ซัดกันมั่ว!โมนิก้าและทีมงาน

*ลำพัง “โมนิก้า” นั่งเฝ้าหน้ากระดานหุ้นก็แทบจดข้อมูลสำคัญแทบไม่ทันอยู่แล้ว จู่ๆ ดันมีกูรูรายหนึ่งเม้าท์ถึงท่าทีของ ก.ล.ต. ที่แสดงอำนาจบาตรใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ เดี๊ยนเลยมีอาการของขึ้นในทันที เพราะสิ่งที่พวกเขาคิดมันไม่ช่วยให้แมงเม่าได้รับประโยชน์อะไรเลย แถมยังเป็นการปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เดี๊ยนขอถามหน่อยเถอะ..มันดีตรงไหนเจ้าขา!

*จริงๆ เดี๊ยนไม่อยากเข้าไปยุ่งอะไรมากมายกับความคิดของคนพวกนั้น เพราะไม่เคยอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง เลยไม่เข้าใจถึงกลไกของการลงทุนที่แท้จริงมันก็คือ มันนี่เกม! ซึ่งฝ่ายกำกับมีหน้าที่พยายามทำให้ทุกอย่างออกมาสู่สาธารณมากสุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ใช่ห้ามนักวิเคราะห์ออกมาให้ข่าวหลังจากไปทำ company visit..มันเพี้ยนไปกันใหญ่แล้วนะจ๊ะ

*นี่ยังไม่นับรวมเรื่องพยายามแทรกตัวเข้าไปอยู่ในบอร์ดของตลาดฯ ทั้งที่เสียงส่วนใหญ่จากโบรกเกอร์ไม่ให้การต้อนรับ “โมนิก้า” ถึงแปลกใจสุดๆ กับท่าทีของผู้กำกับตลาดหุ้น ซึ่งหันมาเล่นบทตัวป่วนไปทุกเรื่อง และหากเอาเรื่องเก่าที่มีการกำหนดพาร์ 0.50 บาท เข้ามาเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาด้วยแล้ว ย่อมทำให้เห็นว่าตลาดหุ้นในยุคนี้กลายเป็น control market สมใจอยากพ่อทูนหัวแล้วนะคะ

*วันนี้นำเสนอเพียงเท่านี้ก่อน..วันถัดไปจะพูดถึงวีรกรรมของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ทำให้ผู้กำกับตลาดหุ้นเกิดอาการหงุดหงิดสุดๆ จนต้องสำแดงฤทธิ์เดชแบบไม่บันยะบันยั้ง พร้อมกับขอใช้พื้นที่ตรงนี้พูดคุยถึงภาพรวมของดัชนี หลังเด้งขึ้นอย่างร้อนแรง ก่อนจะลงเอ่ยที่ระดับ 1,369.67 จุด บวกไป 12.98 จุด ด้วยมูลค่า 3.88 หมื่นล้านบาท มันเป็นเพียงการรีบาวด์ช่วงสั้นๆ นะจะบอกให้

*เนื่องจากดัชนีลงมาแตะจุดเด้งกลับที่บริเวณ 1,350 จุดแบบพอดีพอเจาะ จึงแรงซื้อจากกองทุนตัวแสบเข้ามาเป็นจำนวนมาก และยังได้แรงหนุนจากแมงเม่าช่วยซื้ออีกแรงหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ทุกอย่างฟื้นตัวในเวลาอันรวดเร็ว และสิ่งที่ต้องคิดต่อไปก็คือ ดัชนีเด้งขึ้นด้วยวอลุ่มไม่ถึง 4 หมื่นล้านบาทแบบนี้..มันจะไปได้ไกลสักกี่น้ำ ลองไปคิดเป็นการบ้านดูนะจ๊ะ

*น่าจะจบข่าวเม้าท์เป็นที่เรียบร้อย หลังจากทุกฝ่ายออกมาคอนเฟิร์มการประมูล 4G บนคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ และไม่มีการงัด ม.44 ออกมาใช้อย่างแน่นอน ส่งผลให้ข่าวลือเสียๆ หายๆ ที่เกิดขึ้นกับ กสทช. เป็นเพียงความพยายามสาดโคลนของกลุ่มคนบางกลุ่ม “โมนิก้า” ถึงรู้สึกด้วยตัวเองว่า สังคมนี้อยู่ยากขึ้นทุกที! เพราะหนึ่งในตัวตุ๊กตาที่เข้าไปเชื่อมโยงกับเรื่องนี้ก็คือ ADVANC นะซี

*ประเด็นของเรื่องนี้มันเกิดจากความไม่เต็มใจในการรับเซ้งใบอนุญาตต่อจากพ่อดอกมะลิ JAS หลังมีคนจากทางการขอร้องให้ช่วยชาติด้วยการรับใบดังกล่าวไปหน่อย “โมนิก้า” ถึงกับมีอาการเหม่อลอยปักใหญ่ๆ เพราะการกระทำดังกล่าวเหมือนเป็นการปล้นกลางแดด แต่ทันทีที่มีคำชี้แจงออกมาอย่างเป็นทางการ ก็ทำให้เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นเพียงเรื่อง ป.ญ.อ. เดี๊ยนถึงอยากรู้ว่าเมื่อทุกอย่างเริ่มตั้งเกมกันใหญ่..มันจะมีประเด็นไหนที่เป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” อีกอะป่าว

*เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มแบงก์ที่เผชิญกับแรงเทขายมาเป็นสัปดาห์ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่เกิดจากหลายแฟกเตอร์ด้วยกัน และหนึ่งในนั้นก็หนีไม่พ้นเรื่องผลประกอบการไตรมาส 1 ลดลงฮวบฮาบ ซึ่งดูเหมือนว่าเมื่อวันศุกร์ประเด็นดังกล่าวจะไร้น้ำหนักไปในทันที พร้อมกับมีแรงซื้อพรั่งพรูเข้ามาเป็นจำนวนมาก พร้อมกับทำให้หุ้น top pick แห่งค่ายสีเขียว KBANK กระชากจากแดนลบขึ้นมาปิดที่ 158 บาท บวกไป 1.50 บาทอย่างรวดเร็วเจ้าค่ะ

*ส่วนรายอื่นๆ อย่าง BBL SCB KTB ต่างพากันม้วนตัวกลับขึ้นมาปิดบวกหน้าสลอน “โมนิก้า” ถึงอยากให้คนที่กระโจนเข้าใส่ในเที่ยวนี้ คิดอีกสักนิดหนึ่งว่า หากกำไรออกมาแย่ตามคาด หรือบางเจ้าออกมาแย่กว่าที่คาด จังหวะนี้ควรถือหุ้นต่อไป หรือควรขายออกไปก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากข้อมูลที่มีอยู่ในมือมันบอกให้รู้ว่า ภาพรวมยังดูแย่! หลังโดนตั้งสำรองบานเบอะนะซี

*BH เป็นอีกหนึ่งรายที่ดูแย่พอกัน หลังราคาหุ้นรูดลงตั้งแต่เช้าจรดเย็น พร้อมกับทำให้โพซิชั่นของหุ้นอยู่ระหว่าง 2 ทางเลือก ซึ่งก็คือ “รีบาวด์” กับ “ทรุดตัว” เพราะการลงมาปิดที่ระดับ 198.50 บาท ลบไป 6.50 บาท หรือลงไป 3.20% ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยสองครั้งก่อนหน้านี้ลงมาแตะระดับดังกล่าวปุ๊บ ก็เด้งกลับขึ้นไปยืน 220 บาทในทันทีเจ้าค่ะ

*สำหรับหุ้นน้องใหม่อย่าง TPBI อาจเป็นหุ้นที่ไม่ค่อยถูกใจขาซิ่งสาย 8 แต่สำหรับคนที่มีส่ายป่านยาวๆ และมองมูฟเมนต์ของธุรกิจออกในระดับหนึ่ง ตรงนี้ถือเป็นจุดที่น่าลงทุนจริงๆ และการเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 15.40 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 390 ล้านบาท มันสะท้อนถึงกลุ่มคนบางกลุ่มได้ช้อนซื้อหุ้นเก็บไว้แล้ว เพราะมองว่า แวลูจริงต้องสูงกว่านี้ไงล่ะค่ะ

*ตบท้ายกันที่หุ้นน้องใหม่ชีวาวาย CHEWA หลังจากพยายามประคองตัว เพื่อรักษาภาพพจน์มาระยะหนึ่ง สุดท้ายก็มีอาการทำนบแตก แรงเทขายออกมาทั่วสารทิศอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน “โมนิก้า” ถึงรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เพราะรูปแบบของหุ้นมันเป็นแบ เปิดสูง..ปิดต่ำ เป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน ล่าสุดหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 1.73 บาท ลบไป 0.04 บาท เดี๊ยนบอกได้ทันทีว่า หากวันนี้ไม่รีบาวด์ หมดโอกาสฟื้นตัวแล้วเจ้าค่ะ