จำได้ไหม?โมนิก้าและทีมงาน
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามนี้มีเรื่องตลกร้ายเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งแต่ละประเด็นก็ทำให้สังคมถึงกับอึ้งกิมกี่ เพราะไม่นึกไม่ฝันว่า คนในวงการตลาดหุ้นจะเป็นไปได้เพียงนี้! แต่ถ้ามองในมุมของมันนี่เกม มันก็เป็นเพียงกลยุทธ์ในการสร้างผลตอบแทนให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นการกระทำที่ “โมนิก้า” รู้สึกเฉยๆ เพราะรู้กันอยู่แล้วว่า คนพวกนี้กำลังทำอะไรอยู่ จึงไม่ต้องมาดัดจริตพูดแก้ตัวอะไรทั้งสิ้นเจ้าค่ะ
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามนี้มีเรื่องตลกร้ายเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งแต่ละประเด็นก็ทำให้สังคมถึงกับอึ้งกิมกี่ เพราะไม่นึกไม่ฝันว่า คนในวงการตลาดหุ้นจะเป็นไปได้เพียงนี้! แต่ถ้ามองในมุมของมันนี่เกม มันก็เป็นเพียงกลยุทธ์ในการสร้างผลตอบแทนให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นการกระทำที่ “โมนิก้า” รู้สึกเฉยๆ เพราะรู้กันอยู่แล้วว่า คนพวกนี้กำลังทำอะไรอยู่ จึงไม่ต้องมาดัดจริตพูดแก้ตัวอะไรทั้งสิ้นเจ้าค่ะ
*เนื่องจากคนเล่นหุ้นเริ่มเข้าใจกระบวนการลงทุนมากขึ้น จึงไม่มีใครตื่นเต้นกับสิ่งที่ “ปานามา เปเปอร์” ออกมาแฉ แถมยังสะกิดให้ “โมนิก้า” ดูเส้นทางการโยกย้ายเส้นเอ็นของ “ผีทักษิณ” ที่ใช้ชีวิตสุขสบายอยู่ที่เมืองนอกเมืองนา มันต่างจากคนในวงการตลาดหุ้นที่ถูกพาดพิงหรือเปล่า? มันเป็นข้อมูลที่ทำให้เดี๊ยนสะดุ้งโหยงในทันที เพราะเป็นการเปรียบเปรยที่เห็นภาพได้ชัดเจนสุด
*วันนี้ถึงไม่ต้องวิเคราะห์เหตุผลที่ทำให้ดัชนีปิดที่ 1,356.69 จุด ลบไป 16.90 จุด ด้วยมูลค่า 5.12 หมื่นล้านบาท เพราะข้อมูลที่ปรากฏให้เห็นในเที่ยวนี้ มันเป็นเรื่องของการ “ดันๆ ทุบๆ” โดยกรอบใหญ่ของดัชนียังอยู่ในระดับ 1,350-1,420 จุด ซึ่งเป็นรูปแบบเดิมๆ ที่นักลงทุนเห็นกันจนชิน แต่ดันเกิดอาการรับไม่ได้เมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกครั้ง “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของกระบวนการทางความคิดล้วนๆ นะจะบอกให้
*หากยังจำกันได้! เดี๊ยนเคย ย้ำแล้ว..ย้ำอีก ไม่มีความจำเป็นต้องถือหุ้นติดพอร์ตไว้นานๆ เพราะกรอบการเคลื่อนไหวยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ผนวกกับมีการปรับลด GDP ลงมาเป็นระยะ “โมนิก้า” ถึงมองไม่เห็นปัจจัยที่จะเข้ามาช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการลงทุน สภาพการลงทุนถึงเละเทะสุดๆ ก่อนจะถึงช่วงวันหยุดยาวไงล่ะตัวเอง!
*เหมือนกับเหตุการณ์ที่ ADVANC โดนถล่มอย่างหนักหน่วง จนหุ้นรูดลงมากองอยู่ที่ 153 บาท ลบไป 10 บาท หรือลงไป 6% ด้วยมูลค่า 5 พันล้านบาท โดยมูลค่าการซื้อขายคิดเป็น 10% ของมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งตลาด พร้อมกับโค้งตัวลงอย่างต่อเนื่องแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องไปรอแถว 140 บาทเพื่อความปลอดภัย เพราะอาการรอบนี้หนักกว่ารอบที่แล้วนะคะ
*โดยผลดังกล่าวยังกระทบชิ่งไปหาหุ้นแม่ INTUCH แบบเลี่ยงไม่ได้เสียด้วยบวกกับหุ้นหลุดเส้นแนวรับสำคัญหมดทุกเส้น แถมทุกแท่งเทียนเปิดแก๊ปในช่วงขาลงทุกวัน แต่ราคาหุ้นยังไม่ยอมหยุดลงสักที “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ทำให้หุ้นเสียศูนย์ไปอีกพักใหญ่ๆ และการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 52.25 บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 5.40% ด้วยมูลค่า 1.80 พันล้านบาท เหมือนเป็นการฟ้องว่า หุ้นจะลงไปทำ double bottom ที่บริเวณ 45 บาทอีกรอบไงล่ะค่ะ
*เหมือนกับในรายของ AOT พยายามเกาะแนวรับ 400 บาทอย่างเหนียวแน่น ทำไป..ทำมา ก็เอาไม่อยู่เสียอย่างนั้น! หุ้นเลยรูดลงมาปิดที่ 376 บาท ลบไป 12 บาท หรือลงไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 3 พันล้านบาท แถมเป็นการปิดตรงเส้นแนวรับ 75 วันแบบพอดีพอเหมาะพอเจาะนั้น“โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะน่ารักน่าลุ้นของคนชอบเสียว หากไม่รีบาวด์ขึ้นไปเกาะแนวรับข้างต้น ก็จะรูดลงไปหาเส้นแนวรับ 200 วันที่ 326 บาทนะจะบอกให้
*ส่วนในรายของ RPC กับ SAMCO กว่าจะถึงบางอ้อ!..ก็ทำเอานักเล่นติดยอดดอยกันบานเบอะ เพราะกว่าจะฟ้องร้องเสร็จสมบูรณ์อย่างเป็นทางการ มันใช้เวลาอีกหลายปีเลยทีเดียว แถมฝั่ง PTT ออกมาแย้งตามขั้นตอนของกฎหมายด้วยแล้ว กลายเป็นหนังเรื่องยาวอย่างแน่นอน ซึ่งทำให้ราคาหุ้นทรุดตัวลงมาปิดที่ 0.88 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 6.40% ส่วนรายหลังรูดลงมาปิดที่ 3.82 บาท ลบไป 0.34 บาท หรือลงไป 8.20% มันเป็นภาพที่ฟ้องในตัวของมันเองว่า เฮโลไปตามกระแส โดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ก็จบไม่สวยแบบนี้แหละ!
*เหมือนกับในรายของ AAV ออกมาแบ่งรับแบ่งสู้เรื่องขายหุ้นให้กับ “คิงพาวเวอร์” ทั้งที่สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ไม่มี? เดี๊ยนถึงมองประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่มี “ลับลมคมใน” เพราะกรณีอื่นๆ ที่มีข่าวลือลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ “โมนิก้า” ก็เห็นทุกคนออกมาปฏิเสธเสียงแข็ง จึงขอตีความไปในทางตรงกันข้ามกับคำชี้แจง!..แถมข้อมูลเก่าในอดีตมีการยืนยันถึงการตัดแบ่งหุ้นออกมาขายถึง 2 ครั้งด้วยกัน..มีใครจำเรื่องนี้ได้บ้างไหม? หากจะขายเป็นครั้งที่ 3 ก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกมั้ง..อิอิอิ
*ย้อนกลับมาดูหุ้นพื้นฐานดี อนาคตเจิดจรัสอย่าง BEAUTY เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักเล่นรอบกันบ้างดีกว่า เพราะตั้งแต่ต้นปี 59 ราคาหุ้นขยับไปมาในกรอบ 5-6 บาท แม้เวลาส่วนใหญ่จะใช้ไปกับการย่ำฐาน 5.20 บาท แต่ทันทีที่หุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 5.60 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4.70% “โมนิก้า” ก็จำเป็นต้องออกมาเม้าท์ถึงเรื่องที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นไงล่ะค่ะ
*ตบท้ายกันที่ EA เพื่อเสนอเป็นทางเลือกให้คนที่ชอบของดี เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ ยังเป็นอะไรที่น่าสนใจเสมอ แถมแพทเทิร์นของหุ้นในช่วงตลาดหุ้นผันผวนเป็นลักษณะ w-shape “โมนิก้า” ถึงมองการเด้งขึ้นมาปิดที่ 22.50 บาท บวกไป 0.30 บาท เป็นช่วงเริ่มต้นของการเล่นรอบใหม่ เพราะเที่ยวก่อนหน้านี้ หุ้นเคยขึ้นไปถึงระดับ 23.50 บาทมาแล้วนะซี