุ้นไม่เป็นไปตามแผน คนในการวงการโดนสอยมากขึ้น และในเร็วๆ นี้อาจมีคนโดนสอยเพิ่ม ฯลฯ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้นักเล่นเริ่มรู้สึกท้อแท้ก็จริง แต่ไม่ควรละทิ้งการเฝ้าติดตามข่าวสารในแวดวงตลาดหุ้น เพื่ออ่านเกมหุ้นในช่วงถัดไปว่าจะเป็นแบบไหนนะคะ


*ในช่วงที่ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความผันผวน นักลงทุนรายใหญ่เริ่มแขยง ความบางอย่างเริ่มแตก เกมหุ้นไม่เป็นไปตามแผน คนในการวงการโดนสอยมากขึ้น และในเร็วๆ นี้อาจมีคนโดนสอยเพิ่ม ฯลฯ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้นักเล่นเริ่มรู้สึกท้อแท้ก็จริง แต่ไม่ควรละทิ้งการเฝ้าติดตามข่าวสารในแวดวงตลาดหุ้น เพื่ออ่านเกมหุ้นในช่วงถัดไปว่าจะเป็นแบบไหนนะคะ

*วินาทีนี้ต้องโฟกัสรูปแบบการลงทุนให้ชัดเจน อย่าโอนอ่อนไปตามกระแสเป็นอันขาด ใครคิดว่า เรื่องนี้ดี ก็ทำต่อไป ใครคิดว่า เรื่องนี้ไม่ดี ก็ถอยไป “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นเข้าใจรูปแบบที่ตนเองถนัด อย่าไปฟังเสียงนกเสียงกาให้มาก ในเมื่อเป็นเงินในกระเป๋าของเรา ก็ควรให้ตัวเราเองเป็นคนตัดสินใจ นาทีนี้ถึงต้องพุ่งเป้าไปที่ระยะเวลาที่จะรอรับผลตอบแทนพะยะค่ะ

*เนื่องจากอาการฉวัดเฉวียนของดัชนีตลอดทั้งวัน กลายเป็นเครื่องยืนยันการเข้าลงทุนต้องเน้นเรื่อง “ซอยถี่ๆ” แถมรีเทิร์นในแต่ละรอบหวังผลได้แค่ 5-7% ดัชนีถึงแกว่งตัวในลักษณะ side way เป็นส่วนใหญ่ บวกกับผู้เล่นหลักๆ ไม่มั่นใจในการลงทุน ส่งผลให้ดัชนีปิดได้แค่ระดับ 1,405.41 จุด ลบไป 6.75 จุด ด้วยมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท สะท้อนถึงผู้เล่นบางส่วนไม่เน้นการถือหุ้นไว้นานๆ เจ้าค่ะ

*ในเมื่อทุกอย่างยังสับสน ข่าวสารยังไม่ชัดเจน แต่อารมณ์ของนักเล่นกระเจิดกระเจิง JASIF เลยได้รับผลกระทบตามไปด้วยเต็มๆ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เห็นเม่าทิ้งหุ้นกันอุตลุด เพราะนักเล่นกลัวบริษัทลูก 3BB จะไม่ได้ต่อสัญญาจากภาครัฐ(สัญญาหมดตั้งปี 2569) เลยพากันทิ้งหุ้นอย่างหนักหน่วง จนดิ่งลงมาปิดที่ 8.25 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 3%  ด้วยมูลค่า  475 ล้านบาท กลัวเกินกว่าเหตุหรือเปล่าจ๊ะ

*อีกรายที่มีอาการหนักหนาสาหัส “โมนิก้า” คงพุ่งเป้าไปที่ PTTEP เป็นลำดับแรก ตั้งแต่เช้าจรดเย็นโดนถล่มจนไม่เหลือซาก หุ้นเลยลงมาปิดที่ระดับ 66.25 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 4%  ขณะที่ภาคบ่ายอาการยังไม่มีดีขึ้น สภาพของหุ้นเลยโค้งลงเรื่อยๆ คิดดูแล้วกัน.. 2 สัปดาห์ก่อนหุ้นอยู่แถว 80 บาท พอหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ แรงเทขายทยอยออกมาเรื่อยๆ  เดี๊ยนถึงบอกได้แค่ว่า ก้มหน้าก้มตาทำงานไปเถอะ ผลงานออกมาดีเมื่อไหร่ เมื่อนั้นหุ้นจะขึ้นเอง! ช่วงนี้หลบไปเลียแผลใจชั่วคราวก็แล้วกัน!..รักนะ จุ๊บ..จุ๊บ

*เหมือนกับในรายของ BCP ก่อนหน้านี้ประคองตัวแถวแนวรับ 32 บาท  พอถึงคิวต้องเลิกอย่างเป็นทางการ หุ้นก็เละเป็นโจ๊ก เหตุผลไม่มีอะไรมาก แค่ปัจจัยพื้นฐานไม่หนุน เลยไม่มีคนเข้ามารับของ หุ้นถึงไหลลงทุกวัน ล่าสุดหุ้นลงมาปิดที่  29.75 บาท ลบไป 0.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 140 ล้านบาท “โมนิก้า” ขอแนะนำ ใครยังเชื่อว่า หุ้นจะขึ้นได้อีก ขอให้ยกมือขึ้น..ใครยังไม่เข็ด ก็ขอให้ยกมือขึ้น..อิอิอิ

*ไหนๆ พูดถึงของร้อนขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงหันไปมองหุ้น GL เพื่อเสนอเป็นทางเลือกให้กับพวกฮาร์ดคอร์ ประเด็นการเล่นเที่ยวนี้ยังเป็นแบบพื้นๆ เนื้อหาที่นำมาเป็นข่าวยังพุ่งเป้าไปที่เรื่องกำไรน่าจะขยายตัวจากปี 58 แถมได้รับแรงหนุนจากมือที่มองไม่เห็นเข้ามาช่วยเป็นระยะ จนทำยอดใหม่ไว้แถว 23 บาท ขณะที่วานนี้หุ้นปิดที่ 19.90 บาท ลบไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่า 91 ล้านบาท บอกได้แค่ว่า มันเป็นเกมหุ้นที่ต้องตามให้ทันเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ EFORL  บางวันออกอาการกระดี๊กระด๊าอย่างออกหน้าออกตา ก็ไม่ได้ทำให้หุ้นตัวนี้มีคุณค่ามากกว่าที่ผ่านมาสักเท่าไหร่ แถมข้อมูลเก่าในช่วงหลายเดือนฟ้องว่า หุ้นมักมีวอลุ่มโป่งขึ้นมากะทันหัน แต่หลังจากนั้นมักดันราคากันเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงกล้านำเสนอเผือกร้อนชิ้นนี้ บวกกับหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 0.70 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 2.80%  มันเป็นจุดเด้งสั้นๆ ของคนที่ชอบความเสี่ยงนะจะบอกให้

*ผิดกับในรายของ EA  คืออีกหนึ่งรายที่กลายเป็นที่จับตาของเหล่านักเล่น หลังมีการรายงานความคืบหน้าของโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง บวกกับข่าวล่าสุดที่แพร่งพรายออกมากับสายลม เม้าท์กันให้แซ่ดว่า กองทุนเข้าปุ๊บ..หุ้นขึ้นปั๊บ  “โมนิก้า” ถึงเกิดอาการหูผึ่งขึ้นมาในทันที แถมราคาหุ้นในกระดานเด้งขึ้นมาปิดที่ 23.10 บาท บวกไป  1.30  บาท หรือขึ้นไป 6% มันทำให้หุ้นสุดเลิฟของเดี๊ยนตัวนี้เปล่งรัศมีสุดๆ ก็บอกตั้งหลายครั้งว่า ของเขาดี..เชื่อกันหรือยังค่ะ

*สถานการณ์ดังกล่าวตรงกันข้ามกับป้ายุพา UPA ซึ่งมีเรื่องลึกลับเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย และในหมู่แมงลือยังมีการพาดพิงไปถึงก๊วนต่างๆ ตั้งมากมาย “โมนิก้า” ในฐานคนที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ แบบห่วงๆ ก็คงทำได้แค่ยืนดูเฉยๆ..ในเมื่อหุ้นมาด้วยเกมราคา ตอนจากไป ก็ต้องไปด้วยเกมราคา ขณะที่วานนี้หุ้นขึ้นมาปิดที่ 0.92 บาท บวกไป 0.04บาท หรือขึ้นไป 4.50% มันจะเล่นกันนานแค่ไหนกันเชียว!

*ส่วนในรายอของ BEM  หลายคนถามไถ่เข้ามามากเหลือเกินว่า มีอะไรกับหุ้นตัวนี้หรือเปล่า! ทำไมเจ๊ถึงเชียร์ออกนอกหน้า “โมนิก้า” เลยขอตอบแบบให้กระจ่างชัดไปเลยว่า ของเขาดีจริงๆ  เม้าท์ถึงบ่อยๆ มันจะเสียหายตรงไหน..คิดดูซิ! ต้นสัปดาห์ก่อนหุ้นขึ้นมาถึง 5.50 บาท หลังจากนั้นอ่อนตัวลงมายืนแถว 5 บาท ซึ่งวนเวียนเล่นกันแบบนี้นานถึง 4 อาทิตย์ด้วยกัน มันน่าเม้าท์ถึงไหมล่ะ! ล่าสุดหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 5.45 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4.8%  ด้วยวอลุ่ม 1.20 พันล้านบาท มันสื่ออะไร..คุณเท่านั้นที่รู้นะจ๊ะ

 

Back to top button