ทรงเดิม?โมนิก้าและทีมงาน

*ก่อนอื่นขอยอมรับตรงๆ ว่า เดี๊ยนเป็นคนที่สนใจเรื่องราวในอดีตแบบสุดลิ่มทิ่มประตูก็จริง แต่ไม่ได้หมกหมุ่นจนไม่เป็นอันทำอะไร จึงชอบเม้าท์ถึงเรื่องเก่าๆ ให้ฟังเป็นประจำ เพราะเชื่อว่า แนวทางดังกล่าวยังเป็นประโยชน์กับการลงทุน และอย่าลืมว่า การลงทุนในทุกยุคทุกสมัย ยังให้น้ำหนักไปที่เรื่องตัวเลขเป็นลำดับแรกเสมอ จึงต้องตีความทุกอย่างออกมาให้ได้นะคะ


*ก่อนอื่นขอยอมรับตรงๆ ว่า เดี๊ยนเป็นคนที่สนใจเรื่องราวในอดีตแบบสุดลิ่มทิ่มประตูก็จริง แต่ไม่ได้หมกหมุ่นจนไม่เป็นอันทำอะไร จึงชอบเม้าท์ถึงเรื่องเก่าๆ ให้ฟังเป็นประจำ เพราะเชื่อว่า แนวทางดังกล่าวยังเป็นประโยชน์กับการลงทุน และอย่าลืมว่า การลงทุนในทุกยุคทุกสมัย ยังให้น้ำหนักไปที่เรื่องตัวเลขเป็นลำดับแรกเสมอ จึงต้องตีความทุกอย่างออกมาให้ได้นะคะ

 *ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” จึงขอพูดถึงแพทเทิร์นที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นข้อมูลให้นักเล่นเข้าใจรูปแบบการเคาะขวาแบบสุดซอย! สุดท้ายก็เป็นเพียงมันนี่เกมที่เห็นกันครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งเห็นได้จาก 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ดัชนีทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง พร้อมกับขึ้นมายืนแถวๆ 1,412 จุด ถัดมาอีกวันดัชนีอ่อนตัวลงมายืนแถว 1,405 จุด ต่อจากนั้นก็รูดลงมาพักตัวที่ 1,390 จุด..จำได้ไหมค่ะ

*ส่วนสัปดาห์นี้ ดัชนีกระชากขึ้นอย่างร้อนแรงเหมือนกัน ก่อนจะไปจบแถวบริเวณ 1,410 จุด ขณะที่วานนี้ดัชนีย่อตัวลงมายืนแถว 1,407.70 จุด “โมนิก้า” ถึงอยากถามนักเล่นว่า “รอบก่อนหน้า” กับ “รอบล่าสุด” มันมีความเป็นไปได้ที่จะเดินมาทรงเดียวกันขนาดไหน? หากคิดว่า เหมือนกันอย่างกับแกะ ต้องรีบปล่อยของออกไปก่อน หากคิดว่า ไม่เหมือนกัน ก็ต้องรอดูกันต่อไปเจ้าค่ะ

*หากเม้าท์ถึงเรื่องพรรค์นี้ “โมนิก้า” คงต้องเจาะไปที่หุ้น PTTเพราะก่อนหน้านี้ก็ขึ้นไปถึง 293 บาท ต่อจากนั้นรูดลงมาแถว 270 จุด ขณะที่รอบนี้วิ่งขึ้นไปถึง 293 บาทเช่นกัน ต่อจากนั้นค่อยๆ อ่อนตัวลงมา จนวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ 280บาท ลบไป 7 บาท  แถมมีเส้นแนวรับ 25 วัน ค้ำยันไว้ที่ 275 บาท จึงเป็นช่วงเวลาที่นักเล่นต้องคิดกันเอาเองว่า วันนี้จะเล่นตัวนี้ หรือ หันไปเล่นตัวอื่นพะยะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ JASเด้งขึ้นจากบริเวณ 3 บาท ขึ้นไปหา 4 บาท ต่อจากนั้นลงมายืนแถว 3.20 บาท แล้วเด้งกลับอย่างช้าๆ 3 วันติด จนวานนี้ขึ้นมายืนอยู่ที่ 3.48 บาท บวกไป 0.08 บาท ด้วยมูลค่า 520 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมที่นักเล่นต้องใช้ความคิดมากพอสมควร เพราะในมุมของสัญญาณเทคนิค ยังเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ แต่ถ้ามองในแง่พื้นฐาน ก็เป็นอะไรที่เสี่ยงเหมือนกันเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ JUTHAหากมองบนหน้าเสื่อที่เกิดขึ้นซ้ำซากหลายรอบ “โมนิก้า” ยังมองไม่ออกสักทีว่า หุ้นจะแรลลี่ยาวได้อย่างไร? ในเมื่อประเด็นที่หยิบขึ้นมาเล่นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มันเป็นเรื่องเทิร์นอะราวด์ล้วนๆ สุดท้ายก็ทำไม่ได้เหมือนกับที่ผู้คนคาดหวัง หุ้นถึงรูดจากระดับ 6 บาท ลงมานอนแอ้งแม้งที่ 2 บาท ขณะที่วานนี้หุ้นขึ้นมาปิดที่ 3.32 บาท บวกไป 0.42 บาท หรือขึ้นไป 14.50% ด้วยมูลค่า 190 ล้านบาท ควรจะ “เข้าเร็ว ออกเร็ว” นะตัวเอง

*โครงสร้างดังกล่าวคล้ายคลึงกับ INETกระชากขึ้นมาปิดที่ 6.40 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 6.70% ด้วยมูลค่า 200 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นแพทเทิร์นที่ถอดแบบกันมาทุกกระเบียดนิ้ว แต่ที่เว่อร์ไปนิดหนึ่งคงเป็นเรื่องของการทำ new highแถมตัวเลขกำไรที่แสดงออกเมื่อปี 58 ไม่ได้เป็นการการันตีปี 59 กำไรจะโดดเด่น วันนี้ถึงต้องหาจังหวะตัดขายหุ้นออกไปบางส่วนเถอะค่ะ

*ประเด็นนี้คล้ายคลึงกับหุ้นขายไก่TFGกระชากขึ้นอย่างร้อนแรง ทั้งที่ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปอย่างช้าๆ ก็ได้ จู่ๆ พุ่งขึ้นมาปิดที่ 1.58 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 10.50% ด้วยมูลค่า 175 ล้านบาท แพทเทิร์นของหุ้นเลยกลายเป็นดาวรุ่งผีพุ่งใต้ เพราะมันไม่มีอะไรมาการันตีการกลับมาทำกำไรอย่างยั่งยืน “โมนิก้า” จึงขอถอยออกมาอยู่วงนอกเป็นการชั่วคราว เพราะภาพของหุ้นเปลี่ยนไปจากที่คาดหวังแล้วนะซี

*เช่นเดียวกับในรายของ SIMหากจะเม้าท์กันแบบตรงๆ ไม่มีอะไรต้องอ้อมค้อม “โมนิก้า” ขอเรียนตามตรงว่า นี่เป็นเกมลากไปเชือดธรรมดาๆ ไม่ได้มีสาระสำคัญที่ต้องจดจำ เพราะเกมการเล่นวันนี้เป็นแบบ ใครเข้าก่อน ใครออกก่อน ลอยตัวสุดๆ ส่งผลให้การวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.09 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 9% แถมเป็นการปิดตรงเส้นแนวต้าน 75 วันแบบนี้..ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า..อิอิอิ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ SMPCหากมองตามท้องเรื่องที่เกิดขึ้น “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่ต้องเล่นตามน้ำ หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 9.80 บาท บวกไป 0.60 บาท  หรือขึ้นไป 6.50% ด้วยมูลค่า 240 ล้านบาท น่าเสียดายที่สัญญาณเทคนิคบางตัวไม่ซัพอร์ต โอกาสที่หุ้นจะวิ่งฝ่าแนวต้าน 10 บาทขึ้นไปอย่างสะดวกโยธิน จึงไม่ใช่เรื่องหมูในอวยเหมือนที่เล่าต่อๆ กันมา..หากวันนี้มีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น ต้องรีบถอยทันทีนะคะ

*ตบท้ายกันที่ป้ายุพา UPAหากมองบนเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นช่วงๆ “โมนิก้า” ยอมรับแบบไม่เขินอายว่า ชอบหุ้นตัวนี้สุดๆ เพราะมีแหล่งรายได้ที่ชัดเจน และเห็นอนาคตได้อย่างแจ่มแจ้ง แต่เผอิญองค์ประกอบดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้นในเวลานี้ ส่งผลให้การขึ้นมายืนที่ 1.09 บาท ลบไป 0.01 บาท ทั้งที่ปี 58 ขาดทุน 400 ล้านบาท หรือ 0.06 บาทต่อหุ้น ขณะที่ปี 59 ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนอีกเหมือนกันแบบนี้..เล่นไม่ไหวมั้ง..อิอิอิ

Back to top button