มาสาย แต่มาแน่แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

สำหรับนักลงทุนที่ติดหุ้น บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER มานานนับปี (บางคนติดตรึงดั้งเดิมอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ที่ราคามากกว่า 2.00 บาท) มีทางเลือกในช่วงที่ผ่านมาหลายเดือน 3 ทางคือขายตัดขาดทุนไปหาหุ้นตัวอื่น หรือถัวเฉลี่ยเพื่อลดต้นทุน หรือถือจำนวนเดิมเอาไว้รอว่าเมื่อไหร่กลับมาได้เหนือราคาที่ติดเอาไว้ ก็จะขายออกจากมือไป


สำหรับนักลงทุนที่ติดหุ้น บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER มานานนับปี (บางคนติดตรึงดั้งเดิมอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ที่ราคามากกว่า 2.00 บาท) มีทางเลือกในช่วงที่ผ่านมาหลายเดือน  3 ทางคือขายตัดขาดทุนไปหาหุ้นตัวอื่น หรือถัวเฉลี่ยเพื่อลดต้นทุน หรือถือจำนวนเดิมเอาไว้รอว่าเมื่อไหร่กลับมาได้เหนือราคาที่ติดเอาไว้ ก็จะขายออกจากมือไป 

เหตุผลก็เพราะว่า ผลประกอบการของบริษัทไม่เป็นไปตามที่ผู้บริหารประกาศเอาไว้ ด้วยปัจจัยสำคัญคือต้องรอการอนุมัติจากการไฟฟ้าภูมิภาคและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในการเชื่อมต่อโครงการไฟฟ้าทางเลือกที่เสร็จแล้วเพื่อรับรู้รายได้…ซึ่งอย่างที่รู้ มีขั้นตอนชนิดอืดเป็นเรือเกลือ

ผลลัพธ์ทางลบคือ ทำให้เป้าหมายจะรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไปหรือ COD พลาดเป้าไปมากมาย ทำให้การที่ SUPER ที่มีใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จำนวน 695.80 เมกะวัตต์ (MW) ในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) มีรายได้และกำไรต่ำกว่าเป้า โดยในปี 2558 มีกำไรติดลบ…ก็ขาดทุนน่ะแหละ….เพราะ แม้ว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รวมทั้งสิ้น 214.30 เมกะวัตต์ แต่ก็เข้ามาในช่วงปลายไตรมาส…. ไม่ได้ช่วยให้มีรายได้หรือกำไรกี่มากน้อย

เสียจังหวะและโอกาสของบริษัทยังไม่พอ แต่ยังทำให้นักลงทุนต้องติดหุ้นกันระนาว…..อย่างช่วยไม่ได้

 เพียงแต่ ทองแท้ที่แม้จะถูกหลอมละลายก็ไม่สูญหายไปไหน มูลค่ายังอยู่ครบ และมีแต่จะงอกเงยมากขึ้น

ปีนี้ นอกจากรายได้จากการลงทุนที่ COD ไปแล้ว 214.30 เมกะวัตต์ซึ่ง สามารถรับรู้รายได้และกำไรตั้งแต่ไตรมาสแรกเต็มจำนวนแล้ว ส่วนการลงทุนที่เหลืออยู่ที่เสร็จแล้วของโครงการรวม 695.80 เมกะวัตต์ ก็จะเริ่มบันทึกรายได้ในไตรมาสสองนี้เป็นต้นไป

ตัวเลข 695.80 เมกะวัตต์ นี้ เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาจากตัวเลขเดิม 510 เมกะวัต์ หลังจากที่ปีนี้ SUPER ได้เข้าซื้อกิจการเพื่อโตทางลัดในบริษัท อิเควเตอร์ โซลาร์ จํากัด (EQUATOR) ที่มี PPA จำนวน 75 เมกะวัตต์ บริษัท ดับเบิ้ลยู อาร์ พี อีเนอร์จี จํากัด (WRP) จำนวน 48 เมกะวัตต์ บริษัท โซลคิด โซล่าร์ จํากัด ที่มี PPA จำนวน 6 เมกะวัตต์ บริษัท นอร์ธ อีสต์ ฟิวเจอร์ อีเนอร์จี จํากัด (NEFE) กับ บริษัท เอส ทู พี อีเนอร์จี จํากัด (S2P) ที่มี PPA รวม 42 เมกะวัตต์ และท้ายสุด ลงทุนในกลุ่ม WXA 4567 ที่มี PPA จำนวน 23.8 เมกะวัตต์

 ดังนั้นไม่ว่าโครงการที่เหลือรอ COD จะบันทึกรายได้เร็วหรือช้าแต่นับตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป. ผลการดำเนินงานจะไปปรากฏในงบรวมตลอดปี 2559 ที่นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานกรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SUPER  มั่นใจอย่างมาก

ความมั่นใจที่ว่าคือ คาดว่าบริษัทจะมีรายได้เข้ามาเพิ่มขึ้น จากการขายไฟฟ้ารายได้ที่ประมาณ 800,000 บาทต่อเมกะวัตต์ต่อเดือน หรือมีรายได้ประมาณ 550 ล้านบาทต่อเดือน คิดเป็นประมาณ 6,000 ล้านบาทต่อปี อาจจะมีบวกลบบ้างตามเงื่อนไขบันทึกเร็วหรือช้า

ปฏิบัติการ “กระโดดข้ามรั้วผสมกระโดดไกล” ทางรายได้เช่นนี้  เมื่อเทียบกับงวดบัญชีสิ้นปี 2558 ที่มีรายได้แค่ประมาณ 300 ล้านบาทเศษๆ เท่านั้น….ใครว่าไม่มีอนาคต คงบ้าหรือบ๊องเท่านั้น น่าจับไปเข้าหลักสูตรปรับทัศนคติของ คสช.ชะมัด

 นี่เฉพาะโครงการโซลาร์ฟาร์มอย่างเดียว ยังไม่รวมที่มีแผนจะขยายการลงทุนไปยังพลังงานลม และพลังงานชีวมวล (ขยะ) อีก 

 เฉพาะแค่โครงการโซลาร์ฟาร์ม ก็จะมาแรงแซงหน้าเจ้าอื่นๆ กลายเป็นอันดับหนึ่งของผู้ผลิตพลังงานทางเลือกเต็มตัวในปีนี้ไปแล้วสมกับที่รอคอยกันมายาวนาน

คำประกาศล่าสุดของนายจอมทรัพย์ ที่ว่า ภายในปีนี้จะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ถึง 1,000 เมกะวัตต์ จึงพึงสดับและพิจารณา แม้จะไม่เชื่อ….ก็ไม่บังควรลบหลู่

นักลงทุนรายย่อยที่เคยพากันถอดใจ และทิ้งหุ้น SUPER จนเกือบลืมไปแล้ว คงต้องทบทวนอนาคตกันใหม่ว่าจะเชื่อนายจอมทรัพย์ และคณะ กันต่อ หรือ อีกครั้ง ดีหรือไม่

เชื่อหรือไม่ ว่ากันในอนาคต… แต่ที่แน่นอนก็คือข่าวเรื่องที่ SUPER ยกเลิกการจัดสรรและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) ถือเป็นข่าวดี เพราะนอกจากจะสะท้อนว่า มีเงินสดเหลือเพียงพอ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในโครงการผลิตและจัดจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มที่มีอยู่ในปัจจุบันแล้ว ยังช่วยให้มั่นใจว่าราคาหุ้น SUPER ที่ราคาเหนือ 1.20 บาทนั้น น่าจะเป็นราคาฐาน ก่อนทะยานขึ้นในระยะต่อไป

 ขอแค่สิ่งที่ประธานจอมทรัพย์พูดมา ….. เป็นความจริง 

ไม่ต้องถึงกับทั้งหมดหรอก แค่ครึ่งเดียว ราคาหุ้น 2.00 บาท น่าจะต่ำไปด้วยซ้ำ เพราะหมดเวลาที่ SUPER จะโตจากสินทรัพย์จากกำไร ไม่ใช่จากการเพิ่มทุนครั้งแล้วครั้งเล่า

 ยิ่งหากล้างขาดทุนสะสมหมด แล้วปันผลได้อีก….เริ่ดดดดดด

 จริงมั้ยจ๊ะ…. ท่านประธาน

 

 

Back to top button