พลังงานดันดัชนี โมนิก้าและทีมงาน

*นี่เป็นอีกหนึ่งครั้งที่บรรดาเกจิอาจารย์ดังพร้อมใจกันมองเป้าดัชนีในระยะสั้นที่ระดับ 1,460 จุด ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างสุกงอมอย่างเต็มที่ ก็ทำให้เรื่องร้ายกลายเป็นดีได้ในพริบตา “โมนิก้า” ถึงพยายามบอกให้คนเล่นหุ้นอย่าไปคิดอะไรมาก เพราะวันนี้ยังเป็นเกมของการ “คิดเร็ว ทำเร็ว” ตัวแปรเรื่องผลประกอบการมีผลบ้างนิดหน่อยเท่านั้นเจ้าค่ะ


*นี่เป็นอีกหนึ่งครั้งที่บรรดาเกจิอาจารย์ดังพร้อมใจกันมองเป้าดัชนีในระยะสั้นที่ระดับ 1,460 จุด ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างสุกงอมอย่างเต็มที่ ก็ทำให้เรื่องร้ายกลายเป็นดีได้ในพริบตา “โมนิก้า” ถึงพยายามบอกให้คนเล่นหุ้นอย่าไปคิดอะไรมาก เพราะวันนี้ยังเป็นเกมของการ “คิดเร็ว ทำเร็ว” ตัวแปรเรื่องผลประกอบการมีผลบ้างนิดหน่อยเท่านั้นเจ้าค่ะ

*ส่วนที่มีผลจริงๆ มาจากแรงซื้อของกองทุนตัวแสบ กับฝรั่งตาน้ำข้าว เพราะทุกครั้งที่ผู้เล่นหลักทั้ง 2 รายหันมาซื้อหุ้นอย่างหนักหน่วงทีไร ดัชนีทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หมู่นี้อะไรก็ดูดีไปหมด ถึงขนาดที่ว่า โลกนี้เป็นสีชมพูกันเลยทีเดียว! และผลดังกล่าวก็นำไปสู่การวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ทำให้ดัชนีวิ่งฝ่าแนวต้าน 1,420 จุดขึ้นมาอย่างง่ายดายด้วยนะคะ

*เชื่อหรือไม่ว่า 1 ในหลายเหตุผลที่มีการหยิบยกขึ้นมาเม้าท์มอยเป็นเรื่องเฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย! ซึ่งเป็นเรื่องที่มีการพูดกันแล้ว พูดกันอีก สุดท้ายยังถูกนำมาเป็นคำอธิบายแบบนี้ “โมนิก้า” ขอให้แฟนคลับใช้วิจารณญาณส่วนตัวตัดสินกันเอาเองว่า ดัชนีพุ่งขึ้นมาปิดที่ 1,423.90 บาท บวกไป 8.94 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.73 หมื่นล้านบาท มันมีส่วนเกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมากกว่าเหตุผลข้างต้นขนาดไหนพะยะค่ะ

*ประเด็นข้างต้นดูได้จากราคาหุ้น PTT กระชากขึ้น 3 วันติดต่อกัน จนทะลุแนวต้าน 290 บาทอย่างง่ายดาย พร้อมกับทำจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือน หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทำจุดสูงสุดใหม่ของปี ก่อนจะลงเอยด้วยการปิดที่ 313 บาท บวกไป 10 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่า 2.76 ล้านบาท ซึ่งมีผลทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้น 3 จุด มันเป็นกิมมิคง่ายๆ ที่นักเล่นมองดูก็รู้ทันทีเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ PTTEP หากดูตามเนื้อผ้าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ “โมนิก้า” กล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ราคาหุ้นต่ำเกินไปค่อนข้างเยอะ และการถีบตัวขึ้นมาปิดที่ 75 บาท บวกไป 3.75 บาท หรือขึ้นไป 5.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.90 พันล้านบาท ซึ่งมากเป็นอันดับ 2 ในกระดาน most active ก็เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่า ทุกครั้งที่นักลงทุนสถาบันหวนกลับเข้ามาลงทุนทีไร นี่คือหนึ่งในตัวเลือกอันดับแรกนะจะบอกให้

*ส่วนในรายของ GPSC ก็เป็นหนึ่งในหุ้นพลังงานที่ช่วยดันดัชนีได้อย่างสะแด่วแห้ว โดยตัวเองทะยานขึ้นไปทำ new high ในรอบ 11 เดือน(เกือบเท่ากับราคาเข้าเทรดในช่วง 3 วันแรก) ก่อนจะปิดที่ 27.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 6.70% ด้วยมูลค่า 960 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะขาขึ้นที่น่าติดตามดูสุดๆ เพราะเมื่อย้อนกลับไปดูในช่วงต้นปี 59 ราคาหุ้นยืนอยู่ที่ 22 บาท มันเหมือนเป็นการย้ำว่า เครื่องร้อนช้า พอเครื่องร้อน ก็วิ่งกระฉูดใช่ไหมเอ่ย?

*สำหรับในรายของ TOP ยังคงเป็นหุ้นพลังงานที่น่าสนใจไม่เสื่อมคลาย และเหตุผลที่ทำให้หุ้นตัวนี้อยู่ยงคงกระพันกว่าหุ้นพลังงานตัวอื่นๆ น่าจะมาจากแฟนคลับค่อนข้างเยอะ หุ้นถึงเคลื่อนตัวแบบไซด์เวย์อัพตั้งแต่กลางปี 58 จนถึงทุกวันนี้(จากฐานราคา 44 บาท วันนี้ขึ้นมาเกือบจะถึง 70 บาท) ซึ่งเป็นไซเคิลที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด แม้ในบางจังหวะจะอ่อนตัวลงไปลึก แต่ก็ขึ้นมาทำยอดใหม่ที่สูงกว่ายอดเดิมได้เป็นประจำ วานนี้ถึงเห็นหุ้นไต่ระดับขึ้นมายืนที่ 67.25 บาทไงล่ะค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่เกี่ยวข้องกับหุ้นพลังงานทางอ้อม “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่หุ้นปิโตรเคมีอย่าง IVL เพื่อเสนอเป็นออปชั่นให้กับพวกชอบฉายเดี่ยว หลังหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 26.00 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 4.40% ด้วยมูลค่า 690ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้หนึ่งวันเพิ่งโดนขายทิ้ง เดี๊ยนถือเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องเดากันเอาเองว่า มีโอกาสขึ้นไปทดสอบยอดเดิมที่บริเวณ 28 บาทหรือเปล่า?

*เช่นเดียวกับในรายของ PTTGC ทะยานขึ้นมายืนในระนาบ 61-62 บาท ซึ่งเป็นยอดอาถรรพ์ที่หุ้นวิ่งขึ้นมาแตะทีไร หลังจากนั้นอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟทุกที ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 63 บาท บวกไป 2.25 บาท ด้วยมูลค่า 1.20 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องเลือกแล้วว่า เอาอย่างไรดี! เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ มันมีอะไรแตกต่างจากก่อนหน้านี้ขนาดไหนน่ะสิ

*ประเด็นข้างต้นสอดคล้องกับทวงทำนองของหุ้น PLANB พอทะยานขึ้นไปแตะ 7 บาทปุ๊บ ก็ร่วงลงมายืนแถว 6.30บาทปั๊บ ต่อจากนั้นก็เด้งขึ้นกลับมาปิดที่ 6.95 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 390 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งฉากที่นักเล่นรอบไม่ควรพลาดโอกาสทองครั้งสำคัญ เพราะเมื่อเหลือบดูภาพใหญ่ที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ มันเป็นจังหวะขายนะจะบอกให้

*ตบท้ายกันที่หุ้น PSTC เพื่อบอกเล่าถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหุ้นตัวนี้ เพราะเป็นเวลากว่า 1 ปี 2 เดือนที่หุ้นตัวนี้เอาแต่มุดหัวลงลูกเดียว จู่ๆ ดันแสดงอภินิหารด้วยการพุ่งขึ้นมาปิดที่ 0.49 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 11.30% ด้วยมูลค่า 114 ล้านบาท มันเป็นภาพที่ฟ้องให้รู้ว่า ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรแน่ๆ ยิ่งมองค่า P/E  132 เท่า ก็บอกได้ทันทีว่า เหมาะสำหรับพวกนักเก็งกำไรแบบสุดโต่งเท่านั้นเจ้าค่ะ

Back to top button