เอาไข่มา(ช่วย)ทุบหินแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

อีกครั้งที่ ขบวนการไล่ล่า ปตท. พยายามสร้างกระแสฟื้นคืนชีพ ..ในนามของความดีงาม


เอาไข่มา(ช่วย)ทุบหิน

 

อีกครั้งที่ ขบวนการไล่ล่า ปตท. พยายามสร้างกระแสฟื้นคืนชีพ ..ในนามของความดีงาม

นายศรีราชา วงศารยางกูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นเจ้าภาพคนล่าสุด ที่ออกโรงยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง ในข้อหาที่เคยถูกทั้งศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุด “ยกคำร้อง” หรือ ปฏิเสธรับฟ้อง มาแล้วถึง 4 ครั้ง … ครั้งนี้ จึงถือเป็น ครั้งที่ 5

งานนี้ นายศรีราชา อ้างว่า ได้รับคำฟ้องเรื่องนี้จากพ.ท. พ.ญ. กมลพรรค ชีวพันธุ์ศรี และคณะแห่งมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2555 “…จึงได้ปรึกษาหารือและเห็นชอบร่วมกันแล้ว มีความเห็นว่า กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และ บมจ.ปตท. (PTT) ยังไม่ได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนของมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม.2550 และไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย…”

คำถามก็คือ เหตุใด นายศรีราชาจึงใช้เวลายาวนานถึง 4 ปี กว่าจะทำการยื่นฟ้องข้อหาที่ถูกศาลปกครองยกคำร้องมาแล้ว 4 ครั้ง…แล้วทำซ้ำเดิมอีกครั้ง…ไม่ตรงประเด็น เพราะโดยข้อเท็จจริง นายศรีราชา พยายามมีบทบาทมาตลอด …แต่จุดกระแสไม่ขึ้น  

ครั้งแรกสุด นายศรีราชา ได้ส่งหนังสือมายัง ปตท. เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2555  ขอให้ชี้แจงเรื่องการส่งคืนท่อส่งก๊าซธรรมชาติว่าครบถ้วนตามคำพิพากษาหรือไม่อย่างไร เป็นการกระทำก่อนหน้าที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกับพวกรวม 1,455 คน จะยื่นฟ้องศาลปกครองกลาง ในปีเดียวกัน ซึ่ง ปตท. ได้มีหนังสือชี้แจงกลับไปว่า ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งว่า ปตท. ดำเนินการตามคำพิพากษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

วันที่ 4 กันยายน 2557 นายศรีราชา ได้มีหนังสือไปถึง พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้า คสช. แจ้งว่า ปตท. ยังส่งมอบท่อส่งก๊าซธรรมชาติในทะเลและบนบกคืนให้แก่กระทรวงการคลังไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด

เมื่อไม่มีคำตอบใดๆ จาก คสช….ทำให้ต่อมา เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 นายศรีราชา ก็เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนยืนยันว่า ปตท. ส่งมอบทรัพย์สินที่เป็นสาธารณสมบัติคืนกระทรวงการคลังไม่ครบถ้วน แต่หลังจาก ถูกสื่อมวลชนวิพากษ์วิจารณ์ว่ากำลังก้าวล่วงหรือละเมิดคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด..นายศรีราชาก็เงียบไป

ครั้งนี้ จึงเป็นการดำเนินการครั้งที่ 4 ของนายศรีราชา โดยรับไม้ผลัดต่อมาจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ที่หลบไปอยู่ข้างหลัง ชัดเจน

ก้าวย่างล่าสุดนี้ นายศรีราชา ยังคง “ฉายหนังซ้ำ” โดยอาศัยหนังสือแนบความเห็นของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ที่อ้างว่า กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง และ ปตท. ได้ร่วมกันเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ …กรณี ปตท. คืนท่อให้คลังไม่ครบ…ขาดไปมากถึง 52,393 ล้านบาท รวมทั้งค่าตอบแทนและผลประโยชน์อื่นใด โดยใช้ตัวเลขเดียวกันกับที่กลุ่มมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคใช้อ้างกันซ้ำซากนานกว่า 8 ปี รวมทั้งประเด็นซ้ำซากว่า “…คำสั่งของศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2551 อาจจะไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่ได้แนบความเห็นของ สตง. ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 ( ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาไม่เพิกถอนการแปรรูป ปตท.ไปแล้วในวันที่ 14 ธ.ค.2550 ก่อนหน้าหนังสือความเห็นดังกล่าว)เข้าไปด้วย…”  โดยไม่ยอมพูดถึงข้อความของ สตง.เองที่ระบุในหนังสือความเห็นดังกล่าวว่า  “…การดำเนินการแบ่งแยกและส่งมอบทรัพย์สินของ บมจ.ปตท. ให้แก่กระทรวงการคลัง ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด จะครบถ้วนและเป็นไปตามคำพิพากษาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดที่จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดถือเป็นยุติ…”

แล้วก็อีกเช่นกันที่ นายศรีราชาก็ยังร่วมใช้ความพยายามหลงลืมว่า มีข้อเท็จจริงที่รับรู้โดยทั่วไปแล้วว่า  ในวันที่ 10 มีนาคม 2552 สำนักงานศาลปกครองได้มีหนังสือแจ้งไปยัง สตง.ว่า “ได้ติดตามผลการดำเนินการตามคำพิพากษาของผู้ฟ้องคดีทั้งสี่และรายงานให้ศาลทราบ ซึ่งศาลปกครองสูงสุดพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ถึงที่ 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามคำพิพากษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

คำถามคือ นายศรีราชาได้รับรู้ถึงเรื่องราวของการ ที่ได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองฯ มาตั้งแต่ปี 2550-2555 จำนวน 4 ครั้ง และทุกครั้งศาลปกครองฯมีคำสั่งยืนยันว่า ปตท. ได้คืนและแบ่งแยกทรัพย์สินตามคำพิพากษาให้แก่กระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้ว…หรือไม่

รวมทั้งครั้งล่าสุด…เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2558  ศาลปกครองสูงสุดได้อ่านคำสั่งยืนยันอีกครั้งว่า “ปตท. ได้ส่งคืนท่อส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่กระทรวงการคลังครบถ้วนตามคำพิพากษาแล้วตั้งแต่ปี 2551 การขอให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ ปตท. ส่งคืนท่อส่งก๊าซธรรมชาติทั้งหมดอีกนั้น จึงเป็นการดำเนินคดีซ้ำ ศาลไม่อาจรับฟ้องไว้พิจารณาได้อีก”…นายศรีราชา ได้รับรู้หรือไม่

ถ้ารับรู้ แล้วยังเดินหน้าทำเรื่องฟ้องอีกในประเด็นซ้ำซาก ก็คงต้องตั้งคำถามว่า นายศรีราชาและคณะผู้ตรวจการแผ่นดิน มีเจตนาที่แท้อะไร..ทุบหุ้น PTT ให้ใครบางคนมาช้อนของถูก หรือว่า…????

โจทย์นี้  ทำให้มีคำถามตามว่า ภารกิจของ Ombusman ที่แปลมาเป็นไทยว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินนั้น เป็นอิสระเสียจน…หลุดโลกได้มากเพียงนั้นเชียวหรือ

ปรากฏการณ์ “เอาไข่มา(ช่วย)ทุบกำแพง” จึงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก…ขอรับกระผม

Back to top button