เกิดอาการลังเล!โมนิก้าและทีมงาน

*ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยจะเกิดอาการเครื่องสะดุด จึงมีการเปลี่ยนแปลงจากผู้ซื้อกลายเป็นผู้ขาย และผู้ขายกลายเป็นผู้ซื้อ จนแต่ละฝ่ายเลือกที่ใช้วิธีชะลอการลงทุน วานนี้ถึงเห็นดัชนีแกว่งตัวไปมาทั้งแดนบวกและแดนลบ ก่อนจะลงเอยด้วยการปิดที่ 1,392.85 จุด บวกไป 3.84 จุด ด้วยมูลค่า 3.56 หมื่นล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า พวกนี้ยังนิยมการเล่นสั้นพะยะค่ะ


*ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยจะเกิดอาการเครื่องสะดุด จึงมีการเปลี่ยนแปลงจากผู้ซื้อกลายเป็นผู้ขาย และผู้ขายกลายเป็นผู้ซื้อ จนแต่ละฝ่ายเลือกที่ใช้วิธีลอการลงทุน วานนี้ถึงเห็นดัชนีแกว่งตัวไปมาทั้งแดนบวกและแดนลบ ก่อนจะลงเอยด้วยการปิดที่ 1,392.85  จุด บวกไป 3.84 จุด ด้วยมูลค่า 3.56 หมื่นล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า พวกนี้ยังนิยมการเล่นสั้นพะยะค่ะ

*ประกอบกับกองทุนตัวแสบยังรินหุ้นออกมาเรื่อยๆ “โมนิก้า” ถึงไม่เชื่อว่า ดัชนีจะขึ้นไปยืนเหนือ 1,400 จุดอย่างมั่นคง เพราะตามตำราที่มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร มีการยืนยันอย่างชัดเจนว่า หุ้นขึ้นด้วยวอลุ่มที่เบาบาง ไม่มีทางยกฐานแนวรับใหม่ได้อย่างมั่นคง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดที่ทุกคนพยายามเปลี่ยนกลุ่มหุ้นที่เล่นกันไปเรื่อยๆ นะจะบอกให้

*เนื่องจากสถานการณ์ในแต่ละวันมีเรื่องราวเยอะแยะมากมาย แถมนักลงทุนยังแตกกันเป็นก๊กเป็นเหล่า การไล่ซื้อหุ้นแต่ละรอบที่เกิดขึ้นถึงเป็นแบบไม่สุดซอย เพราะทุกคนจ้องจะเอากำไรแค่ 3-5% ต่อจากนั้นก็ชิ่งหนีไปตามระเบียบรัตน์ “โมนิก้า” พยายามชี้ช่องต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนเป็นประจำ เพราะเกมหุ้นเที่ยวนี้เปลี่ยนเร็วมากเหลือเกินเจ้าค่ะ

*ตัวอย่างดังกล่าวดูได้จากท่าทีของหุ้น ADVANC  TRUE  DTAC ทั้งสามตัวขึ้นมาในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน พอถึงช่วงลงกลับกลายเป็นว่า ตัวแรกยืนระยะอยู่ได้ สองตัวหลังเริ่มอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับพิจารณาถึงการเข้าทำเร็วมากกว่าเรื่องปัจจัยพื้นฐาน เพราะวันนี้ยังไม่มีอะไรแน่นอนตายตัวสักเรื่อง ส่งผลให้คำตอบของการลงทุนเที่ยวนี้อยู่ที่ใครจะเป็นเจ้าภาพดันหุ้นพะยะค่ะ

*ส่วนที่เรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้วแน่ๆ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ LHBANK ประกาศอย่างเป็นทางการว่า พันธมิตรจากไต้หวัน CTBC เข้าซื้อหุ้น PP ในราคาหุ้นละ 2.20 บาท จำนวน 7.54 พันล้านหุ้น ซึ่งใช้เงินไปทั้งสิ้น 1.60 หมื่นล้านบาท คือชนวนเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 2.02 จุด บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 4.66% ด้วยมูลค่า 688 ล้านบาท ซึ่งจุดนี้ตีความต่อไปได้ว่า ราคาหุ้นจะยกตัวสูงขึ้นอีก เพราะแวลูของตัวธุรกิจเปลี่ยนไปจากเดิมค่อนข้างเยอะ วันนี้ถึงต้องใส่กันให้เต็มข้อ…อิอิอิ

*เหมือนกับในรายของ CPF หากติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง “โมนิก้า” เชื่อได้อย่างสนิทใจว่า การเติบโตของกำไรย่อมดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และการที่หุ้นเด้งขึ้นรอบ 2 เพื่อทดสอบแนวต้าน 24 บาทอีกครั้ง ย่อมเป็นอะไรที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แม้วานนี้จะลงเอยด้วยการปิดแค่ระดับ 23.70 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 730 ล้านบาท แต่วันนี้ก็ยังมีลุ้นวิ่งทะลุอีกครั้งนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ GLOBAL พอคุณพี่ “วิทูร” แสดงสปิริตด้วยการยื่นใบลาออกอย่างเป็นทางการ หุ้นที่เคยมีอาการเซื่องๆ ซึมๆ ก็เด้งขึ้นมาปิดที่ 9.80 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่คึกคัก “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่สอนให้รู้ว่า ทุกคนย่อมทำผิดพลาดกันได้ เมื่อยอมรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่บ่ายเบี่ยง นี่ซิ..ลูกผู้ชายตัวจริงนะฮะ

*ส่วนหุ้นที่ “โมนิก้า” รู้สึกชอบมาพักใหญ่ๆ และยังคงชื่นชอบต่อไปเรื่อยๆ คงหนีไม่พ้น PLANB เพราะเห็นกันอย่างทนโท่ว่า มีการเติบโตค่อนข้างดี และยังมีกิมมิคที่น่าสนใจหลายอย่าง แต่เผอิญผู้บริหารเก็บตัวเงียบไปหน่อย ข่าวสารที่สำคัญเลยเกิดการขาดช่วงขาดตอน เดี๊ยนจึงไม่สามารถอธิบายการขึ้นมาปิดที่ 6.60 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 4.80% เกิดจากอะไรกันแน่ๆ..อิอิอิ

*ผิดกับในรายของ CHO เด้งขึ้นมาปิดที่ 2.22 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 7.77% “โมนิก้า” มองปุ๊บก็รู้ปั๊บ โครงการขนาดใหญ่มูลค่าหลายพันล้านกำลังรออยู่ และคนที่ติดตามข่าวของบริษัทนี้มาเป็นเวลานาน ย่อมพอจะเห็นภาพด้านบวกแบบสุดลิ่มทิ่มประตู และสิ่งที่เม้าท์ได้อย่างเต็มปากเต็มคำในเที่ยวนี้ก็คือ ให้มันรู้ซะบ้าง..ใครเป็นคนดันโปรเจ็กต์ระบบรางที่ขอนแก่นเจ้าค่ะ

*ไหนๆ อ่านเกมธุรกิจกันทั้งที “โมนิก้า” ไม่พูดถึงคุณป้ามหาภัย UPA ก็คงดูกระไรอยู่ ? เพราะชาวบ้านชาวเมืองต่างให้ความสนใจอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ล่าสุดหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1.07 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 4.50% มันหมายถึงอาการรูดม่านชั่วคราว เพื่อรอเล่นรอบใหม่ เพราะมุกเริ่มฝืด หรือไม่อาจเป็นการเขย่าเอาของ เพื่อพิสูจน์แฟนพันธุ์แท้..งานนี้ใครเชื่อแบบไหน วันนี้รู้ผลนะคะ

Back to top button