MEGA ธุรกิจยังมีจุดแข่ง

–คุณค่าบริษัท–

 

กลยุทธ์การแข่งขันของ บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ  MEGA นับว่ามีจุดแข็งทางการเครื่องหมายการค้าที่เป็นชั้นนำในตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มบำรุงสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ยา ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูง ประกอบกลุ่มผลิตภัณฑ์อยู่ภายใต้เครื่องหมายการค้าที่ได้ถูกจัดเป็นอันดับหนึ่ง หรือ 1ใน 5 อันดับสูงสุดของตลาดในด้านของยอดขายในหลายกลุ่มประเภทผลิตภัณฑ์ทั้งในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม และประเทศเมียนมาร์

บริษัทเชื่อว่าการที่เภสัชกร แพทย์ และผู้บริโภคได้รู้จัก และเชื่อถือผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทมาเป็นระยะเวลานานเป็นปัจจัยสำคัญต่อวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ของบริษัท รวมทั้งมีผลต่อความต้องการ และความสามารถในการทำกำไรให้แก่ผลิตภัณฑ์ของบริษัท นอกจากนี้ปัจจัยดังกล่าวยังทำให้บริษัทสามารถรักษา หรือเพิ่มความต้องการสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันของบริษัทได้อีกด้วย

การที่ MEGA มีผลิตภัณฑ์ชั้นนำในตลาดหลายรายการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของเครื่องหมายการค้าของบริษัท เพื่อให้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วอันเนื่องจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

กรณีในจุดแข็งของเครื่องหมายการค้าที่ทำให้ยอดขายของบริษัทเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ผลดังกล่าวยังคงส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 8,096.73 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 7,767.91 ล้านบาท ที่สำคัญมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิเพิ่มเข้ามา ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 695.75 ล้านบาท หรือ 0.80 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 547.88 ล้านบาท หรือ 0.63 บาทต่อหุ้น

 เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจต่อการลงทุน พบว่าฐานะทางการเงินของบริษัทยังดูดี เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 6,169.24 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 3,095.24 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 2 เท่า ถือว่าสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทมากพอสมควรในการขยายกิจการ

ส่วนหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวมแค่ 3,277.88 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นมากถึง 4,334.67 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.76 เท่าแสดงว่า ปัญหาหนี้สินของบริษัทยังไม่มีมารบกวน

ขณะที่นักวิเคราะห์ บล. ทิสโก้ มีการปรับรายได้และผลประกอบการปี 2559-2560  ลงประมาณ 2% ซึ่งเป็น 8.4 พันล้านบาท และ 9.4 พันล้านบาท ตามลำดับ เนื่องมาจากการปรับยอดขายของสินค้าแบรนด์ลง 4% ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารยังคงเดิม 42.6% และ 33% ตามลำดับ ส่วนผลประกอบการปี 2559-2560 อยู่ที่ 694 ล้านบาท และ 748 ล้านบาทตามลำดับ แต่จะไม่กระทบฐานะทางการเงินของ MEGA

เนื่องจากเชื่อว่า MEGA มีฐานะทางการเงินที่เหมือนกลุ่มค้าปลีกคือ มีเงินสดที่แข็งแกร่ง, การเติบโตสูงจึงยังแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสมใหม่ 20.40 บาท

…

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.บริษัท ยูนิสเตรทช์ จำกัด 433,311,400 หุ้น 50.08%

2.นายวิเวก ดาวัน 45,982,716 หุ้น 5.31%

3.MINDO ASIA INVESTMENT LIMITED 43,175,900 หุ้น 4.99%

4.STATE STREET BANK EUROPE LIMITED 34,579,140 หุ้น 4.00%

5.DBS BANK LTD 21,408,400 หุ้น 2.47%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย มีชัย วีระไวทยะ ประธานกรรมการ

2.นาย มีชัย วีระไวทยะ กรรมการอิสระ

3.นาย วิเวก ดาวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

4.นาย วิเวก ดาวัน กรรมการ

5.นาย กิริต ชาห์ กรรมการ