ผู้ร้าย…ขวัญใจขาฮาร์ดแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
ทอล์กออฟเดอะทาวน์ตลอด 2 สัปดาห์นี้หนีไม่พ้นเครือข่ายกลุ่ม บริษัท จัสมินอินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด (มหาชน) หรือ JASที่มีหลักทัพย์เกี่ยวเนื่องในตลาดอีก 3 รายการโยงใยด้วยคือบริษัทโมโนบรอดคาซท์จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ตามมาด้วยบริษัทจัสมินเทเลคอมซิสเต็มส์จำกัด (มหาชน) หรือ JTSและกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน JASIF
ทอล์กออฟเดอะทาวน์ตลอด 2 สัปดาห์นี้หนีไม่พ้นเครือข่ายกลุ่ม บริษัท จัสมินอินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด (มหาชน) หรือ JASที่มีหลักทัพย์เกี่ยวเนื่องในตลาดอีก 3 รายการโยงใยด้วยคือบริษัทโมโนบรอดคาซท์จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ตามมาด้วยบริษัทจัสมินเทเลคอมซิสเต็มส์จำกัด (มหาชน) หรือ JTSและกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน JASIF
ราคาหลักทรัพย์ทั้ง 4 ผันผวนไปกับความไม่แน่นอนโดยที่ผู้บริหารตลาดฯก็นั่งตาปริบๆปล่อยให้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาปล่อยให้นักลงทุนระดับแมงเม่าเสี่ยงตายกับความบ้าบิ่นดาบหน้า
ถ้าหากดูอย่างคนเสมอนอกปรากฏการณ์ของ JAS ที่เกิดขึ้นสนุกและเร้าใจยิ่งกว่าดูภาพยนต์แอ็กชั่นดราม่าประเภทบู๊ล้างผลาญระดับอาโนลด์ชวาร์เซนเน็กเกอร์บวกแรมโบ้ซิลเวสเตอร์สตาโลนหลายเท่า แถมยังมีฉากหักมุมชนิดคาดเดายากสลับเข้าไปอีก
ประเด็นปัญหาดราม่าเรื่อง JAS นี้อยู่ที่ว่าเรื่องนี้ดันไม่มีพระเอกแล้วคนดูก็ไม่อยากดูพระเอกเสียด้วยเหตุผลก็เพราะตัวเอกของเรื่องดันเป็นผู้ร้ายเสียนี่
ส่วนจะร้ายก็รักหรือ “ตบจูบ…ตบจูบ” ก็พิจารณากันเอาเอง….แล้วแต่สบายใจก็แล้วกัน
เสี่ยพิชญ์โพธารามิกมีชื่อฮิตติดปากผู้คนในตลาดหุ้นไทย….ยิ่งกว่าดามพ์ดัสกรในอดีตของภาพยนตร์ไทยหรือจอห์นมัลโควิทซดาราระดับออสการ์ฮอลลีวูดที่เล่นบทคนดีไม่ดังต้องผู้ร้ายถึงจะขายได้
บทบาทระดับผู้ร้ายระดับพระกาฬ “เรียกพี่” อย่างนี้เกิดขึ้นจากพฤติกรรมสารพัดที่เกิดขึ้นเวลาอันรวดเร็วนับแต่
– บริษัทแจสโมบายบรอดแบนด์จำกัด (แจสโมบาย)ไม่ได้จ่ายค่าใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ 900 MHz เมื่อครบเวลาเส้นตาย 3 เดือนของกสทช. ทั้งที่ลุ้นกันจนนาทีสุดท้ายแล้วบอกชนิด “หัวหมอ” ว่ากลุ่มบริษัทมีความรับผิดชอบเพียงจะถูกริบเงินประกันการประมูลจำนวน 644 ล้านบาทเท่านั้นโดยไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดค่าเสียหายใดๆ เพิ่มเติม (อ้างถึง ข้อ 6. วรรคท้ายของประกาศกสทช. และข้อ 5 วรรค 2 ของหนังสือยินยอมของผู้ขอรับใบอนุญาตแนบท้าย)และ ไม่ได้เป็นเหตุเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมอื่นๆ ของกลุ่มบริษัท ด้วย และจำนวนเงินประกันที่ถูกริบไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะทางการเงินเนื่องจากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมของบริษัทแล้วคิดเป็นเพียง 1.27% เท่านั้นและเงินประกันการประมูลที่ถูกริบก็มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทในปี 59 รวมจำนวน 644 ล้านบาท
– การแถลงข่าวหลังจาก “เบี้ยว” ไม่จ่ายค่าใบอนุญาตซึ่งมีการเตรียมการอย่างดีแต่ยกเลิกกลางอากาศทำให้สื่อออกอาการเหวอทั่วหน้า
– ราคาหุ้น JAS และอื่นๆ ในเครือปั่นป่วนทั้งขึ้นและลงอย่างหนักโดยเฉพาะ JAS นั้นอาศัยข่าวซื้อหุ้นคืน 16% ในราคา 5 บาทมาหล่อเลี้ยงความโลภของแมงเม่าทำให้ราคายืนเหนือ 3.50 บาทโดยตลอดไม่ยอมลง
– ภาพลักษณ์ของเสี่ยพิชญ์ถูกละเลงให้เลวร้ายหนักจากสื่อต่างๆ ในฐานไจอมเบี้ยวรายล่าสุด โดยที่ถล่มหนักชนิด “เลี้ยงข่าวทั้งวัน” คือค่ายทรูวิชั่นส์นั่นเอง … จะเพราะระบายที่ถูกหลอกให้ “เสียค่าโง่” หรืออะไรก็สุดคาดเดา
-ราคาหุ้นโทรคมนาคมอย่าง ADVANC DTAC และ TRUE ถูกฉวยโอกาสจากแรงซื้อลากกันเริงร่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาฉลองข่าวเบี้ยวจ่ายของ JAS เอิกเกริก
– เจ๊ตู่ธรรมาภิเบี้ยวที่บริหารกองทุน JASIF ยังยืนยันว่าอารมณ์ยังไม่ได้สึกหรออะไรกับกรณีแจสโมบาย … ช่วยการันตีคุณภาพหุ้น JAS ทางอ้อมได้ในระดับหนึ่ง
ปรากฏการณ์ “สหบาทา” ครั้งนี้ของเสี่ยพิชญ์แม้จะมีคำถามตามมาว่าบริษัทในเครือจะถูก “หางเลข” จากกสทช.ด้วยมั้ยก็เป็นเรื่องที่นักลงทุนอยากรู้เช่นกัน
เรื่องนี้ก็มีข่าวดีบางส่วนเกิดขึ้นเช่นกรณีของ MONO ปรกฏว่ากสท.ออกมายืนยันเรียบร้อยว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของช่องโมโนทีวี
ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ยังต้องรอมติในอีกเดือนข้างหน้า เพียงแต่เรื่องประมูลคลื่น 4G ในย่าน 900 MHz ที่ JAS ถูกตัดสิทธิ์นั้นไม่ไม่ปัญหาอะไรและการที่ กทค.ออกกติกาใหม่ป้องกันเบี้ยวประมูลคราวต่อไปแบบ “วัวหายค่อยล้อมคอก” เช่นเพิ่มหลักประกันเป็น 10-30% นั้นไม่เกี่ยวกับ JAS อีกแล้ว
การเสี่ยพิชญ์ลอยนวลในความเงียบอย่าง “ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว” อย่างนี้…. เข้าสูตร “มังกรซ่อนกาย” รอเวลากลับมาเมื่อการซื้อคืนหุ้น JAS ในราคา 5.00 บาทจำนวน 16% มีผลจริงจัง
ผู้ร้ายตัวจริง… ต้องเรียนรู้ที่จะหายตัวในซอกหลืบได้ทนทายาทเพราะ “อันนินทากาเลเหมือนเทแกลบไม่เจ็บแสบเหมือน……..” (เติมเอาเองจ้า)
อย่างไรเสียจากนี้จนกว่าจะถึงเดือนเมษายนเสี่ยพิชญ์ก็ยังคงจะมีนักลงทุนระดับแมงเม่าถวิลหา… เป็นผู้ร้ายก็ยังมีคนกดไลค์กระฉูด…. ในฐานะขวัญใจนักลงทุนขาฮาร์ดขาเฮ้ว!!!!
พี่พิชญ์ขา….รักนะจุ๊บจุ๊บ
เว้นเสียแต่ว่าจะเล่นบทผู้ร้ายแบบหักข้อสอบอีกครั้งอาทิ… ยกเลิกมติซื้อหุ้นคืน… อย่างนี้ตัวใครตัวมันเลยจ้า…กล้าบ้าบิ่นขนาดไหน …. ก็คงต้องใส่ตีนหมาแน่นอน